การที่กลุ่ม SCBX ตัดสินใจกระโจนเข้าสู่สนามรบ Virtual Bank ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ แต่สิ่งที่น่าจับตามอง คือ วิธีคิด และอาวุธ ที่พวกเขาเลือกใช้ในการรบครั้งนี้ นี่ไม่ใช่การที่ธนาคารไทยพาณิชย์ขยายสาขาดิจิทัล แต่เป็นการ ถอดเกราะเก่า และสร้างนักรบคนใหม่ ขึ้นมาในชื่อ BankX เพื่อลงสนามที่กติกาถูกเขียนขึ้นใหม่ทั้งหมด
คำถามที่น่าสนใจที่สุดไม่ใช่ ทำไม SCBX ถึงอยากทำ? แต่คือ ทำไมยักษ์ใหญ่ที่มีทุกอย่างพร้อม ทั้งแอป SCB EASY ที่มีผู้ใช้หลายสิบล้านคน ถึงยังต้องสร้างธนาคารใหม่อีกแห่ง? คำตอบนั้นชัดเจน คือ เพื่อฆ่าจุดอ่อนของตัวเอง
เรือบรรทุกเครื่องบินกับเรือเร็ว
ธนาคารไทยพาณิชย์ดั้งเดิม คือ เรือบรรทุกเครื่องบิน (Aircraft Carrier) ที่ทรงพลัง มีฐานลูกค้ามหาศาล และมีความน่าเชื่อถือสูง แต่ก็อุ้ยอ้าย เคลื่อนตัวช้า และติดกับต้นทุนคงที่มหาศาล (Legacy Cost) ทั้งสาขา พนักงาน และระบบ Core Banking เก่าแก่
ในทางกลับกัน Virtual Bank คือ เรือเร็ว (Speedboat) ที่ถูกออกแบบมาให้เล็ก คล่องตัว ต้นทุนต่ำ และพร้อมพุ่งทะยานไปในน่านน้ำใหม่ที่เรือใหญ่เข้าไม่ถึง นั่นคือกลุ่มลูกค้า Underbanked หรือกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงบริการการเงินในระบบ
SCBX ฉลาดพอที่จะไม่พยายามเอาเรือบรรทุกเครื่องบินไปไล่จับเรือเร็ว พวกเขาจึงสร้าง BankX ขึ้นมาเป็นเรือเร็วของตัวเอง เพื่อสู้ในเกมที่ความเร็วและประสิทธิภาพในการใช้ข้อมูล (Data Efficiency) คือผู้ชนะ
การเคลื่อนไหวนี้ยิ่งชัดเจนขึ้น ตามรายงานข่าวจากประชาชาติธุรกิจ ที่ระบุว่า SCBX ได้แต่งตั้ง ปุณณมาศวิจิตรกุลวงศา เข้ามานั่งในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ BankX ตอกย้ำว่านี่คือเกมของบริษัทเทคโนโลยี ไม่ใช่ธนาคารในกรอบเดิม
อาวุธลับ: การผนึกกำลังเกาหลีใต้และจีน
พันธมิตร ที่ SCBX เลือกมาร่วมทัพ นี่ไม่ใช่แค่การจับมือธรรมดา แต่คือการสร้าง Dream Team ที่สมบูรณ์แบบ
KakaoBank จากเกาหลีใต้ คือ หน้าบ้าน (User Experience) ที่เก่งที่สุดในโลก KakaoBank คือปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนคนเกาหลีใต้ทั้งประเทศให้มาใช้ธนาคารดิจิทัล ด้วยความเข้าใจง่าย ใช้งานสนุก และผสานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน พวกเขาคือ ศาสตร์ ของการมัดใจลูกค้า
–SCBX ร่วมมือกับ KakaoBank ยืนยันความพร้อมขอใบอนุญาตจัดตั้ง Virtual Bank ในไทย
WeBank จากจีน คือ ห้องเครื่อง (Technology Engine) ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก WeBank อยู่เบื้องหลัง Wechat Pay และเป็นธนาคารดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยี AI และ Alternative Data (ข้อมูลทางเลือก) ในการวิเคราะห์สินเชื่อได้อย่างแม่นยำ พวกเขาคือศิลป์ของการบริหารความเสี่ยงและสเกลระบบให้รองรับคนหลายร้อยล้านคน
BankX จึงไม่ได้เกิดมาเป็น ธนาคารไทย แต่เกิดมาเป็นบริษัท Tech-Fin ระดับโลก ที่ยืมสมองของเกาหลีใต้และพละกำลังของจีน มาบุกตลาดไทยโดยมี SCBX เป็นผู้กุมหางเสือ
–SCBX จับมือ WeBank พันธมิตรด้านเทค สู้ศึก Virtual Bank
ภารกิจที่แท้จริง: ไม่ใช่แย่งลูกค้าแต่คือสร้างลูกค้าใหม่
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ได้ให้ใบอนุญาต Virtual Bank เพื่อมาแย่งลูกค้าเงินฝาก หรือลูกค้าสินเชื่อบ้านจากธนาคารเดิม เป้าหมายของธปท. ชัดเจน คือการ อุดช่องว่าง ทางการเงิน ให้บริการกลุ่มคนที่ธนาคารเดิมมองไม่เห็นหรือไม่คุ้มที่จะให้บริการ เช่น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ไรเดอร์ ฟรีแลนซ์ หรือเกษตรกรรายย่อย
BankX จะใช้พลังของ WeBank ในการประมวลผลข้อมูลมหาศาล เช่น ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ ข้อมูลการค้าขายเพื่อสร้าง Credit Score รูปแบบใหม่ และปล่อยสินเชื่อให้คนเหล่านี้ได้ในต้นทุนที่ต่ำที่สุด นี่คือการเปลี่ยน คนที่กู้ไม่ได้ ให้กลายเป็น ลูกค้าที่กู้ได้
สมรภูมิที่แท้จริงเพิ่งเริ่มต้น
การประกาศผลผู้ได้รับใบอนุญาต Virtual Bank ไม่ใช่แค่ชัยชนะของกลุ่ม SCBX เท่านั้น แต่เป็นเพียง “ตั๋วเข้าสนามรบ” ที่มีผู้เล่นรวม 3 ราย โดยอีก 2 รายที่ผ่านการคัดเลือก (ตามรายงานข่าวล่าสุด) คือ
- กลุ่มพันธมิตรที่นำโดย KTB-AIS (ธนาคารกรุงไทย AIS และโออาร์)
- กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยเครือซีพี (CP) และ Ant Group
ตามกรอบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผู้ชนะทั้ง 3 ราย จะมีเวลาประมาณ 1 ปีในการเตรียมความพร้อมด้านระบบ และคาดว่าจะสามารถ เริ่มให้บริการได้จริงในช่วงกลางปี 2026
ของจริงคือการแข่งขันหลังจากนี้ SCBX ไม่ได้กำลังแข่งกับธนาคารอื่นในไทย หรือแม้แต่คู่แข่งอีก 2 รายที่ได้ไลเซนส์เท่านั้น แต่พวกเขากำลังเดิมพันว่า โมเดล KakaoBank + WeBank ที่พวกเขาประกอบสร้างขึ้นมา จะสามารถเจาะหัวใจคนไทยกลุ่มใหญ่ที่รอคอยโอกาสทางการเงินได้สำเร็จหรือไม่ และนี่คือเกมที่น่าตื่นเต้นที่สุดในรอบทศวรรษของวงการการเงินไทย
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Pay Solutions ปิดปี 2025 ยอดธุรกรรมทะลุ 10,000 ล้านบาท
ส่องทิศทาง 3 เหรียญไทย ‘JFIN-KUB-SIX’ มุ่งสู่ RWA และ Green Tokenization
