ยุคสมัยที่คอนเทนต์และอิทธิพลของครีเอเตอร์ถูกจำกัดอยู่เพียงในประเทศกำลังจะสิ้นสุดลง เมื่อโจทย์ใหญ่ในปัจจุบันคือการส่งพลังและตัวตนออกไปสู่ระดับภูมิภาคอาเซียนและเวทีโลก ในเวทีเสวนาหัวข้อ “Rise Borderless: Scaling Creator and Brand Beyond ASEAN” ในงาน Thailand Influencer Awards 2025 by Tellscore ภายใต้ธีม “Creators of Change” ครีเอเตอร์เปลี่ยนโลกพารอด ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ มาร่วมถอดรหัสและชี้แนวทางให้แบรนด์และครีเอเตอร์ไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดข้ามพรมแดนได้อย่างยั่งยืน
SAMA: เมื่อ ‘Independent Agency’ ต้องรวมพลังเพื่อรุกตลาดโลก
ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นอันดับแรกคือ พลังของการร่วมมือกันในยุคที่การแข่งขันสูงและตลาดมีความซับซ้อน วันชนะ จิตต์การงาน Chief Strategy Officer, C-EYE และ President of SAMA Alliance ได้แนะนำให้รู้จักกับ SAMA (Strategic Asia Marketing Alliance) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของเครือข่ายเอเจนซี่อิสระ (Independent Agency) ที่มีความเชี่ยวชาญแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น Creative, Media, KOL ไปจนถึง Tech Agency
“ไม่ใช่แค่ครีเอเตอร์หรือแบรนด์ที่พยายามจะไปในภูมิภาคอื่น เอเจนซี่อย่างพวกเราเองก็อยากไปเช่นกัน แต่การไปคนเดียวไม่ใช่เรื่องง่าย” คุณวันชนะ กล่าว
SAMA คือคำตอบของการทลายกำแพงดังกล่าว โดยเริ่มต้นจากความร่วมมือในมาเลเซียและสิงคโปร์ ปัจจุบันได้ขยายเครือข่ายครอบคลุม 4-5 ประเทศ ทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และกำลังจะไปเวียดนามกับฮ่องกง สำหรับในประเทศไทยมีเอเจนซี่เข้าร่วมแล้วถึง 16 แห่ง
หัวใจของ SAMA คือการสร้างเครือข่ายที่ “ไม่ใช่แค่รู้จักกัน แต่คือการส่งงานกัน” เพื่อช่วยให้แบรนด์และครีเอเตอร์ไทยที่ต้องการขยายตลาดไปยังประเทศอื่น แต่ยังขาด Know-how หรือ Connection สามารถใช้เครือข่ายนี้ในการเจาะตลาดและดำเนินแคมเปญได้อย่างราบรื่น
AI: ไม่ใช่ผู้ทำลายแต่คือเครื่องมือสเกลคอนเทนต์ข้ามวัฒนธรรม
เมื่อพูดถึงความท้าทายในการไปต่างแดน “ภาษา” และ “วัฒนธรรม” คือกำแพงสำคัญที่หลายคนนึกถึง คุณวันชนะชี้ว่า เทคโนโลยี AI ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่แบรนด์กำลังมองหา เพื่อตอบโจทย์ 3 ข้อหลักคือ ทำได้เยอะขึ้น ถูกขึ้น และเร็วขึ้น
โจทย์ที่เอเจนซี่ได้รับจากแบรนด์ในปัจจุบันมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น ทำอย่างไรให้คอนเทนต์ที่สร้างขึ้นชิ้นเดียว สามารถสเกลไปใช้ในภูมิภาคอื่นได้
คุณวันชนะยกตัวอย่าง “สมมติเราถ่ายโฆษณาที่อเมริกา จะนำมาใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเปลี่ยนหน้านักแสดงเป็นคนเอเชียและพูดภาษานั้น ๆ ได้อย่างไร หรือถ้าตัวละครหญิงใส่เสื้อแขนกุด แต่จะไปฉายที่อินโดนีเซียซึ่งมีข้อจำกัดทางวัฒนธรรม จะทำอย่างไรให้ไม่ต้องถ่ายใหม่ทั้งหมด”
นี่คือจุดที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในการผสานงานโปรดักชันแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ เพื่อสร้าง Quality Content ที่สามารถปรับเปลี่ยน (Adapt) ให้เข้ากับบริบทของแต่ละประเทศได้ สิ่งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับครีเอเตอร์ที่จะนำ AI มาปรับใช้เพื่อทำให้คอนเทนต์ของตนเองสามารถเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างขึ้น
ศักยภาพครีเอเตอร์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกแต่ต้องการ ‘เพื่อนร่วมทาง’ ที่ไว้ใจได้
คุณหญิง อะเมกอง CEO & Co-founder, Beyond M ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยแบรนด์ขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ของไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก โดยชี้ให้เห็นว่ามีคอนเทนต์ของคนไทยจำนวนมากที่กลายเป็นไวรัลในต่างประเทศ แม้กระทั่งในตลาดใหญ่อย่างประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม การจะกระโดดออกไปลุยตลาดต่างประเทศด้วยตัวเองมีความเสี่ยงสูง ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคด้านภาษา วัฒนธรรม หรือการเจอพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ไม่ดี
“การลงทุนมีความเสี่ยง เราจึงเปรียบเสมือนเพื่อนร่วมทาง ที่จะเข้าไปช่วยลดความเสี่ยงเหล่านั้น” คุณหญิง กล่าว
Beyond M ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและผู้ช่วยนำทางให้แบรนด์และครีเอเตอร์ที่มีสินค้าเป็นของตัวเอง สามารถข้ามผ่านอุปสรรคและไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จ เพราะแม้ชาวต่างชาติจะรู้จักและชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของไทย แต่โอกาสที่พวกเขาจะเข้าถึงนั้นยังมีจำกัด
3 กุญแจสำคัญจากมุมมอง PR สู่การเติบโตระดับโลก
ดร.คาริน โลหิตนาวี Founder and CEO, Midas PR Group ซึ่งนิยามตัวเองว่าเป็น “Master Connector” ได้ให้มุมมองจากสายงานประชาสัมพันธ์ (PR) ว่าเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ครีเอเตอร์เติบโตข้ามพรมแดนได้ โดยได้สรุป 3 ปัจจัยหลักที่ครีเอเตอร์และแบรนด์ต้องให้ความสำคัญ ได้แก่
- ภาษา (Language) คอนเทนต์ควรเป็นอย่างน้อยสองภาษา (Bilingual) อาจจะใช้การทำซับไตเติล (Subtitle) หรือใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วย เพื่อให้คนในประเทศอื่นสามารถเข้าใจได้
- ความอ่อนไหวทางวัฒนธรรม (Cultural Sensitivity) ตลาดอาเซียนมีขนาดใหญ่ แต่แต่ละประเทศมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ การสร้างคอนเทนต์ต้องปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมและมีความเกี่ยวข้อง (Relevant) กับคนในท้องถิ่นนั้น ๆ
- ข้อมูล (Data) การมีระบบเก็บข้อมูลและตัวชี้วัดที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลประชากรกลุ่มเป้าหมาย (Demographics), อัตราการเข้าถึง (Reach) เพื่อให้เอเจนซี่และแบรนด์สามารถเข้าใจและนำไปต่อยอดแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เลิกทำงานในไซโล…ถึงเวลาแห่ง Collaboration
สุดท้ายนี้ สรุปใจความสำคัญจากเวทีเสวนาคือ การจะก้าวไปสู่ระดับภูมิภาคได้นั้น ไม่สามารถทำได้โดยลำพัง คุณวันชนะย้ำในตอนท้ายว่า “แต่ก่อนเอเจนซี่ทำงานในไซโลของตัวเอง ไม่มีการคอลแลปกัน แต่สุดท้ายการจะไปต่างประเทศได้ เราต้องรวมกัน”
เช่นเดียวกับครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ไทย การจับมือกันไปทั้งกับเพื่อนครีเอเตอร์ด้วยกัน ร่วมมือกับเอเจนซี่ และผนึกกำลังกับแบรนด์ คือกลยุทธ์ที่จะสร้างพลังผลักดันที่แข็งแกร่งที่สุด พร้อมกับชูจุดเด่นและความเป็นไทย (Culture, Language) ให้กลายเป็นจุดขายที่แตกต่าง เพื่อดึงดูดความสนใจจากตลาดโลก และก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันอย่างมั่นคง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทักษะ MarTech ไม่พอ! เปิดสิ่งที่องค์กรต้องการจากนักการตลาดตัวจริง
‘โฮม่า’ ยักษ์ตู้เย็นจีน ลงทุน 3,000 ล้าน ตั้งฐานผลิต ‘เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ’ ในไทย
HAAB: ปั้น ‘ขนมไข่’ ร้อยล้านจาก Data ไม่ใช่ Passion




