เบื้องหลังภารกิจกู้ภัยครั้งประวัติศาสตร์อย่าง “ถ้ำหลวง” การรับมือสึนามิ หรือการค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากตึกถล่ม เทคโนโลยีหนึ่งได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะ “ฮีโร่เงียบ” ที่ช่วยวางแผน ประเมินสถานการณ์ และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้อย่างมหาศาล เทคโนโลยีนั้นคือ GIS (Geographic Information System) ศาสตร์ที่หลายคนอาจมองว่าเป็นเพียงเรื่องของแผนที่ แต่ในความเป็นจริง มันคือขุมพลังแห่งข้อมูลที่ซับซ้อนและทรงอิทธิพล ซึ่งกำลังถักทอโลกดิจิทัลเข้ากับโลกทางกายภาพของเราอย่างแยกไม่ออก
และนี่คือเรื่องราวของ แพร–แพร พันธุมวนิช President บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำรุ่นที่สองที่กำลังขับเคลื่อนให้เทคโนโลยี GIS เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และผลักดันให้มันกลายเป็น “ระบบปฏิบัติการ” ชิ้นสำคัญสำหรับทุกองค์กรในประเทศไทย
สู่เส้นทางผู้บริหารในโลกแห่งแผนที่
จากความฝันในวัยเยาว์ที่อยากเป็นแพทย์ เมื่อถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในการเลือกเส้นทางอนาคต แพรได้ตัดสินใจหันเหสู่สายบริหารธุรกิจ ด้วยมุมมองที่ว่าศาสตร์แขนงนี้เป็นพื้นฐานสำคัญที่สามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างกว้างขวาง เธอจึงเลือกศึกษาต่อที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (หลักสูตรนานาชาติ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยไม่เคยคาดคิดว่าจะต้องเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัวอย่างจริงจัง
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นช่วงใกล้สำเร็จการศึกษา เมื่อคุณแม่เอ่ยปากชวนด้วยคำง่าย ๆ ว่า “ทำไมไม่ลองมาทำดูล่ะ” คำถามนั้นจุดประกายให้เธอลองก้าวเข้ามาในโลกของ Esri และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่น่าทึ่ง เธอเริ่มงานในตำแหน่ง Technical Pre-sale ทำหน้าที่เป็นฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิค เคียงข้างทีมขายเพื่อคิดค้นโซลูชันให้ลูกค้าว่า “จะนำแผนที่ไปช่วยอะไรในธุรกิจของเขาได้บ้าง”
แต่เพียงหนึ่งปี เธอก็ตระหนักว่าความรู้ด้านบริหารธุรกิจเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ “เริ่มรู้แล้วว่าจริง ๆ GIS มันคู่กับพวกโปรแกรมมิ่งด้วย และต้องอาศัยความรู้ด้านไอทีที่เข้มข้นมาก ๆ ” ความตระหนักรู้นี้เองที่ผลักดันให้เธอตัดสินใจครั้งสำคัญคือการเดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่ Bentley University ประเทศสหรัฐอเมริกา และเลือกเรียนหลักสูตรที่ควบรวมสองศาสตร์หลักเข้าไว้ด้วยกัน คือ บริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ (Business Administration and Information Technology) ซึ่งเป็นการวางรากฐานที่สมบูรณ์แบบสำหรับบทบาทผู้นำองค์กรเทคโนโลยีในอนาคต
พอกลับมา เธอก็ได้ดำดิ่งสู่โลกของ GIS อย่างเต็มตัว จากการเป็นผู้จัดการโครงการให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งทำให้เธอได้เห็นกระบวนการนำเทคโนโลยีไปใช้งานจริง สู่การเป็นหัวหอกบุกเบิกตลาดภาคเอกชน ซึ่งในอดีตยังเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง
“เมื่อก่อนการทำแผนที่มันอยู่ที่ฝั่งของราชการเป็นหลัก เราเลยรู้สึกว่าเอกชนจริง ๆ ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน ก็เลยเหมือนแยกแผนกมาเพื่อโฟกัสตรงนี้โดยเฉพาะเลยค่ะ” เธอเล่าถึงความท้าทายในการทำให้ภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ หรือค้าปลีก เห็นถึงผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ในเทคโนโลยีที่ยังถือว่าเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มในเวลานั้น
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีในธุรกิจประเภท “Solution Provider” ที่มีหัวใจคือการส่งมอบโซลูชันเทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้าโดยตรง ทำให้เธอเชี่ยวชาญด้าน “Commercial Solution” หรือการออกแบบระบบที่สามารถแก้ไขปัญหาทางธุรกิจและส่งมอบคุณค่าเชิงพาณิชย์ที่วัดผลได้จริง เส้นทางการเติบโตจากภายในองค์กร จากตำแหน่ง รองประธานบริหารอาวุโส (Senior Executive Vice President) สู่การเป็น ประธานบริษัท (President) คือเครื่องยืนยันถึงผลงานที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว และเป็นสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรต้องการเร่งรัดกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้วให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ผ่านวิสัยทัศน์ของผู้นำรุ่นใหม่ที่เข้าใจทั้งภาษาของ CTO และ CFO อย่างลึกซึ้ง
GIS คืออะไร? ไม่ใช่แค่แผนที่แต่คือ‘ขนมชั้น’ แห่งข้อมูล
เมื่อถูกถามว่า GIS คืออะไร คุณแพรอธิบายด้วยภาพที่เห็นได้ชัดเจนและเข้าใจง่ายที่สุด “มันคือแผนที่ที่เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเข้าไปได้ มันคือการเอาข้อมูลมาวางซ้อนกันเป็นชั้น ๆ เหมือนขนมชั้น แล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อหาคำตอบที่เราอยากรู้”
ลองจินตนาการถึง “ขนมชั้น” ที่แต่ละชั้นคือชุดข้อมูลที่แตกต่างกัน ชั้นล่างสุดอาจเป็นแผนที่ถนนและแม่น้ำ ชั้นต่อมาคือตำแหน่งสาขา ชั้นถัดไปคือที่อยู่ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซ้อนทับด้วยชั้นของสาขาคู่แข่ง และชั้นบนสุดคือพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมซ้ำซาก เมื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาซ้อนทับกันบนแผนที่ จะเห็นภาพและความสัมพันธ์ในมิติเชิงพื้นที่ (Location) ที่ข้อมูลในตาราง Excel ธรรมดาไม่สามารถบอกได้
“บางทีสาขาที่ขายไม่ดี อาจเป็นเพราะโลเคชั่นก็ได้ อาจเป็นเพราะมีคู่แข่งอยู่ใกล้ ๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่แถวนั้นเลย ซึ่งข้อมูลพวกนี้ถ้าไม่ได้เอามาวางเป็นชั้น ๆ มันจะมองไม่เห็น”
นี่คือหัวใจของ GIS ที่เปลี่ยนข้อมูลมหาศาล (Big Data) ให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึก (Insight) ที่นำไปสู่การตัดสินใจที่แม่นยำขึ้น เช่น ธุรกิจธนาคารที่ใช้ GIS ในการประเมินราคาสินทรัพย์ (Asset Appraisal) โดยสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าที่ดินที่ลูกค้านำมาจำนองนั้นอยู่ในเขตเวนคืนหรือไม่ เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากหรือเปล่า
หรือแม้แต่ธุรกิจค้าปลีกอย่างบิ๊กซี ที่นำ GIS และ AI มาวิเคราะห์ข้อมูลการสั่งซื้อย้อนหลัง เพื่อจัดโซนการจัดส่งเดลิเวอรี่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แทนที่จะตีวงเป็นรัศมีรอบสาขาแบบเดิม ๆ ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพถนนจริง
แพรเล่าวว่า ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือความร่วมมือกับ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ในการพัฒนาโมเดล “Retail Delivery Hub” โดยใช้ซอฟต์แวร์ ArcGIS วิเคราะห์ข้อมูลคำสั่งซื้อเพื่อออกแบบพื้นที่ให้บริการเดลิเวอรี่ใหม่ทั้งหมด ผลลัพธ์คือ บิ๊กซีสามารถลดต้นทุนค่าขนส่งได้มากกว่า 12 ล้านบาทต่อปี และส่งผลให้ยอดขายออนไลน์เติบโตต่อเนื่องกว่า 25% ต่อปี ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำศักยภาพของเทคโนโลยี แต่ยังทำให้บิ๊กซีได้รับรางวัล AIBP ASEAN Enterprise Innovation Award เป็นการยอมรับในระดับภูมิภาค
วิวัฒนาการของ GIS: จาก 2 มิติสู่ Digital Twin และพลังของ AI
GIS ไม่เคยหยุดนิ่ง มันวิวัฒนาการไปพร้อมกับเทรนด์เทคโนโลยีของโลกเสมอ จากแผนที่ 2 มิติในยุคแรก ปัจจุบันได้ก้าวสู่โลก 3 มิติ ที่สามารถสร้าง Digital Twin หรือแบบจำลองเสมือนจริงของเมืองทั้งเมืองขึ้นมาได้ ช่วยให้เห็นภาพตึก อาคาร และสภาพแวดล้อมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถนำไปใช้วิเคราะห์การวางผังเมือง หรือแม้กระทั่งคำนวณปริมาณแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบบนหลังคาเพื่อประเมินศักยภาพการผลิตพลังงานโซลาร์เซลล์
และเมื่อเทรนด์ AI เข้ามา ก็ยิ่งทวีความเร็วและพลังให้กับ GIS มากขึ้น “เมื่อก่อนการทำแผนที่ต้องใช้คนมาจุดทีละจุด แต่เดี๋ยวนี้ไม่จำเป็นแล้วค่ะ เราใช้โมเดลของ AI มาประมวลผลจากภาพถ่ายดาวเทียมหรือภาพจากโดรน แล้วสกัด (Extract) ออกมาเป็นข้อมูลแผนที่ได้เลยว่าตรงไหนคือตึก ตรงไหนคือถนน”
การบูรณาการของ AI ทำให้การสร้างและอัปเดตแผนที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและเรียลไทม์มากขึ้น ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริหารที่ต้องการข้อมูลล่าสุดเพื่อการตัดสินใจที่ทันท่วงที “พอข้อมูลได้เร็ว ก็เอาไปใช้งานได้เร็ว พอคนเห็นว่าใช้แล้วได้ผล ก็อยากจะใช้มากขึ้น” คุณแพรกล่าว
วิสัยทัศน์ GeoAI: เมื่อ GIS ผสานพลัง AI พลิกโฉมสู่เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์
วิสัยทัศน์ของแพร คือการ [พลิกโฉม] GIS จากเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล สู่เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนธุรกิจ “โดยมีหัวใจสำคัญคือการผลักดัน “GeoAI” ซึ่งเป็นการผสานรวมระหว่างภูมิสารสนเทศ (Geo) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ (Predictive Analytics) ให้องค์กรสามารถคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตได้แม่นยำยิ่งขึ้น
วิสัยทัศน์นี้ตั้งอยู่บนความเข้าใจในพลวัตของตลาดโลก ที่คาดการณ์ว่าตลาด GIS ทั่วโลกจะเติบโตจากประมาณ 8.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 เป็น 24.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2573 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนคือ ปริมาณข้อมูลเชิงพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างมหาศาล ซึ่งสร้างความต้องการให้องค์กรต้องหาวิธีใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ให้ได้สูงสุด
สำหรับภาครัฐ Esri Thailand มุ่งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ Smart Governance Transformation ผ่านโซลูชันสำคัญ เช่น “GIS for Disaster Management” ที่ช่วยบริหารจัดการภัยพิบัติครบวงจร ตั้งแต่น้ำท่วม ภัยแล้ง จนถึงฝุ่น PM2.5 และ “GIS: Empowers the Modern Grid” ที่ใช้ GeoAI สร้างแบบจำลอง 3 มิติของโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพื่อวางแผนซ่อมบำรุงเชิงรุก ป้องกันเหตุไฟฟ้าขัดข้องได้อย่างทันท่วงที
เบื้องหลังภารกิจระดับชาติ: เมื่อ GIS คือ ‘ฮีโร่’ ผู้กอบกู้สถานการณ์
ความประทับใจสูงสุด ที่แพรมีต่อเทคโนโลยีที่เธอคลุกคลีมาทั้งชีวิต คือบทบาทของมันในสถานการณ์ภัยพิบัติ (Disaster Management) ซึ่ง Esri ประเทศไทย ได้เข้าไปมีส่วนร่วมช่วยเหลือมาตลอด 3 ทศวรรษ
สึนามิ: ใช้ GIS ในการแบ่งพื้นที่และวางแผนการค้นหาผู้สูญหายอย่างเป็นระบบ
มหาอุทกภัย ปี 2554: เป็นเครื่องมือสำคัญในศูนย์ปฏิบัติการ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมแบบเรียลไทม์ และวางแผนป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจ
ภารกิจกู้ภัยถ้ำหลวง: ทีมงานได้ใช้ GIS สร้างแบบจำลอง 3 มิติของถ้ำหลวงขึ้นมา เพื่อให้นักประดาน้ำเห็นภาพเส้นทาง ความกว้าง-ยาวของแต่ละอุโมงค์ และจุดที่เป็นโพรงกว้างหรือช่องแคบ นอกจากนี้ ยังใช้ในการวิเคราะห์ภูมิประเทศเพื่อหา “จุดผันน้ำ” ที่ฝนตกลงมาแล้วจะไหลซึมลงไปในถ้ำ เพื่อจัดการเบี่ยงเส้นทางน้ำไม่ให้เข้าไปซ้ำเติมสถานการณ์
เหตุการณ์ตึกถล่ม: ทีมกู้ภัยจากอิสราเอลได้ใช้เครื่องมือ GIS ในการสร้างแผนที่ของซากตึกที่ถล่มลงมา เพื่อระบุตำแหน่งของโถงลิฟต์ ทางหนีไฟ และประเมินว่าผู้ที่ติดค้างน่าจะอยู่บริเวณใด ก่อนจะแบ่งพื้นที่การค้นหาอย่างมีประสิทธิภาพ
จำลองสถานการณ์น้ำท่วม: ร่วมมือกับ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติ สร้างแบบจำลอง Flood Simulation เพื่อคาดการณ์พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งเคยพิสูจน์ความแม่นยำมาแล้วในเหตุการณ์น้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่
“ถ้าถามว่าเรื่องไหนที่ประทับใจ มันคือเรื่อง Disaster Management ทั้งหมด เพราะมันคือการได้เอาเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์กับคนหมู่มากจริง ๆ และเราไปช่วยโดยไม่ได้หวังผลอะไร แต่อยากให้โลกดีขึ้น”
จากภาครัฐสู่เอกชน: เป้าหมายใหญ่คือทำให้ GIS เป็นเรื่องของทุกคน
Esri เติบโตมาพร้อมกับการให้บริการภาครัฐ ซึ่งปัจจุบันกว่า 80% ของหน่วยงานราชการไทยใช้ซอฟต์แวร์ของบริษัท แต่เป้าหมายของแพรในฐานะผู้นำรุ่นใหม่คือการขยายภาพให้กว้างขึ้น จากธุรกิจเฉพาะกลุ่มสู่การเป็นเครื่องมือที่ทุกคนเข้าถึง
เป้าหมายสูงสุด (Ultimate Goal) ของเธอเรียบง่ายแต่ทรงพลัง คือ “อยากจะให้เหมือนกับว่า ถ้าเราถามใครว่ารู้จัก GIS ไหม แล้วทุกคนรู้จัก ไม่อยากจะมาอธิบายแล้วว่า GIS คืออะไร อยากให้มันเป็นซอฟต์แวร์หลักที่ทุกคนต้องใช้งาน เหมือน Microsoft Office”
ความท้าทายนี้ต้องอาศัยการสร้างความเข้าใจในทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ปฏิบัติงานไปจนถึงผู้บริหาร และต้องทำให้เห็นว่า GIS ไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับ “นัก GIS” ที่จบมาโดยตรง แต่เป็นแพลตฟอร์มกลางที่เชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดขององค์กร และ “สร้าง Make Difference” เพื่อความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างแท้จริง
Success by Proxy: เมื่อความสำเร็จของลูกค้าคือบทพิสูจน์ที่ดีที่สุด
บทพิสูจน์สำหรับวิสัยทัศน์ของแพร คือการที่ลูกค้าของ Esri Thailand ได้รับรางวัล Special Achievement in GIS (SAG) Award ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติยศระดับโลกจาก Esri Inc. อย่างต่อเนื่อง องค์กรระดับชาติอย่าง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมธนารักษ์ ต่างเคยได้รับรางวัลนี้ ซึ่งเป็นการรับรองจากเวทีระดับโลก
ความสำเร็จของลูกค้าเหล่านี้คือการ “Success by Proxy” ที่สะท้อนว่า Esri Thailand ไม่ได้เป็นเพียงผู้ขายซอฟต์แวร์ แต่เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ร่วมสร้างคุณค่าจนเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก และเป็นเครื่องยืนยันว่าเป้าหมายสูงสุดของเธอ “อยากจะให้เหมือนกับว่า ถ้าเราถามใครว่ารู้จัก GIS ไหม แล้วทุกคนรู้จัก” กำลังเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นทุกขณะ
การเดินทางของแพร พันธุมวนิช และ Esri ประเทศไทย คือภาพสะท้อนของวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่ผสานเข้ากับวิสัยทัศน์ของผู้นำรุ่นใหม่ จากธุรกิจเฉพาะกลุ่มกำลังจะกลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ และจากแผนที่ที่เคยเป็นเพียงภาพนิ่ง กำลังจะกลายเป็นสมองกลอัจฉริยะที่ช่วยขับเคลื่อนอนาคตของประเทศไทยในทุกมิติ
บทสัมภาษณ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ZUPPORTS สตาร์ตอัพจากรั้ว SCG กับภารกิจพลิกโลกโลจิสติกส์
จากวิสัยทัศน์ สู่การสร้างชาติด้วย AI: เจาะลึกเส้นทาง ‘บอทน้อย’ และ ดร.วินน์ วรวุฒิคุณชัย




