การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม กำลังกลายเป็นวาระสำคัญที่ถูกขับเคลื่อนผ่านพลังของคนรุ่นใหม่ สะท้อนอย่างชัดเจนผ่านผลลัพธ์ของโครงการ AFTERKLASS Business KAMP 2025: Youth for Good ที่จัดโดยธนาคารกสิกรไทย ซึ่งปีนี้ฉีกแนวคิดเดิม มุ่งเน้นให้เยาวชนนำ AI มาเป็นเครื่องมือหลักในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในสังคมไทยโดยเฉพาะ
ประเด็นที่โดดเด่นที่สุดคือการคว้ารางวัลชนะเลิศของ ทีม “วิศวะลูกพ่อหลุยส์” กับผลงาน “บ้านอุ่นใจ” ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการนำ AI ไปแก้ปัญหาที่ซับซ้อนและมีความละเอียดอ่อนสูงอย่างกระบวนการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม แพลตฟอร์มนี้ไม่ได้มาแทนที่การตัดสินใจของมนุษย์ แต่ทำหน้าที่เป็น “ผู้ช่วย” อัจฉริยะ ใช้อัลกอริทึม AI สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการประเมินและคัดกรองครอบครัวที่เหมาะสม เพื่อเป้าหมายสูงสุด คือการให้เด็กได้รับโอกาสที่ดีที่สุดในการเติบโตในครอบครัวที่อบอุ่นและเหมาะสมอย่างแท้จริง
AI เพื่อ “เกราะป้องกัน” สังคม
โครงการในปีที่ 6 นี้ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Youth for Good” ถือเป็นครั้งแรกที่มุ่งเน้นการใช้ AI เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความเท่าเทียมในสังคมอย่างจริงจัง ความน่าสนใจไม่ได้หยุดอยู่แค่ทีมชนะเลิศ แต่ไอเดียจากทีมรองชนะเลิศยังสะท้อนการมองเห็นปัญหาในกลุ่มเปราะบางอื่น ๆ อย่างแหลมคม:
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทีม Rick and Morty นำเสนอ ‘WaiJai – ไว้ใจ’ แพลตฟอร์มที่ใช้ AI เข้ามาเป็นเกราะป้องกันภัยไซเบอร์สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มักตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ (Scammer) โดย AI จะช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงในช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้งานเทคโนโลยีได้อย่างปลอดภัย และผู้ดูแลคลายความกังวล
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทีม AegisAI กับไอเดีย ‘AegisAI’ ที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิต โดยออกแบบแอปพลิเคชัน AI Agent ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการผ่อนคลาย ทำความเข้าใจ และเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
ปั้นไอเดียสู่ผลกระทบที่ยั่งยืน
รวี อ่างทอง ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบูรณาการความยั่งยืนองค์การ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า โครงการนี้คือเจตนารมณ์ของธนาคารที่ต้องการส่งเสริมเยาวชนให้ใช้เทคโนโลยี AI อย่างสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการปลูกฝังจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมตั้งแต่เยาว์วัย
การแข่งขัน Hackathon ในครั้งนี้ไม่ได้จบลงที่การประกาศรางวัล แต่คือกระบวนการบ่มเพาะที่เข้มข้น จากทีมเยาวชนที่สนใจสมัครเข้ามากว่า 151 ทีม ถูกคัดเลือกจนเหลือ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขาได้ลงสนามจริงในช่วง Hackathon Day ระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคม 2568 เพื่อเรียนรู้จากปัญหาจริง วิเคราะห์จากประสบการณ์ของผู้ได้รับผลกระทบ และพัฒนาแนวคิดธุรกิจให้ตอบโจทย์ ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทั้งภาครัฐและเอกชน
เป้าหมายสำคัญคือการผลักดันให้ไอเดียเหล่านี้สามารถนำไปพัฒนาต่อให้เกิดขึ้นจริง เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ผู้ที่สนใจรายละเอียดโครงการ สามารถติดตามได้ที่ www.afterklass.com หรือเฟซบุ๊ก AFTERKLASS
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
“หนอนติดล้อ” ผงโปรตีนจากหนอนนก คว้าแชมป์ AFTERKLASS Business Kamp
สตาร์ตอัพไทย: ทางรอด Early Stage เปิดกลไกทุน NIA, depa, TED Fund
