Share on
×

Share

10 ปี DIPROM-Delta ดึง ‘Creator’ เสริมทัพ ‘สตาร์ตอัพ’

10 ปี DIPROM-Delta ดึง 'Creator' เสริมทัพ 'สตาร์ตอัพ'

ในวาระครบรอบ 10 ปี ของโครงการ DIPROM-Delta Angel Fund ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) และบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้มีการประกาศปรับทิศทางกลยุทธ์ครั้งใหม่ โดยในปี 2568 นี้ ได้มอบเงินทุนรวม 5 ล้านบาท แก่ผู้ประกอบการ 31 ราย ซึ่งแบ่งเป็น “ดีพเทคดาวรุ่ง” (สตาร์ตอัพ) 10 ราย และ “คอนเทนต์ครีเอเตอร์” 21 ราย

การเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตาคือการดึงกลุ่มผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ เข้ามาผนึกกำลังในระบบนิเวศเป็นครั้งแรก การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการประเมินว่า ในเกมธุรกิจยุคใหม่ ลำพังนวัตกรรมอาจไม่เพียงพอ แต่จำเป็นต้องมีการสื่อสารที่แข็งแกร่งเพื่อสร้างการเติบโตในตลาด

ถอดโจทย์: ทำไม นวัตกรรมอย่างเดียวไม่พอ?

ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมา คือการยอมรับว่านวัตกรรมเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อความสำเร็จทางธุรกิจ สะท้อนจากจุดอ่อนที่พบในสตาร์ตอัพไทย ซึ่งแม้จะล้ำหน้าด้านเทคโนโลยี แต่กลับขาดทักษะด้านการประกอบธุรกิจและการตลาด

ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ชี้ว่า สตาร์ตอัพคืออนาคตของเศรษฐกิจไทย แต่ในช่วงแรกเริ่ม สตาร์ตอัพมักเก่งด้านนวัตกรรม แต่ยังขาดความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้เทคโนโลยีที่มีศักยภาพไม่สามารถถูกสื่อสารหรือต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้เท่าที่ควร นี่จึงเป็นช่องว่างที่โครงการฯ ตั้งเป้าหมายเข้ามาเติมเต็ม โดยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โครงการนี้เป็นกลไกสำคัญในการลดอุปสรรคการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

3 กลยุทธ์ใหม่ปั้นสตาร์ตอัพสู่ตลาด

เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว ณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ระบุว่า ในปี 2568 โครงการได้ยกระดับสำหรับสตาร์ตอัพในระยะเติบโต (Growth stage) ด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

  1. ขยายตลาดผ่าน Content Creator: เป็นการเชื่อมโยงสตาร์ตอัพที่เก่งเทคโนโลยี แต่ต้องเสริมเรื่องการเล่าเรื่อง (Storytelling) เข้ากับผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ เพื่อใช้พลังของโซเชียลมีเดียในการสร้างการรับรู้และเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่
  2. พิสูจน์นวัตกรรมในตลาดจริง (PoC): เปิดช่องทางให้สตาร์ตอัพได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรม เพื่อทดลองใช้นวัตกรรมในตลาดจริง ลดความเสี่ยง และสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน โดยมีพันธมิตรสำคัญเข้าร่วม อาทิ กลุ่มเซ็นทรัล (CENTRAL THAM), กรุงเทพมหานคร (BMA) และโรงพยาบาลปทุมธานี
  3. เชื่อมโยงสู่แหล่งทุนที่ใหญ่ขึ้น: นอกจากการสนับสนุนจากเดลต้าฯ ยังได้ผนึกกำลังกับ Shark Tank Thailand เพื่อเปิดประตูให้สตาร์ตอัพไทยเข้าถึงโอกาสการลงทุนที่ใหญ่ขึ้น

สำหรับการสนับสนุนในปีนี้ มีการจัดสรรงบประมาณรวม 5 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินทุน 4 ล้านบาทสำหรับสตาร์ตอัพด้านนวัตกรรม 10 กิจการ และ 1 ล้านบาทสำหรับกลุ่มคอนเทนต์ครีเอเตอร์ 21 กิจการ

ทศวรรษแห่งการสร้างรากฐาน: ผลลัพธ์ 10 ปี Angel Fund

ตลอดระยะเวลา 10 ปีนับตั้งแต่ปี 2559 ความร่วมมือนี้ได้สร้าง “ผู้ประกอบการอัจฉริยะ” (Smart Entrepreneurs) เข้าสู่วงการแล้วกว่า 237 ราย ด้วยเงินทุนสนับสนุนรวมกว่า 38.16 ล้านบาท และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้แล้วกว่า 1,000 ล้านบาท

ในมุมของภาคเอกชน วิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า บทบาทของบริษัทไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการให้เงินทุน แต่ยังรวมถึงการเป็นที่ปรึกษา (Mentorship) เพื่อช่วยให้สตาร์ตอัพมีรากฐานการดำเนินงานที่มั่นคง (Solid Operational Model) และพร้อมเปิดโอกาสในการทำ Proof of Concept (PoC) ร่วมกัน เพื่อช่วยให้สตาร์ตอัพทดลองใช้โซลูชั่นในภาคอุตสาหกรรมจริง และเติบโตในเวทีระดับโลก

เปิดโฉมผู้ชนะ Angel Fund Connect 2025

สำหรับผลการตัดสินในปีนี้ สะท้อนถึงการมุ่งเน้นนวัตกรรมดีพเทคในหลากหลายสาขา อาทิ

  • ด้านการศึกษา (EdTech): รางวัลชนะเลิศ (1,000,000 บาท) ได้แก่ บริษัท อีซี่คิดส์ โรโบติกส์ จำกัด ผู้พัฒนาชุดหุ่นยนต์ฝึกทักษะการเขียนโปรแกรมที่รองรับ 3 ภาษา (BLOCK-BASED, PYTHON, C/C++)
  • ด้านอุตสาหกรรม (IndustrialTech): รางวัลที่ 2 (700,000 บาท) ได้แก่ บริษัท เมอร์ลิเนียม จำกัด (ในเทปเสียงระบุชื่อ มิลเลนเนียม) ซึ่งใช้เทคโนโลยี IoT และ AI ในการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนความผิดปกติของเครื่องจักรในโรงงานแบบเรียลไทม์
  • ด้าน AI/Big Data: รางวัลที่ 3 (500,000 บาท) ได้แก่ บริษัท ดิจิตอล ไดอะล็อก จำกัด ผู้พัฒนา AI และแพลตฟอร์ม Data Management เพื่อบริหารจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่
  • ด้าน BioTech/FoodTech: บริษัท ซีวีดี คอร์ป จำกัด (CBD Code ในเทปเสียง) กับนวัตกรรมโปรตีนทางเลือก “MUU” ที่ผลิตนมโดยไม่มีแม่วัว จากกระบวนการหมักแบบแม่นยำ (Precision Fermentation)
  • ด้าน GreenTech: บริษัท รีเวสเทค จำกัด (Request ในเทปเสียง) ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลจากขยะทางการเกษตร
10 ปี DIPROM-Delta ดึง 'Creator' เสริมทัพ 'สตาร์ตอัพ'
(ที่ 5 จากซ้าย) – พิมพ์ลดา ไชยปรีชาวิทย์ (เจ้าของเพจ PEAR is hungry)

ในส่วนของกลุ่ม Content Creator รางวัลชนะเลิศ (300,000 บาท) เป็นของ พิมพ์ลดา ไชยปรีชาวิทย์ (เจ้าของเพจ PEAR is hungry) และ พีรารัตน์ ศิรัตน์โชคอนันต์ รางวัลที่ 2 (200,000 บาท) ได้แก่ สุนิสา ทวีสุข เจ้าของผลงาน โค้ดดิ้งพลังพิเศษ และรางวัลที่ 3 (100,000 บาท) เป็นของ เขมิกา สุขประสงค์ดี เจ้าของผลงาน ป้าป้าเปเปอร์

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

จุฬาฯ-NIA เปิด ‘Chula-NIA Grant’ ให้ทุน 1 ล้าน ปั้นสตาร์ตอัพ เริ่มได้แม้มีแค่ ‘แนวคิด’

‘CodeVenture’ สตาร์ตอัพไทย เปลี่ยนการสอนโค้ดดิ้งเด็กให้เป็นเกม

×

Share

ผู้เขียน