Share on
×

Share

OMODA & JAECOO ทุ่ม 5 พันล้านปักหมุดโรงงาน EV ในไทยฉลองครบรอบ 1 ปี

OMODA & JAECOO ทุ่ม 5 พันล้านปักหมุดโรงงาน EV ในไทยฉลองครบรอบ 1 ปี

เพียงหนึ่งปีหลังจากการเปิดตัวในประเทศไทย Omoda & Jaecoo (โอโมดา แอนด์ เจคู) ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญด้วยยอดส่งมอบและรอส่งมอบกว่า 10,000 คัน พร้อมประกาศแผนการลงทุนครั้งใหญ่ด้วยเม็ดเงินกว่า 5,000 ล้านบาท จัดตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 2568 ตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นจะเติบโตเคียงข้างตลาดเมืองไทย “จากแรกพบ…สู่ตลอดไป” (From First to Forever)

บิล จาง ผู้อำนวยการบริหารแบรนด์ OMODA & JAECOO ประเทศไทย กล่าวถึงความสำเร็จและความมุ่งมั่นในครั้งนี้ว่า “ประเทศไทยถือเป็นตลาดหลักที่มีความสำคัญของกลุ่มเชอรี่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในรอบปีแรกนี้ยืนยันว่าเราเดินมาถูกทิศทาง โดยเฉพาะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ผสานทั้งนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัย การออกแบบที่โดดเด่น และประสิทธิภาพการใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างลงตัว”

ก้าวต่อไปที่ยิ่งใหญ่: โรงงานมูลค่า 5 พันล้านสู่การเป็น Hub of NEV

ไฮไลต์สำคัญที่สุดคือการประกาศแผนการลงทุนจัดตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยมูลค่าการลงทุนที่วางแผนไว้ทั้งสิ้นราว 5,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคอย่างยั่งยืน

โรงงานแห่งนี้จะถูกวางตำแหน่งให้เป็น ศูนย์กลางของยานยนต์พลังงานใหม่ (Hub of NEV – New Energy Vehicle) โดยจะเริ่มต้นสายการผลิตด้วย JAECOO 6 EV และมีแผนจะผลิต OMODA C5 EV รวมถึง JAECOO 5 EV ภายในปี 2568 เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ภายในปี 2570 ยังมีแผนต่อยอดการลงทุนด้วยการจัดตั้ง ศูนย์ฝึกอบรม (Training Center) และ ศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center) อย่างเต็มรูปแบบ

สร้างความเชื่อมั่นครบวงจร: ขยายเครือข่ายพร้อมชูบริการหลังการขาย ‘OJ O-Jai’

นอกจากการลงทุนด้านการผลิต บริษัทฯ ได้รายงานความคืบหน้าในการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 60 แห่ง และตั้งเป้าจะขยายให้ครบ 90 แห่งภายในปี 2568 ควบคู่ไปกับการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้งยานยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย

OJ O-Jai

เพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งและสร้างความมั่นใจสูงสุด OMODA & JAECOO ได้ยกระดับมาตรฐานการบริการหลังการขายภายใต้ชื่อ “OJ O-Jai” (โอเจ โอใจ) ให้ครอบคลุมทุกความต้องการ เริ่มจากศูนย์บริการลูกค้า (Call Center) หมายเลข 02-020-8888 ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน พร้อมด้วย บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน (Roadside Assistance) ฟรีในระยะทาง 200 กิโลเมตร (ขยายจากเดิม 100 กิโลเมตร) ซึ่งมีมาตรฐานเข้าถึงที่รวดเร็วภายใน 30 นาทีในเขตกรุงเทพฯ และ 45 นาทีในต่างจังหวัด

นอกจากนี้ ยังมี บริการ Mobile Service ที่พร้อมให้บริการถึงที่สำหรับงานซ่อมบำรุงเบื้องต้น และ บริการรถสำรอง (Courtesy Car) สำหรับกรณีรถมีปัญหาที่เกิดจากระบบ และภายในปีหน้าจะมีการเพิ่ม บริการรับ-ส่งรถ (Pick-Up & Delivery) สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทาง โดยบริการ Mobile Service และ Pick-Up & Delivery สามารถใช้งานได้ 2 ครั้งต่อปี ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทกำหนด

ความสำเร็จระดับโลกสู่การเติบโตในไทย

ในระดับโลก Chery Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ได้ก้าวสู่การเป็นบริษัทระดับ Fortune Global 500 ในอันดับที่ 233 และมียอดส่งออกรถยนต์สะสมมากกว่า 5 ล้านคัน ขณะที่แบรนด์ Omoda เองก็กลายเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก สิ่งนี้สะท้อนถึงรากฐานที่แข็งแกร่งซึ่งส่งต่อมายังความสำเร็จในประเทศไทย ที่สามารถส่งมอบ Jaecoo 7 ได้ถึง 1,200 คันภายในเดือนเดียว

เผยโฉมอนาคต: Omoda C3 เตรียมเปิดตัวครั้งแรกในโลก

ปิดท้ายด้วยการสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดอีกครั้ง กับการเผยทีเซอร์ของ Omoda C3 ซึ่งเตรียมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก (Global First Time Show) ที่งาน Motor Expo ในเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า Omoda & Jaecoo จะยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาดประเทศไทยอย่างไม่หยุดยั้ง

บิล กล่าวทิ้งท้ายว่า “หนึ่งปีที่ผ่านมาเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรา เรามีแผนการลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ควบคู่ไปกับการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่แข็งแกร่งร่วมกับพันธมิตรของเรา เราเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และทีมงานของเรา จะสามารถส่งมอบนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนไทยได้อย่างแท้จริง”

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

คาร์บอนเครดิตป่าชุมชน: โมเดลสร้างรายได้ พลิกชีวิตสู่ความยั่งยืน

Uptober 2025 ทำไมเดือนตุลาคมอาจเป็นช่วงเวลาสำคัญของ Bitcoin

×

Share

ผู้เขียน