Share on
×

Share

อนาคตการศึกษา: พลิกบทบาทครู สู่ Facilitator จับคู่ AI สร้างห้องเรียนยุคใหม่

อนาคตการศึกษา: พลิกบทบาทครูสู่ Facilitator จับคู่ AI สร้างห้องเรียนยุคใหม่

ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว รูปแบบการศึกษาแบบดั้งเดิมอาจไม่ใช่คำตอบที่เพียงพออีกต่อไป เวทีเสวนา Education: A Gateway to the Future ภายในงาน Didacta Asia 2025 จึงได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติมาร่วมวิเคราะห์ภาพการศึกษาแห่งอนาคต ประกอบด้วย Gerson Abesamis ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ ประเทศฟิลิปปินส์ Volker Schmid หัวหน้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของ Festo Didactic SE, Kaisa Pallaskallio ผู้ร่วมเขียนหลักสูตร AI Creator และ Erin Lingblad จาก Council for Creative Education ประเทศฟินแลนด์

โดยวิทยากรได้ร่วมกันนำเสนอพิมพ์เขียวของห้องเรียนแห่งอนาคต ซึ่งมีหัวใจหลัก 2 ประการที่ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกัน นั่นคือ การปฏิวัติบทบาทของครู และ การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ เพื่อเป้าหมายสูงสุดในการเสริมสร้างพลังให้ผู้เรียนกลายเป็นเจ้าของการเรียนรู้ของตนเองอย่างแท้จริง

พลิกบทบาทครู: จากปราชญ์หน้าชั้น สู่สถาปนิกผู้ออกแบบการเรียนรู้

ในยุคที่องค์ความรู้ขยายตัวอย่างไม่สิ้นสุด และสามารถเข้าถึงได้เพียงปลายนิ้ว การเรียนรู้แบบท่องจำจึงหมดความจำเป็น แนวคิดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนจัดการเอง (Self-Organized Learning) จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการศึกษายุคใหม่ ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนกระบวนทัศน์จากการสอนที่ยึดครูเป็นศูนย์กลาง (Teacher-Centric) ที่ครูเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ทางเดียว ไปสู่การเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Learner-Centric) อย่างสมบูรณ์

การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลโดยตรงต่อบทบาทของครู ซึ่งต้องเปลี่ยนจากการเป็นผู้รู้หรือปราชญ์หน้าชั้นที่คอยบรรยายป้อนความรู้สำเร็จรูป มาสู่การเป็นผู้อำนวยความสะดวก (Facilitator) หรืออาจเปรียบได้กับโค้ชและผู้ชี้แนะ

หน้าที่ของครูในยุคใหม่ คือการเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบการเรียนรู้ โดยต้องสร้างสภาวะแวดล้อมที่ปลอดภัยและผ่อนคลาย ใช้การตั้งคำถามที่ทรงพลังเพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น และจัดหาทรัพยากรที่หลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สำรวจ ลองผิดลองถูก และสร้างองค์ความรู้ขึ้นมาด้วยตนเอง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ท้าทาย แต่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต

AI: เพื่อนร่วมงานอัจฉริยะปลดล็อกศักยภาพครูและนักเรียน

AI: เพื่อนร่วมงานอัจฉริยะปลดล็อกศักยภาพครูและนักเรียน

อีกหนึ่งแกนหลักที่ทรงพลังคือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งไม่ได้ถูกมองเป็นเพียงเครื่องมือ แต่เป็นผู้ช่วยหรือเพื่อนร่วมงานที่จะเข้ามาปฏิวัติห้องเรียน โดย AI จะปลดล็อกศักยภาพการเรียนรู้ในหลายมิติ

สร้างเส้นทางการเรียนรู้เฉพาะบุคคล (Personalized Learning) AI สามารถทลายข้อจำกัดของระบบการศึกษาแบบ One-size-fits-all โดยการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนาของนักเรียนแต่ละคน แล้วจึงออกแบบเนื้อหาและแบบฝึกหัดที่เหมาะสมกับระดับความสามารถและความสนใจของพวกเขาโดยเฉพาะ ทำให้นักเรียนที่เรียนรู้เร็วไม่รู้สึกเบื่อ และนักเรียนที่ต้องการเวลาเพิ่มเติมก็ไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

เปลี่ยนการประเมินผลสู่การให้ข้อมูลป้อนกลับทันที (Real-time Assessment) แทนที่จะรอผลสอบปลายภาค AI สามารถให้ข้อมูลป้อนกลับแก่นักเรียนได้ทันทีที่ทำแบบฝึกหัดเสร็จสิ้น ช่วยให้พวกเขาแก้ไขข้อผิดพลาดและทำความเข้าใจแนวคิดต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

ปลดปล่อยครูจากภาระงานซ้ำซ้อน AI สามารถรับหน้าที่งานเอกสาร การตรวจการบ้าน หรือแม้แต่การร่างแผนการสอนเบื้องต้น ซึ่งจะช่วยคืนเวลาอันมีค่าให้แก่ครู เพื่อให้พวกเขาสามารถทุ่มเทให้กับงานที่เทคโนโลยีทำแทนไม่ได้ นั่นคือการให้คำปรึกษา สร้างแรงบันดาลใจ และดูแลนักเรียนในมิติของความเป็นมนุษย์

เป้าหมายสูงสุด: สร้างพลเมือง AI ที่คิดเป็นและสร้างสรรค์ได้

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของการนำ AI มาใช้ ไม่ใช่เพียงการสอนให้นักเรียนใช้ AI เพื่อหาคำตอบ แต่คือการสร้างความฉลาดรู้เรื่อง AI (AI Literacy) ให้เกิดขึ้น

หลักสูตรแห่งอนาคตต้องก้าวไปอีกขั้น โดยต้องสอนให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการทำงานเบื้องหลังของ AI สามารถตั้งคำถามและคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) ต่อผลลัพธ์ที่ AI นำเสนอ และที่สำคัญคือต้องตระหนักถึงประเด็นทางจริยธรรมที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอคติของข้อมูล (Data Bias) หรือความเป็นส่วนตัว

คำถามสำคัญจึงไม่ใช่ AI ทำอะไรให้เราได้บ้าง แต่คือนักเรียนจะสามารถทำอะไรกับ AI ได้บ้าง เพราะเป้าหมายสุดท้ายคือการสร้างคนรุ่นใหม่ที่มอง AI เป็นเสมือนนักบินผู้ช่วย (Co-pilot) ที่จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมและแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องมือสำเร็จรูปที่รอรับคำสั่ง

ท้ายที่สุดแล้ว ภาพอนาคตของการศึกษาที่ประสบความสำเร็จ คือภาพของความสมดุลที่ลงตัวระหว่างครูผู้เปี่ยมด้วยทักษะการอำนวยการเรียนรู้ และเทคโนโลยี AI ที่ชาญฉลาด เพื่อบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ให้เป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต ที่ไม่เพียงมีความรู้ แต่ยังมีทักษะในการปรับตัว คิดวิเคราะห์ และกำกับการเรียนรู้ของตนเองได้อย่างแท้จริง

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

อนาคตไทยยุค AI: ต้องเริ่มที่ ‘คน-ข้อมูล-แพลตฟอร์ม’

ดร.ธนชาติ ชี้ทางรอดไทยยุค AI: หยุดเป็นแค่ ‘ผู้ใช้’ ต้องเร่งสร้าง ‘ผู้สร้าง’

DGA ปักธงรัฐบาลดิจิทัล 2.0 จ่อแจ้งเตือนตรงถึงมือถือ-ใช้บัตรประชาชนดิจิทัล

×

Share

ผู้เขียน