ท่ามกลางกระแสธารของโลกดิจิทัลที่เชี่ยวกราก การแสวงหาความสัมพันธ์ของมนุษย์กำลังเดินทางกลับสู่จุดกำเนิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังที่สุด นั่นคือ “ความจริงแท้” และ “ธรรมชาติ” งาน Tinder Year in Swipe 2025 Thailand Edition ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่สรุปสถิติการปัดขวาของคนไทยเท่านั้น แต่คือการฉายภาพสังคมสะท้อนจิตวิญญาณของคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากยุคแห่งการคาดเดาไปสู่ยุคแห่งความชัดเจน โดยมี “ความหวัง” เป็นแสงนำทาง
นี่คือบทสรุปเจาะลึกที่ขยายภาพให้เห็นทุกมิติของเทรนด์ความสัมพันธ์ที่กำลังก่อตัว และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2026 ผ่านมุมมองของ Kirsty Dunn, Director of Communications for Tinder in Thailand ร่วมด้วย Master Alice, Founder of Thailand’s first AI astrology platform, U Destiny และตัวแทน Gen Z ผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดทั้ง 3 ท่าน ที่จะทำให้คุณเข้าใจ “ความรัก” ในบริบทใหม่ที่ลึกซึ้งกว่าเดิม

ปรากฏการณ์ “โหยหาธรรมชาติ” : เมื่อโลกดิจิทัลไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
สถิติที่น่าตกตะลึงและบ่งบอกนัยสำคัญที่สุดของปี 2025 จากการเปิดเผยของ Kirsty Dunn คือ “ธรรมชาติ” (Nature) ทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 ของความสนใจ (Interest) ของผู้ใช้งานชาวไทย แซงหน้าไลฟ์สไตล์หรูหราหรือเทรนด์แฟชั่น นี่คือสัญญาณเตือนว่า Gen Z กำลังเข้าสู่ภาวะ “Digital Detox” ทางความรู้สึก และต้องการพื้นที่พักพิงทางใจอย่างแท้จริง
Pun Napat Tantaviwattana คอนเทนต์ครีเอเตอร์หนุ่มสายพัฒนาตัวเอง สะท้อนมุมมองนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า Gen Z คือรุ่นที่เติบโตมาพร้อมกับข้อมูลมหาศาลและความรวดเร็วของเทคโนโลยีที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่สิ่งที่ตามมาคือความต้องการที่จะก้าวออกจากหน้าจอ (Step away) เพื่อเปลี่ยน Setting ชีวิตไปสู่ความสงบของธรรมชาติ เพื่อให้เห็นมุมมองของคู่เดตในมิติที่ลึกซึ้งขึ้นในบริบทที่ผ่อนคลาย ในขณะที่ Organ Yosita Hunsakul นักอ่านตัวยง มองว่าปีนี้คือปีแห่งการ “ตื่นรู้” (Awakening) ผู้คนเริ่มตระหนักว่าสิ่งปรุงแต่งภายนอกไม่สามารถเติมเต็มความว่างเปล่าข้างในได้ การกลับสู่ธรรมชาติจึงไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่คือการกลับมาเชื่อมต่อ (Connect) กับความเป็นมนุษย์แบบ Face-to-Face อีกครั้ง เพราะธรรมชาติของมนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อปฏิสัมพันธ์แค่ผ่านการคลิกบนหน้าจอ
Master Alice อธิบายปรากฏการณ์นี้ในเชิงพลังงานว่า “Nature” คือพลังงานของการ “Grounding” หรือการกลับมายืนหยัดอย่างมั่นคงบนพื้นดิน เพื่อสร้างความปลอดภัยทางใจท่ามกลางความวุ่นวาย การพาตัวเองไปสัมผัสธรรมชาติคือการปรับจูนคลื่นความถี่ (Frequency) ให้กลับมาสมดุลและไหลลื่น (Flow) อีกครั้ง
ส่อง 4 เทรนด์เดตปี 2026: สิ้นสุดยุค “เดาใจ” สู่ยุค “จริงใจ”
Kirsty Dunn ได้เปิดเผย 4 เทรนด์ทำนายอนาคต (Predictions) ที่จะกำหนดทิศทางความสัมพันธ์ในปี 2026 ซึ่งสะท้อนว่าคนโสดรุ่นใหม่ต้องการ “คุณภาพ” มากกว่า “ปริมาณ” และปฏิเสธความคลุมเครืออย่างสิ้นเชิง
เทรนด์ที่ 1: Clear Coding (รหัสรักต้องชัดเจน)
หมดยุคของการเล่นเกมความรู้สึก (Guessing games) หรือการต้องมานั่งถอดรหัสว่าเขาคิดอย่างไร เทรนด์ปีหน้าคือความตรงไปตรงมา
- เจาะลึกข้อมูล: สถิติระบุว่า 64% ของคนโสดรุ่นใหม่ต้องการความซื่อสัตย์ทางอารมณ์ และ 60% ต้องการการสื่อสารเจตนาที่ชัดเจน นอกจากนี้ 73% ของผู้ชาย Gen Z ระบุว่าพวกเขาจะรู้ตัวว่าชอบใคร ก็ต่อเมื่อพวกเขาสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เมื่ออยู่กับคนคนนั้น
- กรณีศึกษา: Organ Yosita Hunsakul ยืนยันเทรนด์นี้ด้วยตนเอง เธอระบุใน Bio ชัดเจนว่า “Date to Marry” (เดตเพื่อแต่งงาน) เพื่อดึงดูดคนที่มองหาเป้าหมายเดียวกัน และคัดกรองคนที่ไม่ใช่ออกไปทันที เป็นการประกาศเจตจำนงที่ชัดเจนตั้งแต่วินาทีแรก
เทรนด์ที่ 2: Hot Take Dating (รักต้องแลกจุดยืน)
แรงดึงดูดไม่ได้เกิดจากหน้าตาเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่เกิดจาก “ทัศนคติ” และ “หลักการ” (Principles) การมีจุดยืนที่ชัดเจนในประเด็นสังคม หรือการแสดงความคิดเห็นที่กล้าหาญ (Bold opinions) กลายเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดคนที่มีศีลเสมอกัน
- จุดดับฝัน (Deal Breaker): ความหยาบคายต่อพนักงานบริการกลายเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ที่สุด โดย 54% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่ารับไม่ได้หากคู่เดตมีพฤติกรรมนี้ รวมถึงประเด็นเรื่องความยุติธรรมทางเชื้อชาติ และสิทธิ LGBTQIA+ ก็เป็นตัวตัดสินความสัมพันธ์เช่นกัน
- มุมมองโหราศาสตร์: Master Alice เสริมว่า ปี 2026 คือยุคของ “Period 9” ซึ่งเป็นพลังงาน “ธาตุไฟ” (สีแดง, สีส้ม) พลังงานนี้ส่งเสริมให้คนต้องมีความรวดเร็ว ชัดเจน และมีจุดยืนที่โดดเด่น ใครที่ไม่ใช่จะถูกเหวี่ยงออกจากวงโคจรไปเอง
เทรนด์ที่ 3: Friendfluence (เมื่อ “เพื่อน” คือกามเทพตัวจริง)
กรุ๊ปแชทของเพื่อนสนิทจะกลายเป็นด่านคัดกรองที่เข้มข้น เพื่อนไม่ได้มีหน้าที่แค่รับฟัง แต่ช่วยสแกน “Red Flags” ที่เราอาจมองข้าม
- สถิติที่น่าสนใจ: ฟีเจอร์ “Double Date” หรือการพาเพื่อนไปเดตด้วยกำลังได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงอายุต่ำกว่า 30 ปีที่มีสัดส่วนการใช้ฟีเจอร์นี้ถึง 85% และพบว่าผู้หญิงมีโอกาสแมตช์เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าหากใช้ฟีเจอร์นี้
- เคล็ดลับสายมู: Master Alice เปรียบเพื่อนเสมือน “Companion Star” หรือดวงดาวคู่มิตร การพาเพื่อนราศีที่ส่งเสริมกันไปเดตด้วย จะช่วยเสริมพลังดวงความรักให้แข็งแกร่งขึ้น
เทรนด์ที่ 4: Emotional Vibe Coding (ความฉลาดทางอารมณ์คือหัวใจ)
การเปิดเผยความรู้สึก (Vulnerability) และความพร้อมทางอารมณ์ (Emotionally Available) คือกุญแจสำคัญ การเท (Ghosting) จะกลายเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ผู้คนโหยหาความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) และความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) มากขึ้น
- เสียงจาก Gen Z: Blue Sitapat Mekharueangphan สาวสวยสายไลฟ์สไตล์ ให้ความสำคัญกับ “Vibe” หรือมวลความรู้สึก หากอยู่ใกล้ใครแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือไม่เป็นตัวเอง นั่นคือสัญญาณว่า “ไม่ใช่” แม้จะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการตัดสินใจ
3. ไลฟ์สไตล์ไทยในจักรวาล Tinder: กิน ดื่ม เที่ยว แบบมีนัยยะ
ในงาน Tinder Year in Swipe 2025 ยังได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนไทยที่น่าสนใจ ทั้งในเรื่องของอาหารการกินและการท่องเที่ยว
- เมนูสื่อรัก: เรื่องกินเรื่องใหญ่สำหรับคนไทย เครื่องดื่มที่ถูกระบุใน Bio มากที่สุดอันดับ 1 คือ “กาแฟ” ตามมาด้วย “เบียร์” และ “เหล้า” แต่ที่น่าจับตามองคือการเข้ามาของ “ชาเขียว (Matcha)” และ “ชาบู/หมูกระทะ” ที่ติดอันดับความนิยม
- นัยยะทางธาตุ: Master Alice วิเคราะห์ว่า “มัทฉะ” เป็นตัวแทนของ ธาตุไม้และธาตุน้ำ ซึ่งสื่อถึงความสงบ สมาธิ และการค่อยเป็นค่อยไป สอดคล้องกับจิตใจของคนที่ต้องการความผ่อนคลายและกลับมาอยู่กับตัวเองในปีที่ผ่านมา
- ปักหมุดรักข้ามพรมแดน: ฟีเจอร์ Tinder Passport เผยให้เห็นว่าคนไทยนิยมปักหมุดไปหาคู่ที่ต่างประเทศ โดยเมืองยอดฮิต 5 อันดับแรกคือ สิงคโปร์, นิวยอร์ก, ซิดนีย์, ดูไบ และลอนดอน (ตามลำดับความนิยมในกลุ่มเมืองสากล)
- เป้าหมายของ Gen Z: Blue Sitapat เลือกปักหมุดที่ “เซี่ยงไฮ้” และ “เชียงใหม่” เพราะชอบวัฒนธรรม , Pun Napat เลือก “ภูเก็ต” เพราะรักทะเลไทย , ส่วน Organ Yosita เลือก “ลอนดอน” เพื่อไปพบปะผู้คนใหม่ๆ
4. ถอดรหัสลับจักรวาล: เมื่อ “มูเตลู” ผสาน “จิตวิทยา”
ไฮไลต์สำคัญที่ทำให้งานนี้แตกต่าง คือการเชื่อมโยงข้อมูล Data เข้ากับศาสตร์แห่งดวงดาว โดย Master Alice ได้มอบเคล็ดลับการเสริมดวงความรักสำหรับปี 2026 ไว้อย่างครบถ้วน:
- Self-Love & Saturn: การรักตัวเองที่ติดเทรนด์ความสนใจอันดับต้นๆ เชื่อมโยงกับพลังของ ดาวเสาร์ (Saturn)Master Alice แนะนำวิธีเรียกพลังความรักตัวเองง่ายๆ ด้วยการใช้มือขวากอดต้นแขนซ้ายของตัวเองให้แน่น เพื่อส่งผ่านความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย
- Golden Retriever Energy: การที่คนไทยระบุว่าเป็น “ทาสหมา/ทาสแมว” หรือชอบคนที่มีพลังงานแบบ Golden Retriever นั้น สื่อถึง ธาตุดิน ซึ่งให้ความรู้สึกมั่นคง (Grounding) และความซื่อสัตย์
- Ritual for 2026 (พิธีกรรมรับปีใหม่):
- อาบแสงจันทร์ (Moonlight Bathing): แนะนำให้ยืนรับแสงจันทร์ในที่โล่งแจ้งประมาณ 15 นาที โดยเฉพาะในคืนจันทร์เพ็ญ เพื่อชำระล้างพลังงานลบ (Purify) และเปิดหน้าผากรับพลังงานดีๆ
- ทิศมงคล: หากต้องการขอพรเรื่องความรัก ให้ยืนหันหลังให้ ทิศตะวันออก หรือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรับพลังเมตตามหานิยม
บทสรุป: Word of the Year 2026 — “Hopeful”
หากต้องนิยามความสัมพันธ์ในปีหน้าด้วยคำเพียงคำเดียว จากผลสำรวจ Gen Z ยกให้คำว่า “Hopeful” (เปี่ยมด้วยความหวัง) เป็นคำแห่งปี
คำคำนี้ไม่ได้หมายถึงการคาดหวังลม ๆ แล้ง ๆ แต่คือการมองโลกในแง่ดีท่ามกลางความท้าทาย
- Organ Yosita เปรียบความหวังเหมือน “แสงสว่างที่ส่องเข้ามาในห้องมืด” เมื่อเรามีความหวังและ Manifest สิ่งนั้นย่อมเกิดขึ้นจริงได้
- Pun Napat มองว่าความหวังต้องมาคู่กับความยืดหยุ่น (Open Mindset) ไม่ยึดติดกับภาพฝันที่สมบูรณ์แบบจนเกินไป (Expectation vs Reality) แต่ให้ไหลไปตามกระแส (Go with the flow)
- Blue Sitapat หวังถึงการเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้น และเชื่อในการพบเจอความรักที่ดี แม้จะยังไม่เจอในวันนี้ แต่ศรัทธายังคงอยู่
ปี 2026 จึงไม่ใช่ปีแห่งการเร่งรีบตามหาใครสักคน แต่เป็นปีของการ “ทำตัวเองให้ชัดเจน” และ “ศรัทธาในพรหมลิขิต” เมื่อเรามีความชัดเจนในตัวเอง (Clear Coding) และรักษาพลังงานบวก (Hopeful) โลก—หรืออัลกอริทึม—ก็จะเหวี่ยงคนที่ “ศีลเสมอกัน” และ “เคมีตรงกัน” เข้ามาในวงโคจรของเราอย่างแน่นอน
นี่คือทิศทางใหม่ของความรัก … ชัดเจน จริงใจ และไม่สิ้นหวัง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ส่อง 3 นวัตกรรม ‘Crime Tech’ สู้ภัยไซเบอร์ จากเวที True CyberSafe x TrueMoney Hackathon 2025
Data Mutelu: ทรูงัด AI ปั้น ‘เบอร์พลังดาว’ เปลี่ยนความเชื่อเป็นวิทยาศาสตร์




