ก่อนจะสร้างโซลูชันที่ใช่ การเข้าใจปัญหาให้ลึกซึ้งคือหัวใจสำคัญ ดาริกา ภคภาสน์วิวัฒน์ หัวหน้าทีมสร้างสรรค์ Kept by ษrungsri ได้เปิดเผยมุมมองและอินไซต์ที่น่าสนใจจากฐานผู้ใช้งานกว่า 750,000 คน ซึ่ง 86% เป็นกลุ่ม Gen Y และ Gen Z พบข้อมูลที่น่าสนใจ คือ
ความกังวลที่มากกว่าแค่เรื่องเงิน 69% ของ Gen Z มีความกังวลเรื่องค่าครองชีพสูง ทำให้พวกเขาจริงจังกับการวางแผนการเงินระยะยาวมากกว่าที่หลายคนคิด โดยเฉพาะหลังวิกฤติโควิด-19 ที่ตอกย้ำความสำคัญของเงินสำรองฉุกเฉิน
เป้าหมายที่ชัดเจน คนรุ่นใหม่ไม่ได้ออมเงินอย่างไร้จุดหมาย 70% เริ่มเก็บเงินและลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยมีเป้าหมายหลักคือ เพื่อยามฉุกเฉิน (67.6%), เพื่อการท่องเที่ยว (52.1%) และ เพื่อซื้อของขวัญให้ตัวเอง (50.0%)
ความภูมิใจเล็ก ๆ คือแรงผลักดันมหาศาล คนรุ่นใหม่ชอบนำยอดดอกเบี้ย ไม่ว่าจะหลักสิบหรือหลักร้อย ไปแชร์ในโซเชียลมีเดีย เพราะมันไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่มันคือ “หลักฐานของความสำเร็จ” ที่จับต้องได้
ช่องว่างของเครื่องมือ แม้ Gen Z จะมีความรู้ทางการเงิน แต่มีเพียง 2% ที่ใช้บัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวินัยชั้นเยี่ยม เหตุผลคือ ภาพลักษณ์ที่น่าเบื่อ เข้าถึงยาก และความเชื่อผิด ๆ ว่าต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการเริ่มต้น
“เราพบว่า แม้ Gen Z จะมีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่ยังมีอุปสรรคที่ทำให้ไปไม่ถึงฝัน โดยเฉพาะมุมมองต่อเงินฝากประจำที่มองว่ายุ่งยากและต้องมีวินัยขั้นสูง เราจึงต้องการช่วยให้คนรุ่นใหม่มีวินัยทางการเงินได้ง่ายขึ้นและยั่งยืน” คุณดาริกา กล่าว
Happy Tax Free: ปฏิวัติการออมด้วยจิตวิทยาและ Gamification
Kept by Krungsri นำอินไซต์เหล่านี้มาตีโจทย์ใหม่ทั้งหมด ภายใต้ความเชื่อที่ว่า “ปรับนิดเดียว ชีวิตก็เปลี่ยนได้” และสร้างสรรค์ Happy Tax Free บัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี 24 เดือน (ดอกเบี้ย 2.0% ต่อปี) ที่นำหลักจิตวิทยาการสร้างนิสัย The Habit Loop มาประยุกต์ใช้ในทุกขั้นตอน ได้แก่
- ตัวกระตุ้น (Make it Obvious) สร้างแรงดึงดูดตั้งแต่แรกเห็น โดยวางฟีเจอร์กระปุกใหม่ไว้หน้าแรกของแอปพลิเคชันอย่างโดดเด่น ชวนให้อยากรู้และทดลองใช้
- แรงขับให้อยาก (Make it Attractive) แทนที่จะบอกแค่ตัวเลขดอกเบี้ย Kept แสดงให้เห็นภาพความสำเร็จปลายทางทันที ผู้ใช้สามารถคำนวณยอดเงินทั้งหมดที่จะได้รับ และตั้งชื่อเป้าหมายของตัวเองได้ เพื่อสร้างความผูกพันทางอารมณ์
- การลงมือทำ (Make it Easy) ทลายกำแพงการเริ่มต้นให้ต่ำที่สุด ฝากขั้นต่ำเพียง 500 บาทต่อเดือน เปิดบัญชีผ่านแอปฯ ได้ในไม่กี่นาที พร้อมระบบแจ้งเตือนและฝากอัตโนมัติ ทำให้การออมเป็นเรื่องง่าย ไม่ยุ่งยาก
- รางวัล (Make it Satisfying) นี่คือหัวใจที่เปลี่ยนเกมโดยสิ้นเชิง Kept มอบรางวัลที่สร้างความสุขและความภูมิใจได้ทันที คือ เห็นดอกเบี้ยทุกวัน ไม่ต้องรอ 2 ปี ผู้ใช้สามารถเห็นยอดดอกเบี้ยค่อยๆ งอกเงยขึ้นในแอปฯ ทุกวัน เป็นรางวัลเล็กๆ ที่สร้างกำลังใจได้อย่างมหาศาล น้องไข่ปริศนา เพิ่มความสนุกแบบ Gamification ด้วยการมอบไข่ให้ผู้ใช้ฟูมฟัก ซึ่งจะเติบโตและฟักเป็นตัวละครลับ สร้างความตื่นเต้นและอยากติดตามผล และ แชร์ความสำเร็จได้ มีฟังก์ชันให้แชร์ความคืบหน้าลงโซเชียลมีเดีย ตอบโจทย์อินไซต์ที่คนรุ่นใหม่ชอบแบ่งปันความสำเร็จของตนเอง
“ประสบการณ์ของหลานชายวัย 15 ปี ทำให้เห็นภาพชัด เขาตื่นเต้นมากที่เห็นเงินแต๊ะเอียของตัวเองมีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุกวัน ต่างจากเดิมที่ฝากเงินผ่านผู้ปกครองแล้วไม่เคยเห็นความเคลื่อนไหวเลย” ดาริกา กล่าว
เป้าหมายที่ใหญ่กว่าตัวเลข: สร้าง ‘เทรนด์ออมเงิน‘ ให้สังคม
ปัจจุบัน Kept by Krungsri มีฐานเงินฝากเกือบ 8 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้าเพิ่มผู้ใช้งานใหม่ปีละ 40% แต่คุณดาริกาย้ำว่า เป้าหมายของ Happy Tax Free ไม่ใช่แค่การเพิ่มผลิตภัณฑ์ แต่คือภารกิจที่ใหญ่กว่านั้น
“เราตั้งเป้าว่าเงินเก็บก้อนแรก ไม่ว่าจะเป็นหลักหมื่นหรือหลักแสนของคนรุ่นใหม่ ควรจะมาจากการออมผ่านกระปุกนี้”
Kept ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้ “วินัยทางการเงิน” กลายเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ ทำให้การพูดคุยเรื่องการออมเงินเป็นเรื่องปกติและน่าภาคภูมิใจในสังคมคนรุ่นใหม่ เหมือนกับที่ภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่พยายามสื่อสารว่า การมีวินัยทางการเงินไม่จำเป็นต้องกดดัน หากมีเครื่องมือที่ง่ายและสนุก
ท้ายที่สุดแล้ว ความสำเร็จของ Happy Tax Free ไม่ได้วัดกันที่ยอดเงินฝาก แต่วัดจากการที่มันสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการออมของคนรุ่นใหม่ได้จริงหรือไม่ การนำหลักจิตวิทยาและ Gamification มาใช้ถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจในการทลายกำแพงด่านแรก แต่โจทย์ที่ท้าทายกว่าคือ การเปลี่ยนความสนุกในช่วงเริ่มต้นให้กลายเป็น “วินัยที่ยั่งยืน” ในระยะยาว ซึ่งนี่คือบททดสอบสำคัญที่จะตัดสินว่า Kept เป็นเพียงเครื่องมือสร้างสีสันชั่วคราว หรือเป็นผู้เปลี่ยนเกมด้านวินัยทางการเงินของคนไทยอย่างแท้จริง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
‘ศรีหทัย พราหมณี’ ชี้ การใช้ AI ให้เวิร์กจริง ต้องเริ่มที่ ‘คน’ ไม่ใช่ ‘เทคโนโลยี’
จาก PDPA สู่ AI Governance วิกฤติ Data Chaos กับดักองค์กรไทยในยุค AI




