บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) (ไทยเบฟ) ยืนยันความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อการเติบโตระยะยาวอย่างยั่งยืน ภายใต้แผนการดำเนินงาน PASSION 2030 แม้เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกและภูมิภาคที่ยังคงมีความท้าทาย โดยหนึ่งในก้าวสำคัญในปีที่ผ่านมาคือการผนวกรวมธุรกิจของ บริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ, ลิมิเต็ด (F&N) ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ไทยเบฟได้เสริมสร้างรากฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง และขับเคลื่อนกลยุทธ์ PASSION 2030 อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการเข้าถึงผู้บริโภค เสริมศักยภาพบุคลากร และสร้างความแข็งแกร่งให้ตราสินค้า เพื่อตอกย้ำความเป็น “ผู้นำที่มั่นคงและยั่งยืนของอาเซียน” ในธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร
2 เสาหลัก PASSION 2030: “เข้าถึงอย่างแข่งขันได้” และ “ดิจิทัลเพื่อการเติบโต”
แผนการดำเนินงาน PASSION 2030 มุ่งเน้นกลยุทธ์หลัก 2 ประการ:
- ‘Reach Competitively’ (การเข้าถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ): ขยายเครือข่ายการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทาง ด้วยบริการที่เป็นเลิศในระดับต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้
- ‘Digital for Growth’ (ดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต): ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการเสริมสมรรถภาพ ประสิทธิผล สร้างข้อมูลเชิงลึก และเชื่อมโยงเครือข่ายคู่ค้าและผู้บริโภค
ในงวด 9 เดือน สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2568 ไทยเบฟมีรายได้จากการขายรวม 258,621 ล้านบาท ซึ่งทรงตัวจากปีก่อน ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ลดลงเพียงร้อยละ 4.0 อยู่ที่ 45,026 ล้านบาท เนื่องจากการลงทุนตามแผนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตราสินค้า
ความโดดเด่นของกลุ่มธุรกิจ
ธุรกิจสุรา: พรีเมียมและรางวัลระดับโลก
- ผลประกอบการ: รายได้จากการขาย 92,778 ล้านบาท ใน 9 เดือนแรก ทรงตัวจากปีก่อน โดยมีผลประกอบการในตลาดต่างประเทศ (รวมเมียนมา) ที่แข็งแกร่ง
- นวัตกรรมระดับโลก: เปิดตัว ‘PRAKAAN (ปราการ)’ ซิงเกิลมอลต์วิสกี้พรีเมียมแบรนด์แรกของไทย ซึ่งได้รับรางวัล Category Winner จากเวที World Whiskies Awards 2025 และเปิดตัว ZATO (ซาโต้) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมดื่ม (RTD) ที่ยกระดับสาโทไทยจนได้รับ เหรียญทอง จาก The Spirits Business Competition
- การขยายตัว: ขยายตลาด PRAKAAN สู่สหราชอาณาจักรและทั่วโลก พร้อมทั้งเสริมแกร่งตราสินค้าหลักในไทย (รวงข้าว, หงส์ทอง, แสงโสม) และตลาดเมียนมา (Grand Royal Whisky)
ธุรกิจเบียร์: ประสิทธิภาพหนุนกำไร
- ผลประกอบการ: รายได้จากการขาย 96,497 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน แม้ตลาดเวียดนามชะลอตัว แต่มีปริมาณขายรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 และ EBITDA margin เพิ่มขึ้นจาก 12.5% เป็น 13.0% จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง
- ประเทศไทย: ช้างคลาสสิก รักษาความเป็นเบียร์อันดับ 1 ของไทย โดยใช้กลยุทธ์ผ่านแพลตฟอร์มดนตรีและกีฬา ขณะที่ ช้างโคลด์บรูว์ เจาะตลาดแมสพรีเมียม
- เวียดนาม: Bia Saigon ยังคงเป็นผู้นำตลาด แม้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายควบคุม โดย SABECO มุ่งเน้นนวัตกรรม (เช่น 333 Pilsner) และการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Sabibeco เพื่อขยายกำลังการผลิตและเสริมความแข็งแกร่งด้านการผลิตกระป๋อง
ธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (NAB): สุขภาพและความยั่งยืน
- กลยุทธ์: เน้นการเสริมแกร่งตราสินค้าหลัก เช่น โออิชิ กรีนที (ชูคุณประโยชน์ L-Theanine) และ คริสตัล (ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมด้วย ฝาขวดแบบติดอยู่กับขวด และแคมเปญ “คริสตัล เซฟพื้นที่สีฟ้า”)
- นวัตกรรม: เปิดตัว NutriWell (นิวทริเวล) นมถั่วเหลืองพรีเมียมในกลุ่ม ‘ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice)’ จากการผนึกกำลังกับ F&N
ธุรกิจอาหาร: ขยายสาขาและเสริมแกร่งพื้นฐาน
- กลยุทธ์: มุ่งเน้น 4 ประการ: การขยายสาขาใหม่ ในพื้นที่ยุทธศาสตร์, ขับเคลื่อนการเติบโตของยอดขายที่แท้จริง (เช่น การปรับโฉมแบรนด์ชาบูชิ), เสริมแกร่งพื้นฐานทางธุรกิจ ด้วยการพัฒนาบุคลากรและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน, และ การพัฒนาด้านความยั่งยืน
ความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน: Net Zero 2593
ไทยเบฟเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ (Scope 1, 2 และ 3) ภายในปี 2593 โดยมีความคืบหน้าสำคัญ:
- พลังงานสะอาด: ใช้พลังงานหมุนเวียน 42.6% ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด ติดตั้งแผงโซลาร์ใน 41 โรงงาน (รวม 61.86 MWp) และสร้างโรงงานก๊าซชีวภาพแห่งที่ 8
- บรรจุภัณฑ์: นำขวดแก้วที่เก็บมาได้กลับมาใช้และรีไซเคิลได้ถึง 97% เปิดตัวเอสโคล่าที่ผลิตจาก rPET ร้อยละ 100 และประสบความสำเร็จในการเก็บคืนบรรจุภัณฑ์จาก 9 เกาะ
- การบริหารน้ำ: ขยายโครงการ “น้ำดื่มสะอาด” สู่โรงเรียน และร่วมมือกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ติดตั้งสถานีโทรมาตรอัตโนมัติ 72 สถานีในพื้นที่ป่าต้นน้ำภาคเหนือ
- รางวัลและความเป็นเลิศ: ได้รับการรับรองเป้าหมาย Net-Zero จาก SBTi และเป็นสมาชิก DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8
ไทยเบฟยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรภายใต้กลยุทธ์ Holistic People Development โดยบรรลุเป้าหมายความผูกพันของพนักงานที่ร้อยละ 86 ในปี 2567 เพื่อเสริมสร้างทักษะใหม่ ๆ ที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อน PASSION 2030
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Meta ชู AI พลิกเกมธุรกิจ เปิดเคสจริง พาแบรนด์เติบโต
Scent Marketing กับกลยุทธ์การตลาดผ่าน ‘กลิ่น’




