“พิมพ์พิชา อุตสาหจิต” จากเด็กหญิงที่ทุกคนคุ้นเคยบนปก “ขายหัวเราะ” วันนี้ในฐานะซีอีโอแห่ง Vithita Group ได้ขึ้นเวทีบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางครั้งสำคัญ ที่พลิกโฉมแบรนด์การ์ตูนระดับตำนานจากวิกฤติสื่อสิ่งพิมพ์ สู่การเป็น “Humor Agency” และอาณาจักรสื่อสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนด้วยหัวใจสำคัญเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ “Insight” ของมนุษย์ ซึ่งเป็นกุญแจที่ทำให้แบรนด์กว่าครึ่งศตวรรษยังคงเติบโตและสร้างสรรค์ผลงานที่เชื่อมโยงกับคนทุกยุคทุกสมัย
ในยุคที่ภูมิทัศน์สื่อเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง พิมพ์พิชา อุตสาหจิต กรรมการบริหารกลุ่มบริษัท วิสิบ้า กรุ๊ป และทายาทของ “บก.วิธิต” ผู้ให้กำเนิด “ขายหัวเราะ” ได้เปิดเผยมุมมองและเบื้องหลังการปรับตัวครั้งใหญ่ที่ทำให้แบรนด์การ์ตูนอารมณ์ขันที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 50 ปี ไม่เพียงแค่อยู่รอด แต่ยังเติบโตและแตกหน่อเป็นธุรกิจสื่อสร้างสรรค์ที่หลากหลาย ภายใต้ชื่อ “Vithita Group”
–เปิดใจ “พิมพ์พิชา อุตสาหจิต” ทายาทรุ่น 3 ขายหัวเราะ “การ์ตูนเป็น Soft Power ที่ไปอยู่กับอะไรก็ได้”
จากหนังคอมเมดี้สู่ดราม่า: เมื่อสนามแข่งขันเปลี่ยนไปตลอดกาล
พิมพ์พิชาเล่าย้อนถึงช่วงเวลาที่เธอตัดสินใจเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัว ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่คลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลง (Disruption) โหมกระหน่ำอุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์อย่างหนัก
เธอบรรยายช่วงเวลานั้นว่า “ชีวิตนิวเนี่ยเป็นหนังคอมเมดี้ ทำงานอยู่กับฮิวเมอร์อารมณ์ขันอยู่ดี ๆ มันก็กลายเป็นหนังดราม่าน้ำตาตกไปเลย”
ในฐานะบัณฑิตจบใหม่ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาด้าน Business Management จากประเทศอังกฤษ เธอต้องเผชิญกับความท้าทายที่ใหญ่กว่าแค่การขาดประสบการณ์ แต่เป็นความจริงที่ว่า “สนามแข่งขัน” ที่เธอเตรียมความพร้อมมาทั้งชีวิตได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อ Ecosystem ของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์หดตัวลง และแผงหนังสือซึ่งเป็นช่องทางหลักเริ่มล้มหายตายจากไป ทำให้เกิดคำถามสำคัญถึงการอยู่รอดของธุรกิจในอนาคต
ค้นพบตัวตนใหม่: เมื่อ“ขายหัวเราะ” ไม่ใช่แค่หนังสือการ์ตูน
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อทีมงานได้กลับมาตกตะกอนและค้นพบความจริงที่ว่า “ขายหัวเราะ” เป็นมากกว่าแค่การ์ตูนแก๊กตลกมาโดยตลอด “จริง ๆ แล้วขายหัวเราะเนี่ยเป็นเหมือนศิลาจารึกที่บันทึกประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของประเทศไทย” พิมพ์พิชากล่าว
เธอมองว่า ไม่ว่าจะเป็นป๊อปคัลเจอร์ ซับคัลเจอร์ ดราม่าการเมืองและสังคม หรือแม้กระทั่งมีมต่าง ๆ ล้วนถูกบันทึกและบอกเล่าผ่านลายเส้นของการ์ตูนในเครือมาโดยตลอด
การตระหนักในคุณค่านี้ ทำให้ “ขายหัวเราะ” นิยามตัวเองใหม่ ไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตหนังสือการ์ตูน แต่เป็น “แบรนด์ที่สะท้อนตัวตนและวัฒนธรรมร่วมสมัยอย่างแท้จริง” โดยใช้การ์ตูนและอารมณ์ขันเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ทรงพลัง และปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจสู่การเป็น Humor Agency เต็มตัว ที่พร้อมร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม (Collaboration) เพื่อสร้างสรรค์แคมเปญที่สดใหม่และเข้าถึงใจผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น
- หอแว่น: ต่อยอดการ์ตูนไปสู่สินค้าที่จับต้องได้อย่างแว่นตาดีไซน์พิเศษ
- Mc Jeans: สร้างความสดใหม่ด้วยแคมเปญเมคโอเวอร์ตัวการ์ตูนครั้งแรกในรอบ 50 ปี
- Farmhouse: นำตัวละครข้ามจักรวาลไปอยู่บนซองขนมปังเพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคในโลกออฟไลน์
- IKEA: ผสมผสานอารมณ์ขันแบบไทยและสวีเดนเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
- Preduce: เชื่อมโยงมุกคลาสสิกเข้ากับวัฒนธรรมสตรีทของคนรุ่นใหม่ผ่านดีไซน์บนสเก็ตบอร์ด
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.): ใช้อารมณ์ขันส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน สร้างประโยชน์ให้ชาวบ้านในพื้นที่
ถอดรหัส “Insight”: หัวใจที่ขับเคลื่อนทุกสรรพสิ่ง
พิมพ์พิชาเน้นย้ำว่า ความสามารถที่แท้จริงของขายหัวเราะไม่ใช่แค่การคิดมุกตลก แต่คือ “การเข้าถึงจุดกำเนิดของมุกตลกเหล่านั้นต่างหาก” ซึ่งหมายถึงการเข้าใจ Insight ของมนุษย์อย่างลึกซึ้งว่าผู้คนจะตอบสนองต่ออารมณ์ขันแบบไหน และอะไรคือสิ่งที่อยู่ในหัวจิตหัวใจของพวกเขา เมื่อ Humor มาเจอกับ Insight ที่ถูกต้อง มันจะกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ทรงพลัง สามารถเล่าเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย เล่าเรื่องขมให้เป็นเรื่องขำ และดึงเรื่องไกลตัวให้เข้ามาใกล้ชิดและอบอุ่น
ปรัชญา “Insight-Driven Company” นี้ได้กลายเป็น DNA ที่ขับเคลื่อนทุกแบรนด์ในเครือ Vithita Group ซึ่งได้ขยายอาณาจักรออกไปอย่างกว้างขวางเพื่อตอบโจทย์การสื่อสารในมิติต่าง ๆ ได้แก่
- Vithita Animation ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์ Brand Character ที่เป็นที่รักมากมาย เช่น น้องก๊อตจิ (ปตท.) แม่มณี (SCB) และกล้วยกรุงศรี โดยเชื่อว่าคาแรคเตอร์คืออีกหนึ่งกุญแจสู่ความสำเร็จของแบรนด์
- Salmon Books สำนักพิมพ์เจ้าของผลงาน Best Seller และรางวัลซีไรต์ ที่ยังคงเชื่อมั่นในพลังของ Storytelling ผ่านหนังสือ ในยุคที่ทุกแพลตฟอร์มต้องการคอนเทนต์สั้นกระชับ
- The Matter สำนักข่าวที่ตอบโจทย์ Insight ด้านความเกี่ยวข้อง (Relevancy) ของคนรุ่นใหม่ โดยนำเรื่องราวต่างๆ มาเล่าให้เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันอย่างแนบสนิท
- MOM สื่อสำหรับพ่อแม่ที่ขับเคลื่อนด้วยความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) ตระหนักว่าการเป็นพ่อแม่คืองานที่ยากที่สุด จึงนำเสนอคอนเทนต์ที่เป็นเพื่อนและให้กำลังใจ
- Capital สื่อธุรกิจที่ตั้งใจยกระดับคอนเทนต์ธุรกิจให้เป็นมิตรและมีรสนิยมมากขึ้น ทำให้เรื่องการเงินการตลาดที่ดูแข็งกระด้างกลายเป็นเรื่องของมนุษย์ที่เข้าถึงง่าย
- Salmon House, Salmon Lab, Salmon Podcast สตูดิโอผลิตคอนเทนต์โฆษณาที่ทำให้แบรนด์มีความเป็นมนุษย์และสร้าง Evergreen Content ที่เป็นมากกว่าแค่โฆษณาขายของ
สู่ยุคใหม่: One Stop Service ที่พร้อม “รับจบทั้ง Ecosystem”
ล่าสุด Vithita Group ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความคิดสร้างสรรค์ด้วยการจัดงาน Character Fest Thailand ซึ่งเป็นเวทีที่มอบสปอตไลท์ให้แก่ Brand Character ได้เป็นพระเอกอย่างเต็มรูปแบบ สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จด้วยยอดผู้เข้าชมงานกว่า 72,000 คน เกิดเป็นไวรัลและติดเทรนด์บนโซเชียลมีเดีย สร้าง Brand Love ให้กับแบรนด์ที่เข้าร่วมได้อย่างมหาศาล
ในวันนี้ Vithita Group ได้เติบโตจนกลายเป็นองค์กรสื่อที่สามารถออกแบบการสื่อสารครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและตอบโจทย์ได้ทุก Touchpoint ของแคมเปญ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เปรียบเสมือน One Stop Service ที่สามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร
“ไม่ว่าพฤติกรรมของผู้ชมจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด หรือ AI และ Big Data จะเข้ามามีบทบาทสำคัญยังไง แต่ใจกลางของทุกสิ่งทุกอย่างก็คือ Insight ซึ่งเป็นความเชื่อของพวกเรามาตลอด 50 ปี และจะเป็นตลอดไป”
พิมพ์พิชากล่าวปิดท้าย พร้อมต้อนรับทุกคนเข้าสู่ยุคใหม่ของ Vithita Group ที่พร้อมจะเฟ้นหา Insight ใหม่ ๆ และเสิร์ฟเสียงหัวเราะคำโตให้กับสังคมไทยต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ดีป้าแก้เกมขาดคนดิจิทัล อัดฉีดมาตรการภาษี 250% กระตุ้นธุรกิจเร่งอัปสกิล
True Digital Academy เปิดตัว ‘Career Spark’ แพลตฟอร์มปั้นทักษะคน สู่งานยุค AI




