YouTube Works Awards ส่อง 4 เทรนด์สำคัญที่ขับเคลื่อนโลกคอนเทนต์ไทย เมื่อ “ความยาว” ไม่ใช่คำตอบ แต่ “ความสนใจ” คือทุกสิ่ง
ในวาระที่ YouTube เฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี พร้อมกับการจัดงานประกาศรางวัลสุดยอดครีเอทีฟไทย “YouTube Works Awards” แพลตฟอร์มวิดีโออันดับหนึ่งได้ตอกย้ำภาพการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของภูมิทัศน์สื่อดิจิทัลไทย Sapna Chadha รองประธาน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ Google เอเชียแปซิฟิก ได้ขึ้นเวทีเผยพเทรนด์ที่กำลังกำหนดทิศทางของนักการตลาดและครีเอเตอร์ ซึ่งสะท้อนว่าสมรภูมิคอนเทนต์ในวันนี้ ไม่ได้วัดกันที่ความสั้น-ยาวอีกต่อไป แต่คือการสร้าง “จักรวาลคอนเทนต์” ที่ตอบโจทย์ความสนใจของผู้คนในทุกมิติ
จากเวทีประกาศรางวัลครั้งนี้ สามารถสรุป 4 ประเด็นสำคัญ ที่กำลังจะกลายเป็นพิมพ์เขียวแห่งความสำเร็จของแบรนด์และครีเอเตอร์ไทยในยุคต่อไป
1. พลิกความเชื่อเรื่อง Attention Span: ยุคแห่ง Multi-Format Storytelling
ความเชื่อที่ว่า “คนยุคนี้มีสมาธิสั้นลง” และสนใจแต่คอนเทนต์สั้น ๆ อาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมดอีกต่อไป Sapna ได้นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจว่า แม้ยอดวิวของ YouTube Shorts จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจาก 70,000 ล้านวิวต่อวันในปีที่แล้ว สู่ 200,000 ล้านวิวต่อวันในปีนี้ ในขณะเดียวกัน วิดีโอขนาดยาว (Long-form) ที่มีความยาวมากกว่า 1 ชั่วโมง ก็มีอัตราการรับชมที่เติบโตขึ้นเช่นกัน
“มันไม่ใช่เรื่องของความยาวของวิดีโอ หรือสมาธิที่สั้นลง แต่เป็นเรื่องของระดับความสนใจ (Interest Level)” Sapna กล่าว นี่คือหัวใจสำคัญที่ชี้ว่า หากคอนเทนต์นั้น ๆ ตรงกับความสนใจ ผู้ชมก็พร้อมจะอุทิศเวลาให้ ไม่ว่ามันจะยาวนานแค่ไหนก็ตาม

ปรากฏการณ์นี้เห็นได้ชัดในประเทศไทย ที่คอนเทนต์ประเภทละคร (Drama) บน YouTube มีเวลาการรับชมเติบโตสูงถึง 115% ในปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ละครยาวเป็นตอน ๆ แต่ยังรวมถึงละครสั้นที่เจาะกลุ่มผู้ชมเฉพาะทาง เช่น คอนเทนต์ภาษาอีสานจากช่องดัง ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
2. การขยายตัวของสมรภูมิใหม่: Podcast และ Connected TV
นอกเหนือจากวิดีโอรูปแบบดั้งเดิม YouTube ยังได้กลายเป็นแพลตฟอร์มหลักของสองสมรภูมิที่กำลังเติบโตอย่างร้อนแรง
Podcast รูปแบบคอนเทนต์ที่เปลี่ยนจาก “เสียงประกอบฉากหลัง” มาเป็น “คอนเทนต์หลัก” ที่ผู้คนตั้งใจฟังอย่างลึกซึ้ง ในประเทศไทย เวลาการรับชม Podcast บน YouTube เติบโตขึ้นถึง 50% ในปีเดียว ครีเอเตอร์หน้าใหม่ ๆ อย่างช่อง “Zerosick” ที่นำเสนอข้อมูลสุขภาพ ก็สามารถสร้างผู้ติดตามได้ถึง 150,000 คนภายในปีแรก พิสูจน์ให้เห็นถึงความต้องการคอนเทนต์เชิงลึกที่หาไม่ได้จากที่อื่น
Connected TV พฤติกรรมการรับชมของผู้คนกำลังย้ายจากจอเล็กสู่จอใหญ่ในห้องนั่งเล่น เวลาการรับชม YouTube ผ่าน Connected TV ในไทย เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในรอบ 3 ปี ครีเอเตอร์ไทยอย่างช่อง รายการ “โต๊ะฮา” (Toh Haa) ได้ยกระดับการผลิตไปสู่ระดับภาพยนตร์ (Cinematic Content) ที่ความคมชัดระดับ 4K ซึ่งวิดีโอตัวอย่างของช่องมียอดชมกว่า 1 ใน 3 มาจากการรับชมผ่านจอทีวีโดยเฉพาะ
เทรนด์นี้บ่งบอกว่า แบรนด์ต้องคิดถึงประสบการณ์การรับชมที่หลากหลาย ตั้งแต่การดูระหว่างเดินทางบนมือถือ ไปจนถึงการเสพคอนเทนต์คุณภาพสูงพร้อมหน้ากันในครอบครัว
3. กลยุทธ์แบบ Full Funnel และพลังของ Creator Partnership
แคมเปญที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ไม่ได้มอง YouTube เป็นเพียงช่องทางสร้างการรับรู้ (Awareness) อีกต่อไป แต่ใช้เป็นเครื่องมือการตลาดแบบครบวงจร (Full Funnel) ตั้งแต่การสร้างแรงบันดาลใจ การให้ข้อมูล ไปจนถึงการปิดการขาย นอกจากนี้ พัฒนาการของความร่วมมือระหว่างแบรนด์และครีเอเตอร์ก็มีความซับซ้อนและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่การ Tie-in สินค้า แต่เป็นการสร้างสรรค์เรื่องราวที่ผสานกันเป็นเนื้อเดียวอย่างแนบเนียนและจริงใจ
4. เทรนด์แห่งอนาคต: AI ขุมพลังใหม่ที่ “ปลดล็อก” ความคิดสร้างสรรค์
ประเด็นที่น่าจับตามองที่สุดคือบทบาทของ AI ที่กำลังจะเข้ามาปฏิวัติวงการโฆษณา Sapna ได้แสดงวิดีโอ 2 ตัวเปรียบเทียบกัน ตัวหนึ่งเป็นโฆษณาที่ผลิตด้วยกระบวนการแบบดั้งเดิม และอีกตัวถูกสร้างขึ้นทั้งหมดโดย Veo ซึ่งเป็น AI Model สำหรับสร้างวิดีโอที่ล้ำหน้าที่สุดของ Google ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผู้ชมในห้องประชุมส่วนใหญ่แทบแยกไม่ออกว่าวิดีโอไหนคือผลงานของ AI
นี่คือสัญญาณว่า AI กำลังจะกลายเป็นเครื่องมือทรงพลังที่จะ “Supercharge” หรือเพิ่มขีดความสามารถให้กับความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ Google เองก็ได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อช่วยนักการตลาด เช่น การเปลี่ยนโฆษณาแนวนอนเป็นแนวตั้ง สำหรับ Shorts ในไม่กี่วินาที, รูปแบบโฆษณา Masthead บน Connected TV ที่ให้ประสบการณ์เต็มจอแบบโรงภาพยนตร์ และ Shoppable Connected TV ที่ผู้ชมสามารถเลือกซื้อสินค้าได้โดยตรงจากรีโมตทีวี
อย่างไรก็ตาม Sapna ย้ำว่า ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์จะยังคงเป็นประกายไฟที่สำคัญที่สุด (The Spark) ที่จะชี้นำเทคโนโลยีอันทรงพลังนี้
บทสรุปจากเวที YouTube Works Awards ในปีนี้จึงชัดเจนว่า การเดินทางของ YouTube ได้ก้าวข้ามจากการเป็นเพียงเว็บไซต์วิดีโอสู่การเป็นระบบนิเวศของคอนเทนต์ที่ซับซ้อนและหลากหลาย ชัยชนะของแบรนด์และครีเอเตอร์ในวันนี้และวันข้างหน้า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการไล่ตามเทรนด์ใดเทรนด์หนึ่ง แต่คือความสามารถในการผสมผสานพลังของแต่ละฟอร์แมตเข้าด้วยกันอย่างมีกลยุทธ์ โดยมี “ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์” เป็นศูนย์กลาง และใช้เทคโนโลยี AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพอย่างไร้ขีดจำกัด
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Bitkub x 12 สมาคมดิจิทัล เปิดตัว Digital Night 2025 มหกรรมอัพสกิลแห่งอนาคต
ปลุกอนาคตครีเอเตอร์ iCreator Conference 2025 เปิดไลน์อัพแรกสุดปัง




