Share on
×

Share

รพ.บำรุงราษฎร์ ชูความสำเร็จ ‘สถาบันโรคหัวใจ’ ขึ้นแท่นเบอร์ 1 เอเชีย

รพ.บำรุงราษฎร์ ชูความสำเร็จ 'สถาบันโรคหัวใจ' ขึ้นแท่นเบอร์ 1 เอเชีย

โรคหัวใจและหลอดเลือดยังคงเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของผู้คนทั่วโลก สถิติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้กว่า 17-18 ล้านคนต่อปี หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของการเสียชีวิตทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้น แนวโน้มของโรคยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มคนอายุน้อยที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะอ้วน และวิถีชีวิตที่เร่งรีบ

สถาบันโรคหัวใจ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ตอกย้ำสถานะผู้นำด้านการรักษาโรคหัวใจระดับโลก หลังได้รับการจัดอันดับโดย Newsweek ให้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคหัวใจอันดับ 1 ของไทย ประกาศความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างครบวงจร ตั้งแต่การเปลี่ยนลิ้นหัวใจโดยไม่ต้องผ่าตัด ไปจนถึงการใช้หัวใจเทียมและยีนบำบัดในอนาคต ด้วยการนำนวัตกรรมมาใช้ร่วมกับความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ เพื่อรับมือกับโรคที่ซับซ้อนและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการดูแลสุขภาพหัวใจในภูมิภาค

ปรัชญา “Patient is Number One”

ศ.นพ.กุลวี เนตรมณี ผู้อำนวยการสถาบันโรคหัวใจ และอายุรแพทย์โรคหัวใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ
ศ.นพ.กุลวี เนตรมณี ผู้อำนวยการสถาบันโรคหัวใจ และอายุรแพทย์โรคหัวใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ

ศ.นพ.กุลวี เนตรมณี ผู้อำนวยการสถาบันโรคหัวใจ และอายุรแพทย์โรคหัวใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ กล่าวถึงเบื้องหลังความสำเร็จว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทัศนคติและปรัชญาในการทำงานที่ว่า “เราต้องทำให้คนไข้ดีที่สุด ผู้ป่วยคือคนสำคัญอันดับหนึ่ง (The patient is already number one)”

วิสัยทัศน์นี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทีมผู้บริหาร ดร.อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า บำรุงราษฎร์ตระหนักถึงปัญหาโรคหัวใจและมุ่งมั่นที่จะทำให้ผู้ป่วยหายจากภาวะเจ็บป่วยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ สถาบันโรคหัวใจของ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ที่พร้อมดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นเคสที่ยากหรือซับซ้อน

ทั้งนี้ เทคโนโลยีแม้จะมีประสิทธิภาพเพียงใด ก็ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์ในการให้คำแนะนำและรักษาอย่างเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย งานแถลงข่าว Bumrungrad Heart Institute: Healing Every Beat ในครั้งนี้ จึงเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบำรุงราษฎร์ในการพัฒนาการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐานระดับโลก เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพ

ด้าน แบร์รี่ วอล์ฟแมน Senior Executive Director of Operations กล่าวเสริมว่า บำรุงราษฎร์ภูมิใจในการเป็นผู้นำด้านการดูแลสุขภาพระดับจตุตถภูมิ (Quaternary Care) ซึ่งเป็นการดูแลรักษาทางการแพทย์ระดับสูงสุด โดยมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานการรักษามาตลอดกว่า 45 ปี มีทีมแพทย์ผู้บุกเบิกด้านการดูแลรักษาโรคหัวใจ ซึ่งนำแนวทางปฏิบัติที่ได้มาตรฐานระดับโลกและนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพมาสู่ผู้ป่วยทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยบำรุงราษฎร์ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Newsweek ให้เป็นหนึ่งใน ‘โรงพยาบาลเฉพาะทางที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2569’ สาขาโรคหัวใจ และเป็นโรงพยาบาลในประเทศไทยเพียงแห่งเดียวที่ติดอันดับดังกล่าว นอกจากนี้ บำรุงราษฎร์ยังได้รับการยอมรับในฐานะ ‘โรงพยาบาลอัจฉริยะที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2569’ สะท้อนถึงการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้เพื่อยกระดับการดูแลผู้ป่วย”

นวัตกรรมล้ำสมัย: อาวุธสำคัญในการต่อสู้กับโรคหัวใจ

สถาบันโรคหัวใจบำรุงราษฎร์ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการรักษาที่ทันสมัยที่สุดมาใช้เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ความปลอดภัย และลดระยะเวลาการฟื้นตัวของผู้ป่วย โดยครอบคลุมการรักษาโรคหัวใจที่ซับซ้อนในทุกมิติ

การรักษาโรคลิ้นหัวใจโดยไม่ต้องผ่าตัด (Transcatheter Valve Therapy) เทคโนโลยีการซ่อมหรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดทรวงอก ครอบคลุมทั้ง 4 ลิ้นหัวใจ เช่น TAVR (เปลี่ยนลิ้นหัวใจเอออร์ติก) MitraClip/T-TEER (ซ่อมลิ้นหัวใจไมทรัล) และ TriClip/T-TEER (ซ่อมลิ้นหัวใจไตรคัสปิด)

เทคโนโลยีพยุงชีพในภาวะวิกฤติ

  • ECMO (Extracorporeal Membrane Oxygenation): เครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอด
  • LVAD (Left Ventricular Assist Device): เครื่องช่วยพยุงการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้ายสำหรับผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวรุนแรง
  • Percutaneous Ventricular Assist Device (Impella): เครื่องปั๊มหัวใจขนาดเล็กที่ช่วยพยุงการทำงานของหัวใจระหว่างการทำหัตถการที่มีความเสี่ยงสูง
  • เทคโนโลยีการวินิจฉัยและการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ: EP Lab ที่ทันสมัยพร้อมระบบ Mapping สามมิติ และเทคนิค CardioInsight ซึ่งช่วยระบุตำแหน่งที่ผิดปกติได้อย่างแม่นยำ เพื่อการรักษาด้วยการจี้ไฟฟ้า (Ablation) ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • การปลูกถ่ายหัวใจ (Heart Transplant): บำรุงราษฎร์เป็นหนึ่งในศูนย์ที่ได้รับอนุญาตจากสภากาชาดไทยให้ทำการปลูกถ่ายหัวใจสำหรับผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้าย

ทีมแพทย์ระดับโลก: พลังขับเคลื่อนสู่ความเป็นเลิศ

หนึ่งในบุคคลสำคัญผู้เป็นหัวใจหลักของความสำเร็จนี้คือ ศ.นพ.กุลวี เนตรมณี ผู้อำนวยการสถาบันโรคหัวใจ และอายุรแพทย์โรคหัวใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีในการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา โดยเป็นหนึ่งในแพทย์กลุ่มแรกที่ผสานเทคนิค CardioInsight เข้ากับการจำลองภาพ 3 มิติของหัวใจเพื่อใช้เป็นแนวทางในการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ซับซ้อน นอกจากนี้ยังเป็นผู้คิดค้นเทคนิค CFAE Ablation และมีบทบาทสำคัญในการค้นพบสาเหตุของโรคใหลตาย (Brugada Syndrome)

ผลงานวิจัยของ ศ.นพ.กุลวี ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการชั้นนำระดับนานาชาติกว่า 250 บทความ อาทิ New England Journal of Medicine (NEJM), JAMA, Circulation และยังได้รับการยกย่องให้เป็น World’s Top 2% Most-cited Scientists โดย Stanford University Ranking 2023

ศ.นพ.กุลวี เน้นย้ำว่า หัวใจของการรักษาโรคหัวใจที่บำรุงราษฎร์คือการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เพราะโรคหัวใจมักไม่แสดงอาการจนกว่าจะเข้าสู่ระยะรุนแรง การตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงสามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนและช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ บำรุงราษฎร์จึงได้นำเทคโนโลยีการวินิจฉัยที่ทันสมัยมาใช้ เช่น เครื่อง Photon-Counting CT ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถประเมินการทำงานของหัวใจ รวมถึงตรวจหาความผิดปกติของลิ้นหัวใจ หลอดเลือด และเนื้อเยื่อหัวใจได้อย่างละเอียดและแม่นยำ ส่งผลให้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีการนำ เวชศาสตร์จีโนมิกส์ (Genomics) มาใช้ค้นหาความเสี่ยงทางพันธุกรรม ไปจนถึงการรับมือเคสซับซ้อน และการวางแผนการรักษาในอนาคตด้วยเทคโนโลยี ยีนบำบัด (Gene Therapy) และ หัวใจเทียม (Artificial Heart)

“ความสำเร็จของสถาบันฯ เกิดจากทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมี Mindset ของการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง จนเกิดการค้นพบที่สำคัญระดับโลก เช่น การค้นพบสาเหตุของโรคไหลตาย (Brugada Syndrome) และกลายเป็นศูนย์ที่บุคลากรทางการแพทย์จากทั่วโลกเดินทางมาเรียนรู้ดูงาน”

ท้ายที่สุด โมเดลความสำเร็จของสถาบันโรคหัวใจบำรุงราษฎร์ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีและบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในอนาคตดังที่ ศ.นพ.กุลวี ได้กล่าวถึง ยังคงอยู่ที่ข้อจำกัดด้านกฎระเบียบภายในประเทศ ซึ่งอาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อความรวดเร็วในการนำนวัตกรรมระดับโลกเข้ามาพัฒนายกระดับวงการสาธารณสุขของไทยต่อไป

ดูแลครบวงจร: จากการป้องกันสู่การรักษาขั้นสูงสุด

สถาบันโรคหัวใจบำรุงราษฎร์มอบการดูแลที่ครอบคลุมตลอดช่วงชีวิตของผู้ป่วย ตั้งแต่การป้องกันไปจนถึงการรักษาโรคในระยะสุดท้าย ได้แก่

  • การป้องกันและค้นหาความเสี่ยง (Prevention & Early Detection): ร่วมมือกับ VitalLife Scientific Wellness Centerและนำ เวชศาสตร์จีโนมิกส์ (Genomics) มาใช้ในการตรวจหาความเสี่ยงทางพันธุกรรมของโรคหัวใจ ซึ่งไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ป่วย แต่ยังรวมถึงครอบครัวด้วย นอกจากนี้ยังมีทีมที่ปรึกษาทางพันธุศาสตร์ (Genetic Counselor) ที่พร้อมให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
  • การรับมือเคสซับซ้อน: ทีมแพทย์มีความพร้อมและยินดีต้อนรับเคสที่ยากและมีความซับซ้อนสูง เพราะมองว่าเป็น ความท้าทายที่จะช่วยยกระดับความสามารถของทีมให้เก่งขึ้นไปอีกขั้น จนปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์ที่รับส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลอื่น ๆ
  • อนาคตของการรักษา: สถาบันฯ กำลังมองไปข้างหน้าสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคต เช่น การรักษาด้วยยีนบำบัด (Gene Therapy) และหัวใจเทียม (Artificial Heart) รวมถึงการนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพยากรณ์และวางแผนการรักษาให้แม่นยำยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากการตอกย้ำความสำเร็จในปัจจุบันแล้ว ทิศทางในอนาคตของสถาบันโรคหัวใจบำรุงราษฎร์ยังมุ่งไปสู่การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) และยีนบำบัด (Gene Therapy) มาปรับใช้ ซึ่งถือเป็นก้าวต่อไปที่สำคัญในการรับมือกับความท้าทายของวงการแพทย์ และจะเป็นตัวชี้วัดถึงความสามารถในการรักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการรักษาโรคหัวใจต่อไป

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เปิดวิสัยทัศน์ บำรุงราษฎร์-กสิกรไทย ใช้นวัตกรรมสร้างอนาคตประเทศไทย

รพ.พญาไท พหลโยธิน เดิมพันครั้งใหญ่: ปั้น ‘Hub สุขภาพ’ ด้วยโมเดลที่เข้าถึงได้

×

Share

ผู้เขียน