Share on
×

Share

ปลดล็อกครั้งใหญ่ไรเดอร์ รย.17 รย.18 ใช้ ‘สำเนาเล่มทะเบียน’ รถติดไฟแนนซ์ได้

ปลดล็อกครั้งใหญ่ไรเดอร์ รย.17 รย.18 ใช้ 'สำเนาเล่มทะเบียน' รถติดไฟแนนซ์ได้

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) และกระทรวงคมนาคม ผนึกกำลัง กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และ ETDA ร่วมกับภาคเอกชนทั้งสถาบันการเงินและแพลตฟอร์ม ประกาศการบูรณาการครั้งใหญ่ เพื่อปลดล็อกอุปสรรคที่ขัดขวางผู้ประกอบอาชีพไรเดอร์มานาน โดยเปิดตัวมาตรการเร่งด่วน ทั้งการเปิดแพลตฟอร์มลงทะเบียนออนไลน์ใหม่ และการอนุญาตให้ใช้ “สำเนาเล่มทะเบียน” แทนตัวจริงสำหรับรถที่ติดไฟแนนซ์ เพื่อตั้งเป้าดึงไรเดอร์กว่า 2 แสนคนเข้าสู่ระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย ภายในกรอบเวลาโครงการถึง 28 กุมภาพันธ์นี้

ในการแถลงข่าวเรื่องมาตรการแก้ปัญหาการจดทะเบียนรถยนต์รับจ้าง (รย. 17 และ รย. 18) ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล นำโดย ไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) พร้อมด้วย มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างซึ่งมีมาอย่างยาวนาน นั่นคือความแตกต่างอย่างมหาศาลระหว่างจำนวนผู้ประกอบอาชีพไรเดอร์ที่ประเมินว่ามีอยู่จริงในระบบ ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 200,000 ราย กับจำนวนผู้ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

ข้อมูลระบุว่า การจดทะเบียนประเภท รย. 17 (รถจักรยานยนต์) มีเพียงประมาณ 2,082 คัน และ รย. 18 (รถยนต์) มีเพียงประมาณ 6,185 คัน ตัวเลขที่แตกต่างกันอย่างมากนี้ ไม่ได้สะท้อนว่าผู้ประกอบอาชีพไม่ประสงค์จะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่กำลังชี้ให้เห็นว่าระบบที่เป็นอยู่ไม่เอื้ออำนวย โดยมีการยอมรับว่ากฎหมายและกระบวนการในปัจจุบันมีความล้าหลัง จนกลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางผู้ประกอบอาชีพสุจริตซึ่งมีความตั้งใจจะเข้าสู่ระบบ

ดังนั้น การแถลงข่าวครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนนิมิตหมายใหม่ที่แสดงถึงการบูรณาการความร่วมมืออย่างจริงจังระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง นอกเหนือจากสองกระทรวงหลักแล้ว ยังรวมถึง กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ร่วมกับภาคเอกชน ทั้งกลุ่มสถาบันการเงิน (Leasing) และ ผู้ให้บริการเรียกรถผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (เช่น Grab, Line Man, Bolt) เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

เทคโนโลยีนำทางสลายคอขวดระบบราชการ

การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการสลายปัญหาคอขวดของระบบราชการที่ล่าช้า โดยในอดีตนั้น ปัญหาใหญ่ที่ผู้ขับขี่หรือไรเดอร์ต้องเผชิญคือความล่าช้าของกระบวนการเอกสาร ไรเดอร์บางคนจำเป็นต้องรอหนังสือรับรองจากแพลตฟอร์มที่ตนสังกัดนานถึง 15 หรือ 30 วัน และหลังจากนั้นยังต้องนำเอกสารไปยื่นด้วยตนเองอีก

เพื่อแก้ไขอุปสรรคดังกล่าว ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ได้ชี้แจงว่า ทาง ETDA จึงได้เปิดตัวแพลตฟอร์มกลางสำหรับการลงทะเบียนออนไลน์ขึ้นมา ระบบใหม่นี้จะช่วยให้ไรเดอร์สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์หรือมือถือได้โดยตรง และใช้ ThaID ในการยืนยันตัวตนเพื่อความรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาทั้งกระบวนการไม่เกิน 2 นาที เมื่อไรเดอร์ลงทะเบียนเสร็จสิ้น ระบบจะส่งข้อมูลไปให้แพลตฟอร์มที่ไรเดอร์สังกัดอยู่ทำการตรวจสอบทันที และเมื่อแพลตฟอร์มยืนยันตัวตนกลับมา ETDA ก็จะส่งข้อมูลต่อไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่ออำนวยความสะดวกในขั้นตอนการจดเปลี่ยนประเภทรถต่อไป นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดขั้นตอน ลดเวลา และเพิ่มความโปร่งใส

ปลดล็อกครั้งใหญ่ไรเดอร์ รย.17 รย.18 ใช้ 'สำเนาเล่มทะเบียน' รถติดไฟแนนซ์ได้

ทลายกำแพงการเงิน ภาระที่มหาศาลของคนตัวเล็ก

ประเด็นสำคัญที่สะท้อนปัญหาปากท้องของกลุ่มผู้ประกอบอาชีพตัวเล็ก คือภาระทางการเงินที่มหาศาล โดยเฉพาะสำหรับไรเดอร์ที่รถยนต์ยังติดสัญญาเช่าซื้อหรือไฟแนนซ์

ปัญหาประการแรกคือข้อกำหนดเรื่อง “เล่มทะเบียนตัวจริง” สรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ชี้แจงว่า ในการจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทรถ ผู้ขับขี่จำเป็นต้องใช้ “เล่มทะเบียนตัวจริง” ซึ่งการจะขอเอกสารนี้จากบริษัทไฟแนนซ์ ไรเดอร์จำเป็นต้องวางเงินประกันเป็นจำนวนมาก (ราว 5,000 – 10,000 บาท) ซึ่งถือเป็นภาระที่หนักเกินไป สำหรับแนวทางแก้ไขในระยะสั้น กรมการขนส่งฯ จึงได้อนุญาตให้ใช้ “สำเนาเล่มทะเบียน” แทนตัวจริงได้ ตลอดช่วงระยะเวลาของโครงการนี้จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์

ปัญหาประการที่สอง คือประเด็นประกันภัยและอัตราดอกเบี้ย ซึ่งในเรื่องนี้ ได้มีการหารือร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และภาคสถาบันการเงิน โดยมีมาตรการนำร่องจาก TTB (TMBThanachart) ที่แสดงตนเป็นต้นแบบ ประกาศช่วยเหลือ โดยจะยอมรับประกันภัยรถยนต์เชิงพาณิชย์ขั้นพื้นฐาน ไม่จำเป็นต้องเป็นประกันชั้น 1 อีกต่อไป และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยส่วนเพิ่ม จากเดิมที่อาจสูงถึง 1% ให้เหลือเพียง 0.25%

ปฏิรูปกฎหมายยุคเก่าให้ทันยุคปัจจุบัน

ปัญหาหลายข้อที่เกิดขึ้นนั้น มีสาเหตุมาจากกฎหมายที่บังคับใช้มาเป็นเวลานานจนไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน คุณสรพงศ์ ชี้แจงแนวทางแก้ไขในหลายประเด็น

ประการแรก คือการยกเลิกข้อกำหนดเดิมที่บังคับให้ต้องมีกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านรับรองภูมิลำเนา ซึ่งเป็นอุปสรรคมาก โดยกรมการขนส่งฯ จะปรับเปลี่ยนข้อกำหนดนี้ โดยอนุญาตให้ใช้เอกสารอื่นแทนได้ เช่น บัตรนักศึกษา บัตรพนักงาน หรือหนังสือรับรองการทำงาน

นอกจากนี้ กฎหมายเดิมจากปี 2547 ที่จำกัดขนาดเครื่องยนต์ (ซีซี) ของรถจักรยานยนต์สาธารณะไว้เพียง 125 ซีซี ก็กำลังจะถูกแก้ไข โดย ขบ. ยืนยันว่าจะมีการเพิ่มขนาดซีซีให้เหมาะสมกับปัจจุบันอย่างแน่นอน แต่ยังต้องขอเวลาเพื่อหารือในประเด็นด้านความปลอดภัยกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน

ประการสุดท้าย คือการแก้ไขกฎหมายที่เดิมอนุญาตให้ใช้เฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งกระทรวงคมนาคม รมช.มัลลิกา ได้ “เห็นชอบในหลักการ” แล้ว ที่จะอนุญาตให้ใช้รถเช่ามาให้บริการได้ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีใบขับขี่สาธารณะแต่ไม่มีทุนรอนเพียงพอที่จะซื้อรถยนต์เป็นของตนเอง สามารถประกอบอาชีพนี้ได้เช่นกัน

Sandbox แห่งโอกาส กับเวลาที่ต้องพิสูจน์

รมว.ไชยชนก ได้ย้ำในตอนท้ายว่า มาตรการผ่อนปรนที่ประกาศออกมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้มีสถานะเป็นการนิรโทษกรรมถาวร แต่มีลักษณะเป็นโครงการที่มีกรอบเวลาดำเนินงานชัดเจน โดยกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งอาจเปรียบได้กับ Sandbox หรือพื้นที่ทดลองที่ท้าทายความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

กล่าวคือ สำหรับภาครัฐ นี่คือการพิสูจน์ความพร้อมในการอำนวยความสะดวก ในขณะที่ภาคเอกชนต้องพิสูจน์ว่าจะให้ความร่วมมือ และที่สำคัญที่สุด คือกลุ่มไรเดอร์เอง ที่ต้องพิสูจน์ความจริงใจ ว่าเมื่ออุปสรรคต่าง ๆ ถูกทลายลงแล้ว พวกเขาพร้อมที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อเข้ามาอยู่ในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย

เพื่อเป็นการเร่งรัดการตัดสินใจ ผู้ให้บริการเรียกรถผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (เช่น Grab, LINEMAN, Bolt) ยังได้ออกมาตรการจูงใจ (Incentive) เพิ่มเติมด้วย การเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงมีความหมายเป็นมากกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่คือความพยายามสร้างระบบนิเวศใหม่ (New Ecosystem) ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน และนี่คือโอกาสทองสำหรับผู้ประกอบอาชีพไรเดอร์ทุกคนที่ควรคว้าไว้

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ศึก ‘คนละครึ่งพลัส’ LINE MAN คว้า 2 ล้านออเดอร์ Grab ดันร้านเล็กโต 18 เท่า

ประกาศใหม่ ‘Ride Sharing’ แพลตฟอร์ม-ไรเดอร์-ผู้โดยสาร ได้ประโยชน์และต้องทำอะไรบ้าง?

×

Share

ผู้เขียน