Share on
×

Share

Tech Moral Business: พลิกเกมธุรกิจยุค AI ด้วยพลัง ‘ศีลธรรม’

อัลกอริทึมที่หมุนเร็วกว่าความคิดมนุษย์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งก้าวเข้ามาเป็นตัวแปรหลักของเศรษฐกิจโลก ได้ขยับเพดานโจทย์ใหญ่ของภาคธุรกิจให้สูงขึ้น จากเดิมที่เคยไล่ล่าเพียงตัวเลขกำไรและความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี สู่การเผชิญหน้ากับคำถามเชิงปรัชญาที่กระทบความอยู่รอดขององค์กรว่า “เราจะเติบโตไปพร้อมกับความเป็นมนุษย์ที่ยั่งยืนได้อย่างไร”

ในปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Tech Moral Business” โดย ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ได้นำเสนอทิศทางใหม่ของโลกธุรกิจที่เทคโนโลยี (Tech) ต้องหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับคุณธรรม (Moral) นี่ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอดเดียวที่จะสร้างระเบียบโลกใหม่ที่เทคโนโลยีรับใช้มนุษย์อย่างแท้จริง

Tech-Moral Economy: สมการใหม่แห่งความก้าวหน้า

พลวัตของโลกใบใหม่ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเพียงลำพัง (Tech-Based) อีกต่อไป หากแต่กำลังเรียกร้องหา “Tech-Moral Economy” ระบบเศรษฐกิจที่ผสานสองขั้วพลังเข้าด้วยกัน:

  • Tech (เทคโนโลยี): ทำหน้าที่เป็น “คันเร่ง” สร้างความฉลาด (Smart Society) และประสิทธิภาพ
  • Moral (ศีลธรรม): ทำหน้าที่เป็น “พวงมาลัย” กำหนดทิศทางสู่สังคมที่ดีงาม (Good Society)

ความท้าทายคือ หากธุรกิจมุ่งเน้นแต่ความฉลาดโดยขาดเข็มทิศทางศีลธรรม สังคมย่อมเสี่ยงต่อหายนะ แต่หากผสานทั้งสองสิ่งได้ เราจะพบกับ “Principled Progress” หรือความก้าวหน้าอย่างมีหลักการ ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาที่ยั่งยืน

Marketing Trends 2026: จบยุค Segmentation ดัน Profit สู้เศรษฐกิจฝืด

Trust Architecture: สินทรัพย์ที่แพงที่สุดในโลก AI

การตลาดแบบเดิมที่เน้น High Tech และ High Touch ไม่เพียงพอสำหรับโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยข้อมูลลวงและความหวาดระแวง (Paranoia) สิ่งที่ต้องเติมเต็มคือ “High Trust” (ความไว้วางใจขั้นสูง)

ความไว้วางใจไม่ใช่เพียงภาพลักษณ์อันสวยหรู แต่เป็น “Trust Architecture” หรือโครงสร้างความเชื่อมั่นที่ธุรกิจต้องสร้างขึ้นเพื่อเป็นรากฐาน ยิ่งโลกซับซ้อนและปลอมแปลงได้ง่ายเท่าไร (Deepfake) ความซื่อสัตย์ (Integrity) ความโปร่งใส และความถูกต้อง จะกลายเป็นสกุลเงินที่มีค่าสูงสุด แบรนด์ที่ลูกค้า “วางใจ” เท่านั้นที่จะยืนหยัดอยู่ได้ท่ามกลางพายุแห่งการเปลี่ยนแปลง

Data Dignity: เคารพ ‘ความเป็นคน’ ใน ‘ข้อมูล’

จุดเปลี่ยนสำคัญของนักการตลาดคือการมอง “ลูกค้า” และ “ข้อมูล” ในมิติใหม่ การมองลูกค้าเป็นเพียงเหมืองข้อมูล (Data Mining) เพื่อขุดเจาะหาประโยชน์แบบ Transactional คือแนวคิดที่ล้าสมัย

ธุรกิจต้องตระหนักถึง “Data Dignity” (ศักดิ์ศรีของข้อมูล) และ “Personhood” (ความเป็นปัจเจกบุคคล) การใช้เทคโนโลยี Personalization ต้องไม่ล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวจนกลายเป็นการคุกคาม แต่ต้องเป็นการดูแลชีวิตและยกระดับความเป็นอยู่ของมนุษย์ (Total Life System) อย่างแท้จริง

Marketing Mandates: ภารกิจเหนือยอดขาย

บทบาทของนักการตลาดกำลังถูกรื้อระบบ (Re-engineering) จากการตอบสนองความต้องการภายนอก (Outside-In) สู่การเปล่งประกายคุณค่าจากภายใน (Inside-Out) โดยมีพันธกิจใหม่ 3 ประการ:

  1. Moral Guide: ยกระดับจากผู้สร้างมูลค่า (Value Creator) เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณและศีลธรรม
  2. Social Integrator: ทำหน้าที่เชื่อมประสานความแตกต่าง ลดความขัดแย้งในสังคม
  3. Moral Compass: เป็นเข็มทิศชี้วัดความจริง (Truth) ท่ามกลางกระแสข้อมูลที่บิดเบือน

Thailand Imagineering: พื้นที่ยืนของไทยในเวทีโลก

สำหรับประเทศไทย การแข่งขันด้วยเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด แต่การวางตำแหน่งประเทศ (Positioning) ในฐานะ “Tech-Moral Nation” คือโอกาสสำคัญ

ด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรมและความเป็นมนุษย์ที่เข้มแข็ง ไทยสามารถเป็นผู้นำในการนำเสนอโมเดลการพัฒนาที่ใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม เปลี่ยนสนามการค้าให้เป็นการแข่งขันเชิงศีลธรรม (Moral Competition) เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าเทคโนโลยีสามารถอยู่ร่วมกับความดีงามได้อย่างลงตัว

เปลี่ยนคำถามจาก Can สู่ Should

ดร.สุวิทย์ ทิ้งท้ายด้วยประเด็นที่แหลมคมที่สุดสำหรับผู้นำทุกคน เมื่อเทคโนโลยีมอบอำนาจให้เราทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เรามักตั้งคำถามว่า “Can we do it?” (เราทำสิ่งนี้ได้ไหม)

แต่สำหรับโลกที่ศีลธรรมต้องนำหน้าเทคโนโลยี คำถามที่ถูกต้องคือ “Should we do it?” (เราควรทำสิ่งนี้หรือไม่)

เพราะท้ายที่สุด เทคโนโลยีคือเครื่องมือ แต่ ความเป็นมนุษย์ คือเป้าหมายสูงสุด และธุรกิจที่ยั่งยืนคือธุรกิจที่กล้าหาญพอจะเลือกทำในสิ่งที่ “ถูกต้อง” มากกว่าสิ่งที่ “ทำได้”

×

Share

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ผู้เขียน