Share on
×

Share

‘Mad Unicorn’ โปรเจกต์ใหม่ ‘คมสันต์ แซ่ลี’ ที่จะปฏิวัติวงการ SME

'Mad Unicorn' โปรเจกต์ใหม่ ‘คมสันต์ แซ่ลี’ ที่จะปฏิวัติวงการ SME

หลังจากการเดินทางที่สร้าง Flash Express ให้กลายเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของประวัติศาสตร์ไทย และวางรากฐานโลจิสติกส์สำหรับ E-commerce (B2C) ได้สำเร็จ หลายคนอาจเชื่อว่ามหากาพย์ของ ‘คมสันต์ แซ่ลี’ ได้เดินทางมาถึงบทสรุปแล้ว

แต่บนเวที Scale Fast เขากลับมาเพื่อประกาศว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของบทต่อไปที่ยิ่งใหญ่และท้าทายกว่าเดิม ภารกิจใหม่นี้มีชื่อว่า ‘Mad Unicorn’ ซึ่งก็คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) สำหรับธุรกิจ B2B และ SME โดยเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากโครงข่ายของ Flash Express ในฝั่ง B2C เพื่อสร้าง ‘กระดูกสันหลัง’ ชิ้นใหม่ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ

‘คมสันต์ ลี’ รับรางวัล Prime Minister Award: National Startup 2025

วิสัยทัศน์นี้ไปไกลกว่าการปั้นยูนิคอร์นตัวต่อไป แต่คือความพยายามที่จะสถาปนาระบบนิเวศทางธุรกิจ ที่จะเพิ่มพลังให้ SME ไทยอีกนับร้อยนับพันราย สามารถยืนหยัดและแข่งขันในสมรภูมิยุคใหม่ได้อย่างทัดเทียม

ภารกิจใหม่ ‘Mad Unicorn’ สร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ SME

หัวใจของภารกิจ Mad Unicorn เริ่มต้นจากการมองเห็นความไร้ประสิทธิภาพขนาดมหึมาที่ซ่อนอยู่ในระบบซัพพลายเชนของ SME และธุรกิจ B2B ทั่วประเทศ คุณคมสันต์ชี้ให้เห็นภาพที่คุ้นตา ร้านอาหารส่วนใหญ่ล้วนมีรถแช่เย็นของตนเอง ร้านแฟชั่นก็ต้องมีสต๊อกของตัวเอง “แต่ทุกคนรู้ใช่ไหมครับว่ามันไม่ efficiency เพราะ ขาไปเต็ม ขากลับว่าง”

ปัญหารถเที่ยวกลับที่ว่างเปล่านี้ เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งของต้นทุนแฝงที่ผู้ประกอบการทุกรายต้องแบกรับอย่างโดดเดี่ยว และกลายเป็นเบรกที่ฉุดรั้งศักยภาพการเติบโต

ภารกิจของ Mad Unicorn จึงไม่ใช่แค่การทำธุรกิจขนส่ง แต่คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้ร่วมกัน (Shared Infrastructure) เปรียบเสมือนการสร้างท่อส่งโลจิสติกส์กลางที่ครอบคลุมทั้งระบบคลังสินค้า ห้องเย็น และการขนส่งเติมหน้าร้าน ซึ่งผู้ประกอบการ SME ทุกรายสามารถเข้ามาเสียบปลั๊กใช้งานได้ทันที

เป้าหมายสูงสุดคือการปลดปล่อยผู้ประกอบการออกจากงานหลังบ้านที่ซับซ้อน เพื่อให้พวกเขาสามารถทุ่มเทพลังงานและทรัพยากรทั้งหมดไปกับสองสิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างแบรนด์ นั่นคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) และการตลาด (Marketing) ดังคำมั่นสัญญาที่คุณคมสันต์ได้ประกาศไว้อย่างชัดเจนว่า

“เก็บตังค์ก็พอครับ ที่เหลือหลังบ้านผมทำให้ครับ”

กลยุทธ์ ‘สร้างแบรนด์ให้ดู’: เมื่อไม่มีใครเชื่อ ก็ต้องทำให้เห็น

แต่วิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่นี้ย่อมมาพร้อมกับปัญหาคลาสสิกของธุรกิจแพลตฟอร์ม นั่นคือปัญหา ‘ไก่กับไข่’ จะไม่มีผู้ประกอบการรายใดเข้ามาใช้บริการ หากเครือข่ายยังไม่มีขนาดที่ใหญ่พอ แต่เครือข่ายก็ไม่สามารถขยายขนาดได้หากไม่มีผู้ใช้บริการ ซึ่งคุณคมสันต์ได้ยอมรับถึงความท้าทายนี้อย่างตรงไปตรงมาว่า

“ผมไปคุยกับผู้ประกอบการมาหลายคนแล้วครับ แต่ไม่มีใครใช้ผมครับ และไม่มีใครเชื่อผมครับว่าผมทำได้”

และนี่คือจุดที่นำไปสู่กลยุทธ์ที่สะท้อนตัวตนของคมสันต์ แซ่ลี ได้ดีที่สุด เมื่อไม่มีใครเชื่อ ก็ต้อง ‘สร้างให้ดู’ แทนที่จะรอให้คนอื่นมาเป็น ‘ไก่’ หรือ ‘ไข่’ เขาเลือกที่จะสร้างมันขึ้นมาเองทั้งหมด “ดังนั้น ผมเลยสร้างแบรนด์ให้คุณดูครับ” เขากล่าว

แผนการของเขาคือการสร้างแบรนด์ในเครือของตัวเองขึ้นมา เช่น แบรนด์ชาที่มีเป้าหมายเปิด 400 สาขาใน 3 ปี เพื่อทำหน้าที่เป็นลูกค้ารายแรกที่สร้างปริมาณการใช้งาน (Volume) ให้กับโครงข่ายโลจิสติกส์ของ Mad Unicorn ในขณะเดียวกัน แบรนด์เหล่านี้ก็จะกลายเป็นกรณีศึกษาที่มีชีวิตที่พิสูจน์ให้ผู้ประกอบการรายอื่นเห็นถึงประสิทธิภาพและต้นทุนที่ลดลงอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อผลลัพธ์ปรากฏชัดเจน ดีมานด์จากภายนอกก็จะตามมาเองโดยธรรมชาติ นี่คือการแก้ปัญหาไก่กับไข่ ด้วยการสร้างทั้งฟาร์มไก่และโรงฟักไข่ขึ้นมาพร้อมกัน

ปรัชญาผู้นำ: ‘จงเชื่อแล้วจะเห็น’ และต้นทุนของการเป็นหัวแถว

เบื้องหลังวิสัยทัศน์ที่มุ่งไปข้างหน้าเสมอ คือปรัชญาความเป็นผู้นำที่หล่อหลอมจากประสบการณ์จริงอันหนักหน่วง คุณคมสันต์ได้ส่งคำเตือนไปยัง Founder รุ่นใหม่ที่อาจมองเห็นเพียงภาพความสำเร็จอันสวยงามว่า “หลายคนยังทำใจไม่ได้กับต้นทุนของการเป็นหัวแถว”

เขาได้เผยอย่างตรงไปตรงมาถึงช่วงเวลาที่เคยเผชิญกับปัญหาและแรงกดดันมหาศาล จนถึงขั้นต้องตัดสินใจปิดโทรศัพท์มือถือและตัดขาดการติดต่อจากโลกภายนอกเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความโดดเดี่ยวและภาระอันหนักอึ้งที่ผู้นำต้องแบกรับไว้เพียงลำพัง

แต่ในท้ายที่สุด สิ่งที่ทำให้เขาก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากและยังคงขับเคลื่อนภารกิจที่ยิ่งใหญ่ต่อไปได้ คือพลังของความศรัทธาในสิ่งที่ทำอย่างหมดหัวใจ ซึ่งถูกกลั่นกรองออกมาเป็นหลักการที่เขายึดถือเสมอมา “จงเชื่อแล้วจะเห็น จงหาแล้วจะพบ แต่ถ้าวันที่ยังไม่พบ อย่าเพิ่งท้อใจ”

เดิมพันครั้งใหม่: ภารกิจ 3 ปีสร้าง ‘Mad Unicorn’

เขายืนยันว่าจะของดการปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นเวลา 3 ปีเต็ม เพื่อทุ่มเทสมาธิและพลังงานทั้งหมดให้กับการสร้างภารกิจ Mad Unicorn ให้กลายเป็นความจริง การตัดสินใจเก็บตัวครั้งนี้ คือการเดิมพันครั้งใหญ่ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าและขนาดของภารกิจที่อยู่ตรงหน้า

เขาได้ทิ้งท้ายไว้เป็นเหมือนคำมั่นสัญญาที่นัดหมายกับอนาคตว่า  “อีก 3 ปีเราจะมาเจอกันว่า สิ่งที่ผมพูดในวันนี้ทั้งหมดมันเกิดขึ้นจริงหรือยัง”

เรื่องราวของคุณคมสันต์ในวันนี้ จึงได้ก้าวข้ามบทบาทผู้ก่อตั้งยูนิคอร์นที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว แต่คือการเปิดฉากมหากาพย์บทใหม่ของสถาปนิกผู้กำลังพยายามสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจครั้งสำคัญให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเป็นภารกิจที่ทั้งวงการธุรกิจต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดในอีก 3 ปีข้างหน้านี้

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

TSUKUNE Craft: ปั้นฝันด้วยสองมือสู่ Art Toy ไม้แกะสลัก ‘หนึ่งเดียวในโลก’

MarTech x AI: เมื่อเทคโนโลยีต้องขับเคลื่อนด้วย ‘คน’ เบื้องหลังกลยุทธ์การตลาดแห่งอนาคต

×

Share

ผู้เขียน