เอ้ก ดิจิทัล (EGG Digital) ตอกย้ำจุดยืนผู้นำการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย AI ผ่านการเปิดเวทีเสวนาแห่งปี EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงงานสัมมนาทั่วไป แต่คือการรวมตัวของทัพหน้า ธุรกิจไทยและองค์กรระดับโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
รายชื่อพันธมิตรที่ตบเท้าเข้าร่วมงานสะท้อนความเร่งด่วนของยุค AI First ได้อย่างชัดเจน ไล่เรียงตั้งแต่ True Corporation, CP AXTRA, สองบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง BCG และ Bain & Company, ยักษ์ใหญ่ FMCG อย่าง TCP Group, Nestlé, Unilever, L’Oreal ไปจนถึงแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่กุมโลกดิจิทัลไว้ในมืออย่าง Google, TikTok, LINE, Meta รวมถึงเอเจนซี่ชั้นนำ Dentsu, WPP Media และแบรนด์ที่กำลังมาแรงอย่าง เต่าบิน และ Punpromotion
ปรากฏการณ์นี้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า AI Transformation ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นทางรอดเดียวในการสร้างการเติบโตที่ไร้ขีดจำกัด
AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ้ก ดิจิทัล กล่าวว่า อนาคต AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเสริม แต่เป็นเครื่องยนต์หลักที่จะพลิกโฉม 3 ด้านสำคัญ คือ พลิกโลกเศรษฐกิจ สู่ระบบหลายขั้ว (Fragmentation) พลิกโฉมองค์กร สู่ระบบอัตโนมัติที่คิดและตัดสินใจเองได้ และ พลิกโฉมผู้บริโภค ที่ต้องการประสบการณ์เฉพาะบุคคลขั้นสูงสุด (Hyper-Personalized)
ความท้าทายจึงไม่ใช่การมีข้อมูล แต่คือการผสาน AI เข้ากับข้อมูลมหาศาลจากทุกมิติ เอ้ก ดิจิทัล จึงเสนอแนวทางผ่านระบบนิเวศ EGG Nexus ที่เชื่อมโยงข้อมูลลูกค้ารอบด้านแบบ 720 องศา เพื่อสร้างมุมมองเดียว (One Single View) ที่นำไปสู่การตลาดยุคใหม่
กางพิมพ์เขียว 3Cs: สูตรสำเร็จคว้าชัยในยุค AI First
ไฮไลท์สำคัญของงานที่เปรียบเหมือนพิมพ์เขียวให้ธุรกิจนำไปปรับใช้ คือ กลยุทธ์ 3Cs ที่หลอมรวมข้อมูล, AI และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเปลี่ยนโอกาส ให้เป็นยอดขาย
- Context (บริบท) – พลิกข้อมูลสู่ความเข้าใจจริง: ในยุคที่ข้อมูลท่วมท้น การมีข้อมูลมากไม่เท่ากับการเข้าใจ หัวใจคือการใช้ AI ตีความบริบทที่แท้จริงของผู้บริโภคให้เร็วและแม่นยำ AI จะช่วยวิเคราะห์และดึงอินไซท์สำคัญออกมา โดยมีงานวิจัยชี้ว่าองค์กรที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูล สามารถลดต้นทุนได้เฉลี่ยถึง 30% และเพิ่มรายได้กว่า 20%
- Culture (วัฒนธรรม) – สร้างความหมาย เชื่อมต่อผู้คน: เมื่อเข้าใจบริบทแล้ว ขั้นต่อไปคือการใช้ AI พาแบรนด์เข้าไปนั่งในใจผู้บริโภค ผ่านการวิเคราะห์กระแสที่กำลังมาแรง และสร้าง Hyper-Personalized Content at scale หรือคอนเทนต์ที่ใช่สำหรับแต่ละบุคคล ในจังหวะและช่องทางที่เหมาะสม ทำให้แบรนด์กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่ผู้บริโภคสนใจ
- Commerce (การค้า) – เปลี่ยนวัฒนธรรมให้เป็นยอดขาย: ขั้นตอนสุดท้ายคือการเปลี่ยนความสนใจให้เป็นการค้าที่วัดผลได้จริง โดยใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมในทุกจุดสัมผัส (Touchpoint) และใช้เครือข่ายรีเทลมีเดียแบบ Omnichannel สร้างประสบการณ์ที่ตรงใจ จนนำไปสู่การปิดการขายที่แม่นยำ และปรับกลยุทธ์ได้แบบเรียลไทม์
Synergy คือคำตอบสุดท้าย AI ดัน GDP ไทยพุ่ง 1-2%
นอกจากการเสวนาที่เข้มข้น เอ้ก ดิจิทัล ยังได้เปิดตัว The Matter Suite โซลูชัน Business Intelligence ใหม่ล่าสุด เพื่อตอกย้ำบทบาทการเป็น Nexus หรือศูนย์กลางที่เชื่อมต่อทุกองคาพยพของธุรกิจ
ดร.ธีรเดช ทิ้งท้ายว่า โลกยุคนี้ไม่มีใครจำเป็นต้องเก่งทุกด้าน แต่สิ่งสำคัญคือการหาพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้าน AI แล้วนำจุดแข็งมา Synergy กัน เพื่อเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด โดยคาดการณ์ว่า AI มีศักยภาพที่จะสร้างโอกาสและผลักดัน GDP ของไทยให้เพิ่มขึ้นได้อีก 1-2%
การรวมตัวของยักษ์ใหญ่ในครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การประกาศวิสัยทัศน์ แต่คือการส่งสัญญาณเริ่มการปฏิวัติอุตสาหกรรมไทยสู่ยุค AI First อย่างเต็มรูปแบบ




