Share on
×

Share

CU Living ARCH 5.0: ปลุกตึกเก่าให้ ‘หายใจ’ ด้วย Digital Twin รับมือโลกเดือด

CU Living Ax 5.0: ปลุกตึกเก่าให้ 'หายใจ' ด้วย Digital Twin รับมือโลกเดือด

ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็ว สถาบันการศึกษาไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ให้ความรู้ แต่กำลังกลายสภาพเป็นพื้นที่ทดลองปฏิบัติการจริง (Sandbox) สำหรับนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตผู้คน ล่าสุด คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญด้วยการผนึกกำลังกับ Cisco Systems (Thailand) ผู้นำด้านเทคโนโลยีเครือข่าย และ MFEC บริษัทไอทีชั้นนำของไทย เปิดตัวโครงการ “CU Living ARCH 5.0”

นี่ไม่ใช่โครงการห้องแล็บปิดตายในจินตนาการ แต่คือการเปลี่ยนพื้นที่ใช้งานจริงขนาด 2,000 ตารางเมตร ของอาคารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่มีอายุเก่าแก่ ให้กลายเป็นห้องปฏิบัติการมีชีวิต (Living Lab) เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเทคโนโลยีฝาแฝดดิจิทัล (Digital Twin) สามารถยกระดับคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย และการบริหารจัดการพลังงานได้อย่างไรในโลกความเป็นจริง

วิกฤติโลกเดือด: เมื่อความสบายไม่ใช่โจทย์หลักแต่คือความอยู่รอด

ศ.ดร.อรรจน์ เศรษฐบุตร รองคณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ศ.ดร.อรรจน์ เศรษฐบุตร รองคณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ศ.ดร.อรรจน์ เศรษฐบุตร รองคณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านของบริบทโลกที่น่าตระหนัก ท่านระบุว่า เมื่อ 30 ปีก่อน สถาปนิกออกแบบอาคารโดยใช้สถิติเพื่อทำนาย “สภาวะน่าสบาย (Thermal Comfort)” แต่ในพุทธศักราชนี้ โลกได้ข้ามผ่านภาวะโลกร้อน (Global Warming) ไปสู่ “ภาวะโลกเดือด (Global Boiling)” แล้ว

สถานการณ์นี้บีบบังคับให้โจทย์ของการบริหารจัดการอาคารเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่เราทำนายเพื่อความสบาย (Predict for Comfort) วันนี้เราต้องเปลี่ยนมา “ทำนายเพื่อความอยู่รอด (Predict for Survival)” แทน ความท้าทายใหม่จึงไม่ใช่แค่การทำให้อาคาร “เย็นสบาย” แต่ต้องตอบคำถามความเป็นความตายให้ได้ว่า “อากาศที่เรากำลังหายใจเข้าไปในตึกนี้ ปลอดภัยจากมลพิษหรือเชื้อโรคหรือไม่” หรือ “อาคารหลังนี้จะรับมือและปกป้องชีวิตผู้คนอย่างไรเมื่อเกิดภัยพิบัติ”

นอกจากนี้ การบริหารจัดการอาคารยุคใหม่ต้องเปลี่ยนการตัดสินใจด้วย “ความรู้สึก” (Feeling) ให้เป็น “ข้อเท็จจริง” (Fact) เพราะปัญหาคลาสสิกของการดูแลอาคารคือการตัดสินใจด้วยความรู้สึก เช่น ช่างอาคารรู้สึกว่าแอร์เย็นแล้ว แต่ผู้ใช้งานจริงร้อน หรือปัญหาราขึ้นฝ้าเพดานที่มักแก้ที่ปลายเหตุ แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ผู้ดูแลจะเห็นข้อมูลจริงว่าความชื้นสัมพัทธ์สูงเกินค่ามาตรฐาน ณ จุดใด นำไปสู่การแก้ปัญหาที่ต้นตอ

เส้นทางทศวรรษจาก BIM สู่จิตวิญญาณของตึก (Digital Twin)

ผศ.ดร.เทิดศักดิ์ เตชะกิจขจร หัวหน้าโครงการ อาจารย์ประจำภาควิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าถึงเส้นทางอันยาวนานกว่าทศวรรษ จุฬาฯ เริ่มเก็บข้อมูลอาคารในรูปแบบ การจำลองสารสนเทศอาคาร (Building Information Modeling หรือ BIM) มาตั้งแต่ปี 2013 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1.3 ล้านตารางเมตร แต่ข้อมูลเหล่านั้นยังเป็นเพียงไฟล์ดิจิทัลที่นิ่งเฉย

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เปรียบเสมือนการปลุกข้อมูลที่เคยหลับใหลให้ตื่นขึ้น โดยโครงการ CU Living ARCH 5.0 เข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปผ่านแผนการพัฒนาที่วางไว้อย่างเป็นลำดับขั้นตอน เริ่มต้นจากสถานะปัจจุบันที่โครงการดำเนินการสำเร็จแล้วเรียกว่าการสร้าง เงาดิจิทัล (Digital Shadow) ซึ่งมีหลักการทำงานสำคัญคือการเชื่อมต่อข้อมูลทางกายภาพจากอาคารจริง ไม่ว่าจะเป็นค่าอุณหภูมิ ความชื้น หรือระดับแสงสว่าง ให้ส่งเข้าสู่ระบบดิจิทัลแบบ ตามเวลาจริง (Real-time) กระบวนการนี้เปรียบเสมือนเงาที่จะเคลื่อนไหวตามเจ้าของร่างทันทีที่มีการขยับตัว ทำให้ผู้ดูแลอาคารสามารถรับรู้สภาวะความเป็นไปของอาคาร ณ ขณะนั้นได้อย่างทันท่วงที

เป้าหมายถัดไปของการพัฒนาคือการยกระดับจากเงาให้กลายเป็นฝาแฝดดิจิทัล (Digital Twin) ที่มีความสามารถในการคิดอ่าน หัวใจสำคัญของขั้นตอนนี้คือการทำให้ระบบดิจิทัลสามารถ “สั่งการกลับ” ไปควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในอาคารจริงได้ ตัวอย่างเช่น หากเซนเซอร์ตรวจจับพบว่าภายในห้องเรียนมีผู้ใช้งานจำนวนน้อย ระบบจะประมวลผลและสั่งการลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศลงโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน หรือระบบอาจนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อแจ้งเตือนเหตุการณ์ล่วงหน้าก่อนที่จะเกิดปัญหาขึ้น

ทีมงานได้วางหมุดหมายสำคัญในอนาคตไว้ที่เดือนพฤษภาคมปี 2026 โดยตั้งเป้าที่จะพัฒนาระบบให้ก้าวไปถึงขั้น การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และปัญญาประดิษฐ์ (Human-AI Collaboration) อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งในจุดนั้นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงเครื่องมือใช้งานทั่วไป แต่จะยกระดับขึ้นมาเป็นผู้ช่วยที่ทำงานสอดประสานไปกับมนุษย์เพื่อการบริหารจัดการอาคารอย่างยั่งยืน

เบื้องหลังความสำเร็จ: พลังสนับสนุนและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก

ความสำเร็จของโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก แคลเรนซ์ บาร์โบซา กรรมการผู้จัดการ สำนักงานผลกระทบทางดิจิทัล (Digital Impact Office) ภายใต้โครงการ การเร่งกระบวนการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลระดับประเทศ (Country Digital Acceleration หรือ CDA) ของ Cisco ที่มุ่งเน้นการสร้างความเท่าเทียมทางดิจิทัล (Inclusive Future for All) และปลดล็อกมูลค่าของการลงทุนทางเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา

วีระ อารีรัตนศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ ซิสโก้ ประเทศไทย และเมียนมาร์
วีระ อารีรัตนศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ ซิสโก้ ประเทศไทย และเมียนมาร์

ในส่วนของเทคโนโลยีเชิงลึก วีระ อารีรัตนศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ ซิสโก้ ประเทศไทย และเมียนมาร์ เผยถึงชุดเทคโนโลยี (Tech Stack) ระดับองค์กร (Enterprise Grade) ที่อยู่เบื้องหลัง:

  • โครงข่ายประสาทของตึก: หัวใจสำคัญคือเครือข่ายที่เสถียร (Cisco Catalyst & Meraki) และเซ็นเซอร์ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) จำนวนกว่า 30 ตัวที่ติดตั้งในพื้นที่ 2,000 ตร.ม. เซนเซอร์เหล่านี้ไม่ได้วัดแค่ค่าเดียว แต่วัดได้ 4-5 ค่าพร้อมกัน ทำให้มีข้อมูลไหลเข้าสู่ระบบถึง 15,000 จุดข้อมูล (Data Points) ต่อวัน
  • สมองผู้วิเคราะห์: Cisco Spaces เป็นแพลตฟอร์มที่ระบุพิกัดและ วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งาน (Location Analytics)ทำให้รู้ว่าพื้นที่ไหนมีการใช้งานหนาแน่น หรือพื้นที่ไหนถูกทิ้งร้าง เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
  • ความปลอดภัยต้องมาก่อน (Security by Design): สิ่งที่ Cisco ให้ความสำคัญที่สุดคือ “ความปลอดภัย” ข้อมูลทั้งหมดที่วิ่งผ่านระบบจะถูกเข้ารหัสและปกป้องด้วยมาตรฐานความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลก เพื่อป้องกันการถูกแฮ็กหรือรั่วไหล ซึ่งเป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับระบบอาคารอัจฉริยะ

บทบาทของนักบูรณาการระบบ (System Integrator): พ่อครัวปรุงแต่งข้อมูล

หากเปรียบ Cisco เป็นผู้จัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน และจุฬาฯ เป็นเจ้าของโจทย์ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC ก็เปรียบเสมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในบทบาทของ ผู้รวบรวมระบบ (System Integrator)

ดำรงศักดิ์ รีตานนท์ หัวหน้าฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานและการบูรณาการ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) (MFEC) อธิบายถึงภารกิจในการนำข้อมูลที่กระจัดกระจายมาผ่านกระบวนการ บูรณาการ (Orchestrate) เพื่อให้ระบบประมวลผลและนำไปสู่การตัดสินใจที่แม่นยำ โดยเน้นย้ำว่าในยุค AI ข้อมูล (Data) คือหัวใจสำคัญ ในขณะที่ สิงห์ เดชะภากร ได้เจาะลึกถึงการพัฒนา หน้าจอสรุปข้อมูลที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน (User-friendly Dashboard) ซึ่งมีความ หน่วง (Latency) เพียง 15 นาที เพื่อให้ข้อมูลมีความเสถียรที่สุดสำหรับการนำไปวิเคราะห์ต่อ พร้อมทั้งใช้ การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เพื่อหา ความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างตัวแปรต่างๆ เช่น จำนวนคนกับระดับ CO2 เพื่อนำไปสู่ การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance)

จากทฤษฎีสู่การใช้งานจริง (Use Case): เพื่อสุขภาวะและความปลอดภัย

โครงการนี้พิสูจน์ให้เห็นประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม โดยรองศาสตราจารย์กวีไกรศรีหิรัญอาจารย์ภาควิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยกตัวอย่างกรณีศึกษาที่สัมผัสได้จริง ได้แก่

  • แก้ง่วงด้วยข้อมูล (Well-being & Learning): ปัญหาเด็กหลับในห้องเรียนอาจไม่ได้เกิดจากความขี้เกียจ แต่เกิดจากระดับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่สูงเกินไป ระบบเซนเซอร์จะช่วยแจ้งเตือนให้เปิดระบบระบายอากาศเพื่อเติมออกซิเจน คืนความสดชื่นให้ผู้เรียน
  • ทางรอดเมื่อไฟไหม้ (Safety): เทคโนโลยี ฝาแฝดดิจิทัล สามารถคำนวณและแสดงเส้นทางหนีไฟที่ปลอดภัยที่สุดแบบเรียลไทม์บนมือถือ โดยอ้างอิงจากตำแหน่งต้นเพลิงจริง ช่วยลดความสูญเสีย
  • ลดรายจ่าย (Energy Saving): การบริหารจัดการพลังงานตามการใช้งานจริง คาดว่าจะช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 10-15% ซึ่งจะเป็นมูลค่ามหาศาลเมื่อขยายผลระดับมหาวิทยาลัย

ก้าวต่อไปสู่รากฐานเมืองอัจฉริยะ

CU Living ARCH 5.0 เป็นเพียงปฐมบทของการเดินทางองค์ความรู้ (Know-how) จากโครงการนี้จะถูกบรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อสร้าง “บัณฑิตพันธุ์ใหม่” ที่มีทักษะด้าน การบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกอัจฉริยะ (Smart Facility Management) ป้อนสู่อุตสาหกรรม

ยิ่งไปกว่านั้น โมเดลความสำเร็จนี้พร้อมที่จะถูก ขยายผล (Scale up) ไปสู่พื้นที่ 1.3 ล้านตารางเมตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นต้นแบบให้กับอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล และหน่วยงานราชการทั่วประเทศ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวข้ามจากการมี Smart City แค่ในนาม ไปสู่การเป็น เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ที่ขับเคลื่อนด้วย ข้อมูล (Data) อย่างแท้จริง

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ผ่าทางรอด! ยุค AI & Deep Tech ครองเมือง

Google Cloud เปิดตัว “PanyaThAI” ชู Agentic AI พลิกโฉมธุรกิจไทย

×

Share

ผู้เขียน