Share on
×

Share

TIA 2025 ‘สุวิตา Tellscore’ ชี้ทางรอดครีเอเตอร์มนุษย์วัดพลัง AI ด้วย ‘ความไว้ใจ’

TIAA 2025 'สุวิตา Tellscore' ชี้ทางรอดครีเอเตอร์มนุษย์วัดพลัง AI ด้วย 'ความไว้ใจ'

ท่ามกลางการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลที่ยังคงแข็งแกร่งสวนกระแสภาพรวม วงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์กำลังเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ นั่นคือการแข่งขันกับการรุกคืบของ AI Creator โดย สุวิตา จรัญวงศ์ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Tellscore ได้แสดงวิสัยทัศน์บนเวที Thailand Influencer Awards 2025 พร้อมชี้ทางรอดว่าอาวุธสำคัญของมนุษย์ที่จะใช้ต่อกรคือ “ความไว้ใจ (Trust)” และ “ความเป็นมนุษย์ (Human Touch)” ซึ่งเป็นสินทรัพย์หายากที่เทคโนโลยีไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ง่าย ๆ ในโลกยุคใหม่

สวนกระแสเศรษฐกิจโตไม่หยุดแต่ชะล่าใจไม่ได้

คุณสุวิตา เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรม Influencer Marketing ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอัตรา 15-20% ต่อปี ติดต่อกันเป็นเวลา 3-4 ปี แม้จะต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะท้าทายกว่าช่วงการระบาดของโควิด-19 ก็ตาม โดยปัจจัยหนุนสำคัญมาจากการที่อุตสาหกรรมนี้ตั้งอยู่บนฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งมักจะได้รับผลบวกเมื่อเกิดการสั่นคลอนทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงภายนอกอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นจากฝั่งแบรนด์และเอเจนซี่ยังอยู่ในระดับสูง สะท้อนจากผลสำรวจที่พบว่า 69% ของแบรนด์มีแผนจะเพิ่มงบประมาณด้าน Influencer Marketing ในปีหน้า ประกอบกับผลลัพธ์ของแคมเปญที่เน้นประสิทธิภาพ (Performance Marketing) ซึ่งสามารถวัดผลได้จริงทั้งในแง่ยอดคลิก, Conversion, Leads และยอดดาวน์โหลด ยังคงมีทิศทางที่ดีเยี่ยม สิ่งนี้ตอกย้ำถึงศักยภาพของครีเอเตอร์ในการสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดที่วัดผลได้ชัดเจน นอกเหนือจากการสร้างการรับรู้ในแบรนด์

มนุษย์ VS AI: สงครามครั้งใหม่วัดกันที่ “ความไว้ใจ”

คุณสุวิตา ได้ให้มุมมองถึงความท้าทายสำคัญของวงการ ซึ่งคือการแข่งขันระหว่างครีเอเตอร์มนุษย์ (Human Creator) และครีเอเตอร์ที่สร้างโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI Creator) ที่มีแนวโน้มจะแยกออกจากกันได้ยากขึ้น โดยเฉพาะการมาถึงของ Autonomous AI Creator ซึ่งเป็น AI ที่สามารถตัดสินใจและโต้ตอบได้เองแบบเรียลไทม์ เช่น กรณีผู้ประกาศข่าว AI ในประเทศจีนที่สามารถสนทนากับผู้ชมได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ทั้งนี้ จากผลการศึกษา “Foresight Research” ซึ่งจัดทำโดย Tellscore ได้จำลองภาพอนาคตของวงการครีเอเตอร์ไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งมีตั้งแต่ภาพอนาคตเชิงบวกที่เกิดจากความร่วมมือในการกำกับดูแลอย่างสร้างสรรค์ ไปจนถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด คือภาวะล่มสลายของอุตสาหกรรมจากปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ ข่าวปลอม และกลุ่มทุนสีเทา

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางแนวโน้มดังกล่าว นางสาวสุวิตาเน้นย้ำว่า ข้อได้เปรียบสำคัญของครีเอเตอร์มนุษย์ยังคงเป็นคุณสมบัติที่ AI ลอกเลียนแบบได้ยาก ประกอบด้วย ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ความจริงแท้ (Authenticity) ความไว้วางใจ (Trust) ความผูกพันทางอารมณ์ (Emotional Bonding) และความเป็นมนุษย์ (Human Touch) โดยเธอกล่าวว่า “ในอนาคตอันใกล้ที่ AI จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา สิ่งเหล่านี้จะเป็นเรื่องแรร์ (Rare) จะเป็นเรื่องที่หายาก” พร้อมให้คำแนะนำแก่เหล่าครีเอเตอร์ว่า การสร้างแบรนด์บุคคล (Personal Branding) ที่ตั้งอยู่บนความไว้วางใจและความเป็นมนุษย์ คือกลยุทธ์สำคัญที่จะสร้างความแตกต่างและความได้เปรียบในระยะยาว

คอนเทนต์ระดับอาวุธ (Weapon-Grade Content) และพลังของการชี้นำสังคม

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมา คือการกล่าวถึงพลังของคอนเทนต์ในยุคปัจจุบันที่ถูกนิยามว่าเป็น “Weapon-Grade Content” หรือคอนเทนต์ที่ทรงอิทธิพลเทียบเท่าอาวุธ ซึ่งมีความสามารถในการชี้นำความคิดและเข้าควบคุมบทสนทนาหลัก (Narrative) บนโลกโซเชียลมีเดียได้อย่างมีนัยสำคัญ

คุณสุวิตา ได้ชี้ให้เห็นว่าพลังดังกล่าวเปรียบเสมือนดาบสองคม โดยด้านหนึ่งได้ถูกนำไปใช้ในทางที่น่ากังวล เธอได้อ้างอิงถึงผลการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ค้นพบข้อมูลเชิงลึกว่า ในประเด็นการเมืองบางหัวข้อ จากเดิมที่ทิศทางข่าวสารถูกควบคุมโดยสื่อกระแสหลัก ปัจจุบันกลับพบว่ามีครีเอเตอร์กว่า 500 คน เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับ ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (Information Operations หรือ IO) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรากฏการณ์ที่อิทธิพลได้ถูกกระจายออกจากศูนย์กลางไปสู่ปัจเจกบุคคล และสามารถนำไปใช้เพื่อบิดเบือนการรับรู้ของสังคมในวงกว้างได้

ในทางกลับกัน พลังของครีเอเตอร์ก็สามารถนำไปใช้ในเชิงสร้างสรรค์และปกป้องผลประโยชน์ของประเทศได้เช่นกัน ดังกรณีที่เกิดการรวมตัวของครีเอเตอร์ไทยจำนวนมากที่ร่วมกันสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อตอบโต้และนำเสนอข้อมูลอีกด้านหนึ่งของสารคดี “The Dark Side of Thailand” ที่ผลิตโดยสื่อต่างชาติ โดยชี้ให้เห็นว่าเนื้อหาบางส่วนอาจไม่ถูกต้องนัก การเคลื่อนไหวในครั้งนั้นประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงทิศทางของบทสนทนาบนโลกออนไลน์ และช่วยปรับแก้ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“นี่คือพลังของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในปัจจุบัน เกมได้เปลี่ยนไปแล้ว ความจริงบนโลกโซเชียลมีเดียได้เปลี่ยนไป เรามีส่วนในการควบคุม Narrative ของเรากันเอง” คุณสุวิตากล่าวสรุปถึงพลังและความรับผิดชอบที่อยู่ในมือของเหล่าครีเอเตอร์

แนะ 5 กลยุทธ์‘เปลี่ยนโลกพารอด’ ทางรอดครีเอเตอร์ยุคใหม่

คุณสุวิตาได้นำเสนอ 5 แนวทางกลยุทธ์สำคัญภายใต้ธีม ‘เปลี่ยนโลกพารอด’ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับแบรนด์และครีเอเตอร์ในยุคปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

ประการแรก คือการเปลี่ยนมุมมองด้านการสร้างแบรนด์ (Branding) จากเดิมที่ยึดติดกับ Brand Book ไปสู่การสร้างแบรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยอิทธิพลทางความคิด (Influence) โดยให้ความสำคัญกับความเป็นมนุษย์ (Human Touch) และการสร้างความไว้วางใจ (Trust) เพื่อเปลี่ยนจากผู้ติดตาม (Audience) ให้กลายเป็นชุมชน (Community) ที่มีความเชื่อมั่นและภักดีต่อแบรนด์

ประการที่สอง คือการปรับเปลี่ยนวิธีคัดเลือกอินฟลูเอนเซอร์ โดยก้าวข้ามการพิจารณาจากตัวเลขเชิงปริมาณ เช่น ยอดผู้ติดตามหรือ Engagement ไปสู่การเลือกตาม “บทบาท” (Role) ที่สามารถเชื่อมโยงทางอารมณ์กับกลุ่มเป้าหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นบทบาทผู้สร้างความบันเทิง (Entertainer) ผู้สร้างแรงบันดาลใจ (Inspirer) ผู้โน้มน้าวใจ (Persuader) หรือผู้เชี่ยวชาญที่ให้ความรู้ (Expert)

ประการที่สาม สำหรับตลาดระหว่างองค์กร (B2B) ได้มีการแนะนำ “Side-in Strategy” หรือกลยุทธ์การเข้าถึงทางอ้อมไปยังผู้บริหารระดับสูง ผ่านคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับความสนใจในบทบาทส่วนตัวนอกเหนือจากการทำงาน (Casual Time) เช่น กอล์ฟ สุขภาพ หรือยานยนต์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บุคคลเหล่านั้นเปิดรับอิทธิพลจากครีเอเตอร์ได้ง่ายที่สุด

ประการที่สี่ คือการขยายขอบเขตอิทธิพลจากโลกออนไลน์สู่กิจกรรมในโลกจริง (Offline Event) เพื่อลดการพึ่งพาอัลกอริทึม โดยปรากฏการณ์ความสำเร็จของครีเอเตอร์แถวหน้าของไทยหลายคนที่สามารถจัดงาน Talk, Conference และ Fan Meet ขนาดใหญ่ได้ แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลบนโลกออนไลน์สามารถแปรเปลี่ยนเป็นการตอบรับอย่างล้นหลามในโลกจริงได้ ซึ่งคุณชี้ว่า “ประเทศไทยมีความก้าวหน้าในเรื่องนี้อย่างมาก จนประเทศเพื่อนบ้านต้องมาศึกษาดูงาน”

และประการสุดท้าย คือการยกระดับสถานะจากครีเอเตอร์สู่การเป็น “ผู้ประกอบการคอนเทนต์” (Content Entrepreneur) ซึ่งหมายถึงผู้สร้างสรรค์ที่ต้องมีความเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้ง สามารถต่อยอดไปสู่การสร้างผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของตนเองได้สำเร็จ เช่น กรณีของ คุณอูน ไดมอนด์เกรนส์ (คุณอูน ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ หรือ อูน Diamond Grains) ที่เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรหลักอย่าง ไอคอนสยาม ที่ประกาศจุดยืนในการเป็นแพลตฟอร์มเพื่อส่งเสริมและเติบโตไปพร้อมกับครีเอเตอร์ในการนำเสนอเรื่องราวของไทยสู่ระดับโลก และ ไทยประกันชีวิต ซึ่งต่อยอดความเป็นผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่สร้างแรงบันดาลใจ ด้วยการเปิดตัวรางวัลพิเศษ “Best Meaningful Content” เพื่อส่งเสริมคอนเทนต์เชิงบวกในสังคมออนไลน์

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

AIS คว้าสิทธิ์ยิงสด NBA ฤดูกาล 2025-2026 ประเดิมด้วย 5 แมตช์ชมฟรี

ttb พลิกโฉมองค์กรด้วย Data สร้างประสบการณ์ลูกค้า-หยุดภัยการเงิน

×

Share

ผู้เขียน