Share on
×

Share

นครพนม โชว์ศักยภาพเมืองรองกำลังโต LINE MAN Wongnai เร่งขยายบริการ

นครพนม โชว์ศักยภาพเมืองรองกำลังโต LINE MAN Wongnai เร่งขยายบริการ

นครพนม ไม่ได้มีดีแค่การเป็นมูแลนด์แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในภาคอีสาน แต่ยังเป็นหนึ่งในจังหวัดที่เติบโตโดดเด่นที่สุดสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภาค เป็นตัวอย่างชัดเจนของเทรนด์ ‘เมืองรองกำลังโต (High Growth City)’ สอดคล้องกับกลยุทธ์ LINE MAN ที่มุ่งขยายบริการเข้าถึงอำเภอรองและพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศมากขึ้น

อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ LINE MAN Wongnai ให้ข้อมูลในการเสวนาหัวข้อ นครพนม Next Chapter พลิกเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัลว่า จังหวัดนครพนมถือเป็นหนึ่งในจังหวัดที่เติบโตโดดเด่นที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นตัวอย่างชัดเจนของเทรนด์ ‘เมืองรองกำลังโต (High Growth City)’ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ LINE MAN ที่มุ่งขยายบริการเข้าถึงอำเภอรองและพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศมากขึ้น

นับจากยอดออเดอร์ในนครพนมเติบโตเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงพฤติกรรมการใช้บริการดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคท้องถิ่น ซึ่งจากข้อมูลล่าสุด ภาพรวมการเติบโตแบบปีต่อปี พบว่า นครพนมมีอัตราการเติบโตของ GMV (Gross Merchandise Volume) สูงถึง 16% เมื่อเทียบกับเฉลี่ยภาคอีสานที่ 14% จำนวนออเดอร์เติบโต 12% จากเฉลี่ยภาคอีสานอยู่ที่ 10% จำนวนผู้ใช้เติบโต 11% จากภาคอีสานเฉลี่ย 5% แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของฐานลูกค้าและความนิยมในบริการเดลิเวอรีที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส้มตำอาหารยอดนิยมตลอดกาล-มัทฉะมาแรง

ส่วนพฤติกรรมผู้บริโภค พบเมนูยอดนิยมของคนอีสาน ได้แก่ ส้มตำ โดยเฉพาะตำป่า และตำปูปลาร้า ส่วนเครื่องดื่มยอดฮิต คือ อเมริกาโน่ และมัทฉะที่เป็นเทรนด์กำลังมาแรง นอกจากนี้ หมวดเครื่องดื่มที่ติดอันดับยอดนิยมยังมีแบล็คคอฟฟี่ ชาเขียวนม เอสเพรสโซ่เย็น ชาไทย และช็อกโกแลต หมวดอาหารมีเมนูขายดีคือ ตำลาว ข้าวมันไก่ และข้าวผัดหมู ช่วงเวลาพีคของการสั่งอาหารคือ 11.00–14.00 น.

ประเภทอาหารที่เติบโตเร็วในปีนี้ได้แก่ เพียวมัทฉะ สตรอเบอร์รี่ซันเดย์ พรีเมียมมัทฉะลาเต้ รามยอนเผ็ดเกาหลี และไก่เกาหลี และขนมปังเกลือ (Shio Pan) สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคในภูมิภาคเริ่มเปิดรับเมนูใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายมากขึ้น และอายุของประชากรในพื้นที่ไม่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการใช้บริการเดลิเวอรี “เพราะถ้าแม่อยากกิน ก็ใช้ลูกสั่งได้”

ร้านยอดนิยมบน LINE MAN จังหวัดนครพนม ได้แก่ ร้านไก่จ๋า ร้านส้มตำใบเตย ร้านตำแซ่บ ครัวโพธิ์ศรี ร้านตำตุ๊ปุ๊ สาขานครพนม ร้านโปรด Nomu Coffee and Dessert ส้มตำป้าน้อย พรเทพ อาหารเช้า แอบอร่อย ตามสั่ง 2 และตำยำยั่ว

จากข้อมูลยังพบว่า เมืองรองในภาคอีสานเติบโตได้ดีมาก โดย Top 5 เมืองรองที่เติบโตสูงสุดบน LINE MAN ได้แก่ สุรินทร์ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมุกดาหาร รวมถึงอำเภอขนาดเล็กที่แพลตฟอร์มเข้าไปให้บริการแล้ว เช่น ด่านซ้าย จังหวัดเลย, ขุขันธ์ ศรีสะเกษ, บรบือ มหาสารคาม และธวัชบุรี ของร้อยเอ็ด

แพลตฟอร์มดิจิทัลเร่งเศรษฐกิจโต

อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ LINE MAN Wongnai
อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ LINE MAN Wongnai

ในฐานะเมืองที่มีศักยภาพในการเติบโตของนครพนม จากจุดแข็งด้านภูมิศาสตร์ที่มีทิวทัศน์ริมฝั่งโขงความยาวกว่า 100 กิโลเมตร และกำลังจะเปิดรถไฟทางคู่ เส้นทางบ้านไผ่-นครพนม ประมาณปี 2571-2572 ซึ่งการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Line Man Wongnai ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัด ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตและผลักดันให้ผู้ประกอบการใช้เทคโนโลยีส่งเสริมร้านอาหารของตัวเอง ส่งผลให้ทั้งแพลตฟอร์ม และจังหวัดมีรายได้สูงขึ้น

คุณอิสริยะ บอกว่า แพลตฟอร์มช่วยสร้างงานให้ไรเดอร์ในท้องถิ่น ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อวันของไรเดอร์ในภาคอีสานอยู่ที่ 480 บาท สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำของภาค และรายได้สูงสุดต่อวันของไรเดอร์ตัวท็อป สูงถึง 3,500 บาท อีกทั้งหากใช้แพลตฟอร์มและทำการตลาดอย่างถูกวิธี จะเป็นสะพานเชื่อมให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กในท้องถิ่น เช่น ร้านอาหาร โรงแรม สามารถแข่งขันได้ทัดเทียมกับร้านใหญ่

นอกจากนี้ ระบบรีวิวและรางวัลบนแพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญมาก โดย Line Man Wongnai มีรางวัล “Users’ Choice ที่ตัดสินโดยผู้ใช้จริง จึงเป็นหลักประกันว่าร้านอาหารนั้นมีคุณภาพดี และเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกร้านของผู้บริโภค

คนละครึ่งเพิ่มยอดหน้าร้าน

จากประสบการณ์เข้าร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อย่างโครงการคนละครึ่งรอบที่ผ่านมา ทำให้ยอดขายหน้าร้านโดยรวมสูงขึ้นถึง 100-150% และเพิ่มจำนวนลูกค้าหน้าใหม่ประมาณ 50% ต่อวัน

ร้านค้าที่เข้าร่วมสามารถใช้ช่วงเวลานี้เป็น “Golden Period” ในการเปลี่ยนลูกค้าใหม่ให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้ และ Line Man Wongnai ถือเป็นอันดับ 1 ในการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งด้านเดลิเวอรีทั้งรอบก่อน และรอบนี้

จัดอีเวนต์ย่อยจูงใจเที่ยวตลอดปี

ว่าที่ร้อยตรีรวยรุ่ง ใครบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
ว่าที่ร้อยตรีรวยรุ่ง ใครบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม

ว่าที่ร้อยตรีรวยรุ่ง ใครบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม บอกว่า จุดแข็งของจังหวัดอยู่ที่คน ทุกภาคส่วนสามัคคี ทั้งภาครัฐและเอกชนปรึกษาหารือ แล้วดำเนินการร่วมกัน

ทิศทางการพัฒนานครพนมเน้นการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ ระยะยาว 3 – 20 ปี กำหนดแนวทางการพัฒนาอย่างมีระบบและยั่งยืน เป้าหมายคือการยกระดับจังหวัดให้เติบโตบนพื้นฐานของศักยภาพจริง พร้อมต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จากการให้ความสำคัญกับโครงการรถไฟทางคู่ และถนนสายเศรษฐกิจ R8 / R12 ที่จะเชื่อมไทยกับลาวและเวียดนาม ซึ่งเป็น ‘หัวจักร’ สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาค ดังนั้น ต้องหาทางทำให้เกิดประโยชน์ทั้งขาไปและขากลับ ไม่ปล่อยให้ตู้ขนส่งว่างเปล่ากลับไป

ส่วนการท่องเที่ยวจากต้องสร้างระบบนิเวศ (Tourism Ecosystem) ที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน ตั้งแต่โรงแรม ร้านอาหาร สนามกอล์ฟ ไปจนถึงสินค้าชุมชน เพื่อมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ครบวงจรและสร้างรายได้กระจายสู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง หนึ่งในแผนที่จะดำเนินการคือ การสร้างอีเวนต์ย่อยๆ หรือประชาสัมพันธ์ความสงบและวิถีชุมชน เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวให้สามารถมาเยือนนครพนมได้ ตลอดทั้งปี ไม่จำกัดเฉพาะช่วงเทศกาล

จากเดิมจะมีผู้มาเยือนมากในเทศกาล เช่น งานนมัสการพระธาตุพนม เดือน 2 งานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช เดือน 7 และงานไหลเรือไฟโลก ช่วงออกพรรษา ซึ่งปีล่าสุดมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 200,000 – 300,000 คน

หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติค้างคืน

ชนนท์ กุลตั้งวัฒนา ประธาน YEC นครพนม บอกว่า นครพนมถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและการค้าชายแดนสูงมาก ด้วยที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นประตูการค้าสำคัญเชื่อมไทยกับ สปป.ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 3 จึงกลายเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งและส่งออกผลไม้ไทยไปจีน รวมถึงสินค้าทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปอื่นๆ

ปัจจุบันมูลค่าการค้าชายแดนของนครพนมสูงกว่า 120,000 ล้านบาท และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยในอนาคตเมื่อโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่–นครพนมแล้วเสร็จในปี 2571 จะยิ่งเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์ของจังหวัดให้แข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งในด้านต้นทุนและเวลาในการขนส่งสินค้า 

นอกจากศักยภาพด้านเศรษฐกิจแล้ว นครพนมยังมีจุดแข็งด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ด้วยภูมิทัศน์ริมแม่น้ำโขงที่งดงามยาวกว่า 100 กิโลเมตร เป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนตลอดปี อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสายศรัทธา มีพระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงพระธาตุประจำวันเกิดต่างๆ ที่เป็นจุดหมายของผู้คนทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน ยังมีแลนด์มาร์กสำคัญ อย่าง พญาศรีสัตตนาคราช ถ้ำนาคีนาคา และแลนด์มาร์กใหม่ล่าสุดคือ ‘ชิงช้าสวรรค์ Mekong River Eye’ สูง 50 เมตร ที่จะเปิดให้บริการภายในปี 2568 ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ท่องเที่ยวริมโขงของนครพนมให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ยังต้องการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยว โดยการหาจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติจากเดิมใช้นครพนมเป็นจุดแวะให้กลายเป็นจุดพักค้างคืนก่อนข้ามไปใช้เวลาทำกิจกรรมที่ สปป.ลาว และมีแผนระยะยาวดึงดูดการลงทุนในธุรกิจ Health และ Wellness เนื่องจากเป็นเมืองที่สงบและการเดินทางที่ดี แต่ทางจังหวัดยังขาดโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และโรงเรียนแพทย์ (กำลังอยู่ในแผนก่อตั้ง) อีกทั้งต้องแก้ปัญหาขาดแคลนกำลังคน

ต่อยอดของดีท้องถิ่น

วิศรุต สร้อยคำ เจ้าของร้าน Chewa Cafe By SK Sroikham และ ชนนท์ กุลตั้งวัฒนา ประธาน YEC นครพนม
วิศรุต สร้อยคำ เจ้าของร้าน Chewa Cafe By SK Sroikham และ ชนนท์ กุลตั้งวัฒนา ประธาน YEC นครพนม

วิศรุต สร้อยคำ เจ้าของร้าน Chewa Cafe By SK Sroikham ผู้ประกอบการท้องถิ่นของนครพนมซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและเศรษฐกิจของจังหวัด เล่าว่า ได้นำ ‘ของดีท้องถิ่น’ มาต่อยอดให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น ตัวอย่างเช่น การนำกาละแม ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของนครพนม มาครีเอตเป็นเมนูเครื่องดื่มอย่างสมูทตี้ กาแฟ และไอศกรีมกาละแม ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ใหม่ๆ จนกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวกลับไปซื้อต้นตำรับกาละแมเป็นของฝาก เกิดการหมุนเวียนรายได้กลับคืนสู่ชุมชน

อีกหนึ่งตัวอย่างคือ ลิ้นจี่ นพ.1 ซึ่งเป็นสินค้าขึ้นทะเบียน GI ของจังหวัด นำมาแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจ จนได้รับการนำเสนอผ่านสื่อและห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ ช่วยขยายตลาดให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่ และสับปะรดท่าอุเทน ที่เป็นผลไม้ประจำถิ่น ผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค

เป้าหมายของการต่อยอดเหล่านี้ ไม่ได้มีเพียงการเพิ่มยอดขายเท่านั้น แต่ยังมุ่งส่งเสริมให้คนในชุมชนเห็นคุณค่าและความภาคภูมิใจในผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ต่อยอดเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ดังนั้น นอกจากชื่อเสียงของ ‘มูแลนด์แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งภาคอีสาน’ ที่ดึงดูดสายมูต้องมาสักครั้งเพื่อสักการะขอพร พญาศรีสัตตนาคราช พระธาตุพนม และถ้ำนาคี นครพนมยังมีธรรมชาติสงบงามสองฝั่งโขงให้ได้สัมผัส และผู้มาเยือนไม่ต้องกลัวอด เพราะมีร้านอาหารอร่อยให้เลือกมากมาย แถมยังสั่งผ่านบริการเดลิเวอรีได้เช่นเมืองใหญ่ทั่วไป

เสน่ห์นครพนมรอคอยให้ทุกคนไปเยือนสักครั้ง

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

TikTok Shop 360 องศา: ‘ความจริงใจ’ สูตรเร่งยอดขาย ชนะการตลาดเดิม

เมื่อนักข่าวผันตัวเป็น ‘อินฟลูฯ’ Vero ชี้ ‘Newsfluencers’ 5 กลุ่มพลิกโฉมสื่อไทยยุคดิจิทัล

×

Share