Share on
×

Share

บ้านปู ควบรวม BPP ตั้ง ‘NewCo’ ชูกลยุทธ์ ‘Energy Symphonics’ รับพลังงานยุค AI

บ้านปู ควบรวม BPP ตั้ง ‘NewCo’ ชูกลยุทธ์ ‘Energy Symphonics’ รับพลังงานยุค AI

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเปิดเผยเฟสใหม่ของกลยุทธ์ “Energy Symphonics” ซึ่งมุ่งเน้นการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจขนานใหญ่ เพื่อเป้าหมายในการปลดล็อกมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ และการเตรียมความพร้อมเพื่อคว้าโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ ที่เกิดจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI)

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ สะท้อนถึงการตอบสนองเชิงรุกของบ้านปูต่อภูมิทัศน์พลังงานโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักสองประการ คือ ความต้องการพลังงานเพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และทิศทางการมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

สินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นมากกว่าการปรับโครงสร้างทางการเงิน แต่คือการจัดกระบวนทัพใหม่เพื่อรองรับแนวโน้มอนาคต โดยจะเปิดโอกาสใหม่ ๆ โดยเฉพาะการตอบสนองต่อ “ความต้องการศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI” และความต้องการพลังงานที่มีเสถียรภาพที่เพิ่มสูงขึ้น

บ้านปู ชี้ครึ่งปีหลังทิศทางธุรกิจดีขึ้น Data Center – AI แรงหนุนสำคัญ

หัวใจสำคัญของการปรับโครงสร้างครั้งนี้ ประกอบด้วย 2 กลไกหลัก ที่จะกำหนดทิศทางใหม่ของกลุ่มบ้านปู

กลไกที่ 1: การควบรวม Banpu และ BPP จัดตั้ง ‘บริษัทใหม่’

การดำเนินการสำคัญในตลาดทุนไทย คือการประกาศ ควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU) และ บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BPP) เพื่อจัดตั้ง “บริษัทใหม่” (NewCo) ซึ่งคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2569

การควบรวมนี้มีเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อลดความซับซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้นเดิม และยกระดับ BPP จากสถานะผู้ผลิตไฟฟ้าระดับภูมิภาค ให้กลายเป็น “แพลตฟอร์มหลัก” ในการขับเคลื่อนการเติบโตของกลุ่มบ้านปูทั้งหมด

อิศรา นิโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BPP อธิบายว่า การควบรวมจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน ขยายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนสำหรับโครงการขนาดใหญ่ และช่วยปลดล็อกให้มูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์สะท้อนในกลไกตลาดได้ดียิ่งขึ้น

บ้านปู เพาเวอร์ กำไรไตรมาสแรก 574 ล้านบาท เสริมมูลค่าโรงไฟฟ้าในจีนด้วยพลังงานชีวมวล

รายละเอียดเบื้องต้นของการควบรวม:

อัตราส่วนการแลกหุ้น (Swap Ratio):

  • 1 หุ้นเดิมใน BANPU ต่อ 0.35575 หุ้นใน “บริษัทใหม่”
  • 1 หุ้นเดิมใน BPP ต่อ 0.74615 หุ้นใน “บริษัทใหม่”

กระบวนการ: ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เพื่อดำเนินการให้ความเห็นประกอบการตัดสินใจแล้ว

กลไกที่ 2: ผนึกกำลังในสหรัฐฯ ปั้น ‘BKV’ สู่ยุทธศาสตร์ก๊าซครบวงจร

ในขณะเดียวกัน บ้านปูได้ปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา โดยการ รวมสินทรัพย์โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ (กำลังผลิต 1.5 กิกะวัตต์) เข้าไปอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท BKV Corporation (BKV) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบ้านปูที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE)

ยุทธศาสตร์ดังกล่าว มุ่งปลดล็อกศักยภาพของกลยุทธ์ “ก๊าซธรรมชาติครบวงจร” (U.S. Closed-Loop Gas) ให้เต็มประสิทธิภาพ ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตก๊าซธรรมชาติ, การดักจับคาร์บอน (Carbon Capture) ไปจนถึงการผลิตไฟฟ้า

รายละเอียดธุรกรรม:

  • BPP จะจำหน่ายสิทธิการลงทุน (Membership Interests) ร้อยละ 25 ในกิจการร่วมค้า BKV-BPP Power LLC ให้แก่ BKV
    • มูลค่าธุรกรรม: ประมาณ 230.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 7,512 ล้านบาท)
    • การชำระเงิน: แบ่งเป็นเงินสดร้อยละ 50 และหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BKV ร้อยละ 50
    • สถานะหลังธุรกรรม: BPP จะยังคงถือหุ้นร้อยละ 25 ในกิจการร่วมค้านี้ เพื่อรักษาโอกาสในการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในอนาคต

คุณอิศราให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การจำหน่ายสิทธิการลงทุนบางส่วนนี้ จะช่วยปลดล็อกเงินทุน ซึ่งสามารถนำไปลดภาระหนี้ หรือนำไปลงทุนในโอกาสใหม่ ๆ โดยที่ยังคงรักษาตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ในตลาดสหรัฐฯ ไว้ได้

จัดระเบียบ 4 เสาหลัก ภายใต้กลยุทธ์ ‘Energy Symphonics’

ผลลัพธ์จากการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่นี้ นำไปสู่การจัดระเบียบ 4 กลุ่มธุรกิจหลักภายใต้กลยุทธ์ ‘Energy Symphonics’ ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ได้แก่:

  1. Next-Gen Mining (เหมืองยุคใหม่): มุ่งเน้นการยกระดับการทำเหมืองด้วยเทคโนโลยี AI และการเปลี่ยนผ่านสู่การผลิต “แร่แห่งอนาคต” ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านพลังงาน
  2. U.S. Closed-Loop Gas (ก๊าซธรรมชาติครบวงจรในสหรัฐฯ): มี BKV เป็นหัวใจหลักในการบริหารจัดการสินทรัพย์พลังงานก๊าซทั้งหมดในสหรัฐฯ
  3. Power+ (ไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง): สะท้อนบทบาทใหม่ของ BPP หลังการควบรวม ที่จะเป็นแพลตฟอร์มพลังงานเต็มรูปแบบ ครอบคลุมทั้งพลังงานหมุนเวียน, ระบบกักเก็บพลังงาน (BESS), การซื้อขายพลังงาน (Energy Trading) และโรงไฟฟ้าเดิม
  4. Future Tech (เทคโนโลยีแห่งอนาคต): เป็นเสาหลักที่จะมุ่งเน้นเทคโนโลยีพลังงานที่เชื่อมโยงโดยตรงกับ “ศูนย์ข้อมูล (Data Centers)” และนวัตกรรมด้านพลังงานอื่น ๆ

คุณสินนท์ ย้ำว่า โครงสร้างใหม่นี้จะเอื้อให้เกิดการจัดสรรเงินทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นำไปสู่การสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยกำหนดเป้าหมายสู่ Net Zero และการเติบโต 1.5 เท่า

นอกจากการปรับโครงสร้างแล้ว บ้านปูยังได้กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านขององค์กรไปสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

เป้าหมายภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573):

  • เพิ่ม EBITDA เป็น 1.5 เท่า
  • ลดสัดส่วนรายได้หรือ EBITDA ที่มาจากธุรกิจถ่านหินให้ต่ำกว่าร้อยละ 50
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Scope 1 และ 2) มากกว่าร้อยละ 20

เป้าหมายระยะยาว:

มุ่งมั่นบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593)

การขับเคลื่อนทั้งหมดนี้ ดำเนินการภายใต้พันธสัญญา “Our Way in Energy” หรือ “พลังบ้านปู สู่พลังงานที่ยั่งยืน” สะท้อนให้เห็นว่าการปรับทัพครั้งนี้ คือก้าวสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างรับผิดชอบ และการเตรียมความพร้อมสำหรับโลกพลังงานแห่งอนาคต

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เกินกว่าสมรรถนะ: มิชลินชูยุทธศาสตร์ ‘All Sustainable’ สู่วัสดุยั่งยืน 100% ในปี 2050

SCGP กาง 3 กลยุทธ์: ซื้อกิจการอินโดฯ – ลดพึ่งจีน – ลุย Healthcare

×

Share

ผู้เขียน