Real Smart บริษัท AI Data Technology ของไทย เปิดตัว ‘Real Vision’ แพลตฟอร์ม AI สำหรับองค์กร ชูจุดเด่นด้านความปลอดภัยของข้อมูลและความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ AI หลากหลายค่าย พร้อมเผยแผนเตรียมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ LiVE Exchange เพื่อระดมทุนขยายศักยภาพ
บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด (Real Smart) บริษัทเทคโนโลยี AI และข้อมูล (AI Data Technology) สัญชาติไทย ประกาศเปิดตัว “Real Vision” แพลตฟอร์มอัจฉริยะ (AI-driven Intelligence Platform) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะตลาดองค์กรขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ชูจุดแข็งในการเป็นโซลูชันที่ยืดหยุ่น สามารถเชื่อมต่อกับ Generative AI ได้ทุกค่าย และแก้ปัญหาจุดอ่อนด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่ AI ระดับโลกยังเข้าไม่ถึง พร้อมกันนี้ ได้เปิดเผยแผนการเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVE Exchange) เพื่อระดมทุนเสริมความแข็งแกร่งและขยายธุรกิจในอนาคต
ภูกิจ ดิศธรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาด AI ในประเทศไทยมีศักยภาพเติบโตมหาศาล โดยคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านบาทภายในปี 2030 ขณะที่ตลาดซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Software) ในปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 92,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ที่ 18.3% ต่อปี ซึ่ง Real Smart มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าตลาดอยู่ที่ 21.85% ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่ชัดเจน
“เราเห็นการเปลี่ยนแปลงและคลื่นของ AI ที่กำลังเข้ามา จึงได้ทรานส์ฟอร์มบริษัทสู่การเป็น AI Driven Technology อย่างเต็มตัวในปี 2024 และในปี 2025 เราพร้อมเข้าสู่ตลาด AI Transformation เต็มรูปแบบด้วยแพลตฟอร์ม Real Vision” ภูกิจกล่าว
Real Vision: คำตอบที่แตกต่างเจาะช่องว่างที่ AI ยักษ์ใหญ่ไปไม่ถึง
แม้ตลาดจะมี Generative AI ที่ทรงพลังอย่าง ChatGPT หรือ Gemini แต่สำหรับองค์กรขนาดใหญ่แล้ว การนำมาใช้งานยังคงมีข้อจำกัดที่สำคัญ 2 ประการ คือ การเข้าไม่ถึงข้อมูลโซเชียล (Social Data) และ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการนำข้อมูลภายในองค์กร (Internal Data) ไปใช้งานบนแพลตฟอร์มสาธารณะ
ดร.รุ่งโรจน์ โชคงามวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ อธิบายว่า Real Vision ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ “จุดอ่อนของ AI ค่ายใหญ่กลายเป็นจุดแข็งของเรา Real Vision คือ Generative AI ที่เข้าถึง Social Listening Data ได้อย่างสมบูรณ์ และเราออกแบบให้แพลตฟอร์มถูกติดตั้งภายในองค์กรของลูกค้า (On-premise หรือ Private Cloud) ทำให้องค์กรเป็นเจ้าของข้อมูลอย่างแท้จริงและปลอดภัยจากการรั่วไหล”
แพลตฟอร์ม Real Vision ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายเสมือนมีผู้ช่วยอัจฉริยะประจำองค์กร ผ่านฟีเจอร์หลัก ได้แก่
- Smart Alert: การแจ้งเตือนเหตุการณ์สำคัญทางธุรกิจแบบ Real-time ทั้งประเด็นด้านชื่อเสียงและกระแสการตลาด
- Smart Recommendation: สร้างคำแนะนำเชิงกลยุทธ์จากข้อมูลเชิงลึก (Integrated Insight) เพื่อให้ธุรกิจตอบสนองได้ทันท่วงที
- Smart Dashboard: เปลี่ยนข้อมูลซับซ้อนให้เป็นภาพที่เข้าใจง่าย ผ่านแดชบอร์ดที่ออกแบบจากประสบการณ์กว่า 20 ปี
- Smart Report: สรุปรายงานอัตโนมัติด้วย AI และส่งตรงถึงผู้เกี่ยวข้องทันที
ความโดดเด่นของ Real Vision คือความสามารถในการผสานข้อมูล 3 ส่วนหลักเข้าด้วยกัน ได้แก่ ข้อมูลโซเชียลมีเดีย ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญจากการวิเคราะห์ข้อความกว่า 1,000 ล้านข้อความต่อปี ข้อมูลภายในขององค์กรลูกค้า และ ความสามารถทางภาษาของ Generative AI ชั้นนำ
“ที่สำคัญที่สุดคือ Real Vision มีความยืดหยุ่นสูง ลูกค้าไม่จำเป็นต้องผูกมัดกับ AI ค่ายใดค่ายหนึ่ง แต่สามารถเลือกใช้โมเดลที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละงานได้ ซึ่งเป็นการปลดล็อกข้อจำกัดเรื่องการลงทุนที่อาจล้าสมัยในอนาคต” ดร.รุ่งโรจน์ กล่าว
ดร.รุ่งโรจน์กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ Real Smart แตกต่าง ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือการให้บริการแบบครบวงจร (Total Solution) โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการการบริหารจัดการภาวะวิกฤตออนไลน์ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สั่งสมมานานกว่า 8 ปี
ในยุคที่โซเชียลมีเดียขับเคลื่อนประเด็นได้อย่างรวดเร็ว การบริหารจัดการชื่อเสียงองค์กรได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากเดิมที่ทีมประชาสัมพันธ์จะตื่นตัวเมื่อสื่อกระแสหลักนำเสนอข่าว ปัจจุบันประเด็นสามารถก่อตัวขึ้นจาก Engagement เชิงลบเพียงไม่กี่ครั้ง และลุกลามเป็นวิกฤตได้ในเวลาอันสั้น
Real Smart ได้พัฒนาระเบียบวิธี (Methodology) ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะในการวิเคราะห์ตัวเลขและข้อมูลเพื่อประเมินความเสี่ยงและแจ้งเตือนลูกค้าตั้งแต่วินาทีแรกที่ตรวจพบประเด็น ทำให้องค์กรสามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที บริการนี้ตอบโจทย์ธุรกิจที่ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด เช่น สถาบันการเงิน ที่ไม่สามารถทนต่อผลกระทบเชิงลบได้แม้เพียงเล็กน้อย
เติบโตเหนือตลาดจ่อเข้า LiVE Exchange
Real Smart ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 และสั่งสมประสบการณ์ในฐานะบริษัท MarTech ที่ให้บริการลูกค้าระดับ Enterprise ขนาดใหญ่กว่า 100 แบรนด์ในกว่า 30 อุตสาหกรรม การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ LiVE Exchange ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยนายภูกิจให้เหตุผลว่าเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนจะก้าวสู่ตลาด MAI ในวันที่เหมาะสม
“บริษัทเทคส่วนใหญ่เลือกที่จะระดมทุนจากภายนอก ซึ่งอาจมีความเสี่ยงหากธุรกิจโตไม่ทัน แต่เราเลือกเส้นทางที่มั่นคงกว่าผ่านตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีกลไกกำกับดูแลที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน”
เงินทุนที่ได้จากการระดมทุนจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รวมถึงการเสริมสร้างบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดในประเทศ และวางรากฐานสำหรับแผนการขยายธุรกิจสู่ระดับอาเซียนภายใน 3 ปีข้างหน้า
เผชิญความท้าทาย “บุคลากร AI” และร่วมสร้าง Ecosystem
หนึ่งในความท้าทายของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไทย คือการขาดแคลนบุคลากร โดยเฉพาะผู้สร้าง AI ซึ่งแตกต่างจากผู้ใช้ AI ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันทีมเทคโนโลยีของ Real Smart มีบุคลากรราว 40-50 คน ซึ่งมีความสามารถทั้งในการใช้และพัฒนาโมเดล AI ของตนเอง
นอกจากนี้ บริษัทยังมีบทบาทในการสร้างความเข้าใจและผลักดันให้เกิด AI Transformation ในวงกว้าง ผ่านการจัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้บริหารระดับสูง (C-Level) มาแล้วกว่า 25 รุ่น เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้และเคล็ดลับความสำเร็จในการนำ AI และ Data มาใช้ขับเคลื่อนองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
“เราไม่ได้มองแค่การแข่งขันกับผู้ให้บริการ Social Listening รายอื่น แต่วันนี้เรากำลังมองไปที่ตลาด AI Transformation ที่มีคู่แข่งระดับโลก แต่เราเชื่อว่าด้วยความยืดหยุ่น ความปลอดภัย และการเป็น Total Solution ที่มีทั้งเทคโนโลยีและทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา จะทำให้ Real Smart เป็นคำตอบที่คุ้มค่าและแก้ปัญหาได้ตรงจุดที่สุดสำหรับองค์กรไทย” ภูกิจกล่าวทิ้งท้าย
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สวนกระแส AI! ผู้เชี่ยวชาญชี้ทางรอดคือการกลับไป ‘อ่าน-เขียน’ ทุกวัน
SCBX เผยสูตรสร้าง ‘ป้อมปราการธุรกิจ’ ด้วย AI พลิกเกมจาก Hype สู่รายได้จริง




