กองทุน Disrupt Health Impact Fund ประกาศความสำเร็จในการเข้าลงทุนใน “PocDoc” สตาร์ตอัปผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการวินิจฉัยโรคแบบดิจิทัลจากสหราชอาณาจักร เตรียมนำนวัตกรรมตรวจสุขภาพสำหรับกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่รวดเร็วและเข้าถึงง่าย บุกตลาดไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลกว่า 4.6 ล้านล้านบาท ภายในปี 2569 มุ่งเป้าลดช่องว่างระบบสาธารณสุขและสร้างสังคมสุขภาพยั่งยืน
พลิกโฉมการตรวจ NCDs: รู้ผลผ่านมือถือในไม่กี่นาที
ปัจจุบันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs (เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และโรคไต) เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตทั่วโลกถึง 74% หรือราว 41-43 ล้านคนต่อปี PocDoc จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Care Platform) ที่ช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจเช็กความเสี่ยงได้ด้วยตนเองผ่านเทคโนโลยีอัจฉริยะ
จุดเด่นของเทคโนโลยี PocDoc:
- Microfluidics Technology: ใช้เลือดเพียงหยดเดียวจากการเจาะปลายนิ้วลงบนชุดวิเคราะห์ (MFA) ที่จดสิทธิบัตร
- PocDocOS: อัลกอริทึมเฉพาะบนสมาร์ทโฟนที่สามารถสแกนชุดตรวจและประมวลผลเป็นค่าเชิงปริมาณ เช่น คอเลสเตอรอล (HDL, Triglycerides) และระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c) ด้วยความแม่นยำมาตรฐานการแพทย์ระดับโลก
- Connectivity: เชื่อมต่อผลตรวจผ่านแอปพลิเคชันไปยังแพทย์และฐานข้อมูลโรงพยาบาลได้ทันที ช่วยให้การวินิจฉัยและรักษาทำได้รวดเร็วขึ้น
ความสำเร็จระดับ “Game Changer” จากสหราชอาณาจักร
ในสหราชอาณาจักร ชุดตรวจ Healthy Heart Check ของ PocDoc กลายเป็นชุดตรวจวินิจฉัยที่ขายดีที่สุดนับตั้งแต่ยุคโควิด-19 และได้รับการบูรณาการเข้ากับระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ เมื่อเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา PocDoc ได้เปิดตัว Diabetes Health Check ซึ่งถูกขนานนามโดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษว่าเป็น “เกมเชนเจอร์” ในการตรวจเบาหวานชนิดที่ 2 ที่สะดวกและเข้าถึงกลุ่มเสี่ยงในระดับชุมชน ร้านยา และสถานที่ทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปักหมุดไทย-อาเซียน: ยกระดับสู่ Medical Hub
ณรัณภัสสร์ ฐิติพัทธกุล ผู้บริหารกองทุน Disrupt Health Impact Fund เปิดเผยว่า การลงทุนครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืน (SDG 3.4) ของสหประชาชาติ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรค NCDs ลง 1 ใน 3 ภายในปี 2573
“เราเล็งเห็นศักยภาพของ PocDoc ในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คนไทยเข้าถึงการตรวจสุขภาพเชิงป้องกันในราคาที่เข้าถึงได้ ลดภาระค่าใช้จ่ายมหาศาลของระบบสาธารณสุข และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในวงกว้าง”
ด้าน สตีฟ โรสต์ (Steve Roest) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง PocDoc กล่าวเสริมว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอัตราผู้ป่วย NCDs เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ประชากรมีทักษะการใช้ดิจิทัลที่สูง จึงเป็นโอกาสสำคัญในการนำแพลตฟอร์มนี้เข้ามาขับเคลื่อนนวัตกรรมสุขภาพเชิงป้องกันในวงกว้าง
ก้าวต่อไปของ Disrupt Health Impact Fund
กองทุนฯ วางแผนลงทุนในบริษัทนวัตกรรม Healthcare ทั้งในและต่างประเทศรวม 15 บริษัท ภายใน 3-5 ปี โดยเน้น 5 ด้านสำคัญ:
- Self Care (การดูแลสุขภาพตนเอง)
- Preventive Care (เวชศาสตร์ป้องกัน)
- Silver Age (การดูแลผู้สูงวัย)
- Holistic Wellness (สุขภาพแบบองค์รวม)
- Smart Hospital (โรงพยาบาลอัจฉริยะ)
ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเร่งขยายผลเทคโนโลยีระดับโลกสู่ระบบสาธารณสุขไทย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Medical Hub ชั้นนำของโลกอย่างแท้จริง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
AI Outlook 2026: สู่ยุค ‘AI Agent’ และโจทย์ใหญ่ ‘Think Global’
EGCO Group ชูกลยุทธ์ ‘POWER4’ ทุ่ม 30,000 ล้านบาท ขับเคลื่อนพลังงานสะอาด



