Share on
×

Share

Robinhood เปิดตัว “Robinhood Coin” พลิกกลยุทธ์ฟู้ดเดลิเวอรี่

ท่ามกลางสมรภูมิฟู้ดเดลิเวอรี่ที่ยังคงลุกเป็นไฟด้วยสงคราม “เผาเงิน” (Cash Burn) ห้ำหั่นกันด้วยส่วนลดอย่างดุเดือด โรบินฮู้ด (Robinhood) แพลตฟอร์มสัญชาติไทย ภายใต้การนำของ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กลับเลือกที่จะเดินสวนกระแสอย่างสิ้นเชิง ด้วยการประกาศเดิมพันครั้งใหญ่ที่จะเปลี่ยนนิยามความภักดีของลูกค้าไปตลอดกาล ผ่านการเปิดตัว “Robinhood Coin” ซึ่งไม่ใช่แค่คะแนนสะสม แต่เป็น “ตั๋ว” สู่การเป็นผู้ร่วมสร้างและกำหนดทิศทางของแบรนด์

นี่คือย่างก้าวที่ชัดเจนในการพาตัวเองออกจากสมรภูมิสีเลือด (Red Ocean) และเป็นคำประกาศว่า “ยุคของการสู้ด้วยราคาที่ถูกที่สุดได้จบลงแล้ว” สำหรับพวกเขา

เสียงของคุณมีความหมาย: เมื่อ “แต้ม” ไม่ได้มีไว้แค่แลกส่วนลด

โรบินฮู้ดกำลังจะพลิกโฉมความสัมพันธ์ระหว่างแพลตฟอร์มกับผู้ใช้งาน ให้ลึกซึ้งยิ่งกว่าแค่การสะสมแต้มแลกของรางวัล ด้วยนวัตกรรมที่เรียกว่า “Robinhood Coin” ซึ่งถูกวางบทบาทให้เป็นมากกว่าคะแนนสะสม แต่เป็น “สิทธิ์” ในการร่วมกำหนดลมหายใจของแบรนด์

มรกต ยิบอินซอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า Robinhood Coin คือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการสร้าง “คอมมูนิตี้” ที่แท้จริง ที่ซึ่งลูกค้าไม่ได้เป็นเพียงผู้รับบริการอยู่ปลายทาง แต่ได้เลื่อนสถานะขึ้นมาเป็น “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” ที่สามารถร่วมออกแบบอนาคตของแพลตฟอร์มที่ตนเองรักและสนับสนุนได้

เป้าหมายที่แท้จริงดังที่คุณมรกตกล่าวไว้ คือ “การสร้าง Community ที่ทุกคนมีสิทธิ์มีส่วนในการกำหนดทิศทาง” เพราะเธอเชื่อมั่นว่า “ความคิดเห็นของแฟนคลับมีคุณค่าที่จะสร้าง Robinhood ให้แข็งแกร่งและงดงาม”

หัวใจของโมเดลนี้จึงอยู่ที่การเปลี่ยน “แต้ม” ให้กลายเป็น “เสียง” ผ่าน “สิทธิ์ในการโหวต” (Voting Rights) ลองจินตนาการว่า เสียงของคุณสามารถกำหนดได้ว่าใครคือบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นตัวแทนของแบรนด์ หรือกิจกรรมต่อไปของ Robinhood ควรเป็นอย่างไร นี่คือการเดินทางที่เปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้บริโภค” ให้กลายมาเป็น “ผู้ร่วมสร้าง” ที่เป็นส่วนสำคัญของครอบครัวโรบินฮู้ดอย่างแท้จริง

เกมของแฟนตัวจริง: เมื่อ “Halving” คือบทพิสูจน์ความภักดี

โรบินฮู้ดไม่ได้เพียงแค่สร้างเหรียญขึ้นมา แต่ได้ออกแบบ “เกม” ที่น่าสนใจเพื่อให้รางวัลแก่แฟนพันธุ์แท้ตัวจริง โดยหยิบยืมปรัชญามาจาก Bitcoin ที่ว่า “ของที่มีจำกัด ย่อมมีคุณค่า” ซึ่งมีกติกาสำคัญที่เรียกว่า “Halving” เป็นตัวกำหนดเกม

วริศ บูลกุล ที่ปรึกษาโครงการ ได้เล่าให้เห็นภาพว่า การเดินทางเพื่อครอบครอง Robinhood Coin ที่มีเพียง 21 ล้านเหรียญนั้น ในช่วงแรกเปรียบเสมือนการเปิดประตูต้อนรับทุกคนอย่างกว้างขวาง ผู้ใช้งานสามารถสะสมแต้มจากการใช้จ่ายและแลก Coin มาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก (1,000 แต้ม แลกได้ 1,000 Coin)

แต่เมื่อการเดินทางมาถึงครึ่งทาง และเหรียญถูกแลกออกไปแล้ว 10.5 ล้านเหรียญ “กฎของเกม” ก็จะเปลี่ยนไปทันที ระบบ Halving จะทำให้บททดสอบความภักดีเริ่มต้นขึ้น ความท้าทายจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะผู้เล่นหน้าใหม่จะต้องพยายามมากขึ้นเป็นสองเท่า (ใช้ 2,000 แต้ม) เพื่อให้ได้ Coin ในจำนวนเท่าเดิม

“เป็นการส่งเสริมให้คนที่เข้ามาเป็นแฟนพันธุ์แท้ก่อน สามารถทำได้ง่ายยิ่งขึ้น” คุณวริศกล่าว นี่คือคำอธิบายที่ชัดเจนว่า Halving คือกลไกที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบความได้เปรียบให้กับผู้ที่มาก่อน ผู้ที่เชื่อมั่นและร่วมสร้างคอมูนิตี้มาตั้งแต่ยุคบุกเบิก

ท้ายที่สุดแล้ว กลไกนี้จึงเป็นมากกว่าแค่ระบบแลกแต้ม แต่มันคือบทพิสูจน์ที่ค่อย ๆ ทำให้ Coin กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความภักดีที่หายากและทรงคุณค่าขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่าแกนกลางของคอมูนิตี้แห่งนี้ ประกอบขึ้นจาก “แฟนตัวจริง” ที่พร้อมจะเติบโตไปกับแบรนด์อย่างยั่งยืน

ApeChain: พันธมิตรระดับโลกและขุมพลังเทคโนโลยีเบื้องหลัง Robinhood Coin

เบื้องหลังการขับเคลื่อนโครงการ Robinhood Coin คือการจับมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง ApeChain ซึ่งเป็นทีมเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญและบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในโลกของ Web3 และสินทรัพย์ดิจิทัล

หัวใจคือความเชี่ยวชาญด้านการสร้างคอมมูนิตี้ เหตุผลสำคัญที่โรบินฮู้ดเลือก ApeChain ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นเพราะความสำเร็จที่พิสูจน์แล้วในการสร้าง “คอมมูนิตี้” ที่แข็งแกร่งและเหนียวแน่นที่สุดในโลก พวกเขาคือทีมที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับความสำเร็จของโปรเจกต์ NFT ชื่อดังอย่าง CryptoPunks และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Bored Ape Yacht Club (BAYC) ซึ่งเป็นที่ยอมรับในฐานะคอมมูนิตี้ที่มีความรักในแบรนด์สูงมาก มีการจัดกิจกรรมพบปะกันทั่วโลก และสร้างมูลค่ามหาศาล โรบินฮู้ดจึงมองว่า ApeChain คือต้นแบบและผู้กุมสูตรสำเร็จในการสร้างความผูกพันกับแบรนด์ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของ Robinhood Coin

เทคโนโลยีบล็อกเชนที่ตอบโจทย์ เร็ว ถูก และไร้รอยต่อ ในทางเทคนิค ApeChain คือเครือข่ายบล็อกเชนที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับการสร้างคอมมูนิตี้ มีจุดเด่นคือ ความรวดเร็วในการทำธุรกรรม และ ต้นทุนที่ต่ำมาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โรบินฮู้ดสามารถมอบประสบการณ์ที่ “ไร้รอยต่อ” (Seamless) ให้กับผู้ใช้งานได้

ผู้ใช้งานแอปโรบินฮู้ดจะ ไม่รู้สึกถึงความซับซ้อนของเทคโนโลยีเบื้องหลังเลย การสะสมแต้ม การแลก Coin จะเกิดขึ้นอย่างราบรื่นเหมือนการใช้งานแอปพลิเคชันทั่วไป โดย ไม่มีค่าธรรมเนียม (Gas Fee) ใด ๆ มาเป็นอุปสรรค ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ทาง ApeChain เป็นผู้สนับสนุน นี่คือจุดที่แตกต่างจากบล็อกเชนอื่นๆ และทำให้โครงการนี้สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานในวงกว้างได้

ประโยชน์ที่มากกว่าเทคโนโลยี แต่คือการยกระดับแบรนด์สู่เวทีโลก การร่วมมือกับ ApeChain ยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของโรบินฮู้ดในเวทีสากล เนื่องจาก ApeChain มีพาร์ทเนอร์เป็นแบรนด์หรูและองค์กรระดับโลกมากมาย เช่น Formula One (F1) การที่ ApeChain เลือกทำงานร่วมกับโรบินฮู้ด จึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและทำให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ อีกทั้งยังช่วยให้โครงการ Robinhood Coin สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และใช้งบประมาณน้อยกว่าการพัฒนาระบบขึ้นมาเองหลายเท่าตัว

เบื้องหลังกลยุทธ์ Robinhood: พลิกเกมสู่กำไร ด้วยพลังจากฐานลูกค้าที่แตกต่าง

เบื้องหลังการเปิดตัว Robinhood Coin คือการตัดสินใจทางธุรกิจครั้งสำคัญ หลังจากผ่านช่วงเวลา 1 ปีที่เปรียบเสมือน “ปีแห่งการเรียนรู้” โรบินฮู้ดกำลังจะยุติวงจรการเผาเงิน (Cash Burn) และปรับเข็มทิศขององค์กรสู่ความยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการสร้างผลกำไรให้ได้ภายในปีหน้า การเคลื่อนไหวที่กล้าหาญนี้เกิดขึ้นได้เพราะโรบินฮู้ดไม่ได้เดินอยู่บนสุญญากาศ แต่ยืนอยู่บนรากฐานที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง นั่นคือ ฐานลูกค้าที่มีลักษณะเฉพาะตัวและแตกต่างจากตลาดโดยรวม

รากฐานที่แข็งแกร่งของโรบินฮู้ดนั้นเติบโตมาจากกลุ่มลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ซึ่งหล่อหลอมให้แกนหลักของผู้ใช้งานในปัจจุบัน คือกลุ่มคนวัยทำงานอายุ 30-50 ปี ที่มีกำลังซื้อสูงและไม่ได้อ่อนไหวต่อสงครามราคา พวกเขาไม่ใช่ “กลุ่มนักล่าส่วนลด” ที่พร้อมจะย้ายแพลตฟอร์ม แต่เป็นลูกค้าที่เลือกใช้บริการจาก “คุณค่าของแบรนด์” และประสบการณ์ที่จับต้องได้อย่าง “ความเร็วและความน่าเชื่อถือ” ภาพนี้สะท้อนผ่านตัวเลขผู้ใช้งานจริงราว 400,000 ราย และขนาดคำสั่งซื้อเฉลี่ยที่สูงถึง 250-300 บาทต่อบิล ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ถึงความภักดีและกำลังซื้อได้เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกัน เป้าหมายการเติบโตต่อไปคือการขยายฐานไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z ที่ขับเคลื่อนด้วยเรื่องราวและความเชื่อมั่นในพันธกิจของแบรนด์ (Brand Message) มากที่สุด 

กลยุทธ์ Robinhood Coin จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น “สะพาน” เชื่อมคนสองเจเนอเรชัน โดยอาศัยความพร้อมในการรับนวัตกรรมใหม่ๆ ของฐานลูกค้าเดิม และใช้พลังของ “คอมมูนิตี้” กับ “การมีส่วนร่วม” เป็นแม่เหล็กดึงดูดกลุ่ม Gen Z ซึ่งโรบินฮู้ดคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของลูกค้ากลุ่มใหม่นี้ได้ถึง 20-30%

ท้ายที่สุดแล้ว กลยุทธ์ทั้งหมดนี้สะท้อนภาพที่ชัดเจนว่า โรบินฮู้ดกำลังเลือกที่จะไม่ไล่ตามส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 แต่จะหันมาทุ่มเททรัพยากรเพื่อดูแล “ครอบครัว” หรือลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่เชื่อมั่นในแนวทางเดียวกันให้ดีที่สุด ซึ่งเป็นเส้นทางสู่ความยั่งยืนที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

หัวใจของโรบินฮู้ดคือการดูแล “คนตัวเล็ก” ทั้งระบบนิเวศ

แม้ว่ากลยุทธ์คอมมูนิตี้จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า แต่หัวใจที่แท้จริงที่ขับเคลื่อนโรบินฮู้ดนั้นหยั่งรากลึกไปกว่านั้น นั่นคือพันธกิจในการดูแล “คนตัวเล็ก” ในตลอดทั้งระบบนิเวศ เพื่อสร้างวงจรแห่งประโยชน์ที่เกื้อกูลกันอย่างยั่งยืน

จุดเริ่มต้นของวงจรนี้คือ ร้านค้า โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ซึ่งโรบินฮู้ดยังคงยืนหยัดเป็นทางเลือกที่สำคัญ ด้วยการเสนออัตราค่า GP (Gross Profit) ที่เป็นธรรมกว่าคู่แข่ง โดยกำหนดเพดานสูงสุดไว้ไม่เกิน 28% เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเติบโตได้

จากนั้น ความใส่ใจได้ถูกส่งต่อไปยัง ไรเดอร์ ผ่านนโยบาย “ไม่พ่วงออเดอร์” ซึ่งไม่เพียงเป็นจุดแข็งที่สร้างความเร็วในการจัดส่ง แต่ยังมอบ “ค่ารอบ” ในอัตราที่สูงที่สุดในตลาด เพื่อเป็นหลักประกันของรายได้ที่มั่นคงและสร้างขวัญกำลังใจในการทำงาน

ท้ายที่สุดแล้ว ประโยชน์ทั้งหมดจะถูกส่งมอบโดยตรงไปยัง ลูกค้า ผู้ซึ่งจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในแง่ของ “ความเร็วและความน่าเชื่อถือ” ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้จากการที่โรบินฮู้ดดูแลร้านค้าและไรเดอร์เป็นอย่างดี

ดังนั้น การเดิมพันของโรบินฮู้ดในครั้งนี้จึงมีความหมายลึกซึ้งกว่าแค่การเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ แต่มันคือการนำเสนอปรัชญาทางธุรกิจที่แตกต่าง ที่เชื่อมั่นว่าการเติบโตที่ยั่งยืนนั้นสร้างขึ้นจากความผูกพัน ไม่ใช่จากสงครามราคา ซึ่งเป็นโมเดลที่น่าจับตาอย่างยิ่งว่าจะสามารถสร้างแรงกระเพื่อมและกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมฟู้ดเดลิเวอรี่ของไทยได้สำเร็จหรือไม่

Robinhood สู่มือ ยิบอินซอย ?

SCBX ปิดดีลขาย Robinhood ให้ยิบอินซอย มูลค่ารวมสูงสุด 2,000 ล้านบาท

×

Share

ผู้เขียน