ในยุคดิจิทัลที่ “เสียง” ของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ทรงอิทธิพลมากขึ้นทุกขณะ คำพูดไม่กี่คำสามารถสร้างแรงบันดาลใจและนำไปสู่การตัดสินใจทางการเงินที่สำคัญ แต่ในทางกลับกันก็อาจสร้างความเข้าใจผิดและความเสี่ยงได้อย่างมหาศาล ด้วยเหตุนี้ 3 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของไทย อันได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จึงได้จับมือกันริเริ่มโครงการ “Responsible Voice” เพื่อสร้างมาตรฐานและจรรยาบรรณให้กับเหล่า Financial Influencer (Finfluencer) มุ่งยกระดับความรู้ทางการเงินและสร้างเกราะป้องกันให้ผู้บริโภคในโลกการลงทุนที่ซับซ้อน
พลังของ Finfluencer: ดาบสองคมในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล
เวทีเสวนาในหัวข้อ “Responsible Voices: คอนเทนต์ที่จะสร้างสรรค์สังคมทางการเงินที่ปลอดภัย” ในงาน Thailand Influencer Awards 2025 by Tellscore ภายใต้ธีม
“Creators of Change” ครีเอเตอร์เปลี่ยนโลกพารอด ได้คลี่ให้ภาพความสำคัญและอิทธิพลของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไว้อย่างน่าสนใจ เมื่อขนาดเศรษฐกิจอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Economy) ของไทยมีมูลค่าสูงถึง 4,000-5,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 25-30% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของ GDP ประเทศเสียอีก ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่า “เสียง” ของอินฟลูเอนเซอร์มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อเศรษฐกิจและสังคม
อย่างไรก็ตาม พลังอันมหาศาลนี้มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง จากผลสำรวจในปี 2567 พบว่า 71% ของคำแนะนำทางการเงินจากอินฟลูเอนเซอร์อาจสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนให้แก่ผู้ลงทุนได้
จิตติกานต์ วงษ์กำภู ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการกล่าวว่า “เราปฏิเสธไม่ได้ว่าอิทธิพลของ Influencer และ Content Creator มีบทบาทสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการเงินการลงทุน ซึ่งส่งผลต่อชีวิตของประชาชนโดยตรง หากข้อมูลถูกส่งต่ออย่างมีความรับผิดชอบ ก็จะเกิดประโยชน์มหาศาล แต่หากผิดพลาดก็จะสร้างผลกระทบเชิงลบได้เช่นกัน เราจึงต้องมาร่วมมือกันเป็นพันธมิตร เพื่อสร้างประโยชน์ในระยะยาว”
ถอดบทเรียนจาก Finfluencer ตัวท็อป: “เล่าให้มันแต่ห้ามข้ามเส้น”
หนึ่งในเสียงที่น่าสนใจที่สุดบนเวทีคือ ทราย-โศธิดา โชติวิจิตร เจ้าของช่อง Sai_MoneyMonster หนึ่งในผู้ชนะรางวัล Best Real-World Finance Influencer Award จากเวที Thailand Influencer Awards 2025 ซึ่งได้เข้าร่วมโครงการ Responsible Voice รุ่นที่ 2 แล้ว คุณทรายได้แชร์หลักการทำงานที่ทำให้คอนเทนต์ของเธอทั้งสนุก แม่นยำ และที่สำคัญคือ “ปลอดภัย”
หลักการสำคัญของคุณทรายมี 3 ข้อ คือ 1. ไม่รับงานที่ไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล เธอปฏิเสธงานจากผลิตภัณฑ์หรือแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับการรับรองจาก ธปท. ก.ล.ต. หรือ คปภ. ทุกกรณี 2. ไม่แนะนำการลงทุนโดยตรง เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตแนะนำการลงทุน เธอจะไม่มีวันบอกว่า “ราคาจะขึ้นหรือลง” แต่จะเน้นให้ข้อมูลรอบด้านเพื่อให้ผู้ติดตามตัดสินใจด้วยตนเอง และ 3. สร้าง Influence ให้คนอยากศึกษาต่อ เป้าหมายคือการเล่าเรื่องที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายและน่าติดตาม เพื่อกระตุ้นให้คนไปหาความรู้เพิ่มเติม
คุณทรายยกตัวอย่างการเล่าเรื่อง Sam Bankman-Fried อดีตราชาคริปโทที่ทำให้เหรียญ FTT กลับมาพุ่งสูงชั่วคราว โดยเธอจะย่อยข้อมูลประวัติศาสตร์ ข้อควรระวัง และความเสี่ยงทั้งหมด เพื่อให้ผู้ฟัง “เอ๊ะ” และฉุกคิดได้เองก่อนจะตัดสินใจลงทุน
“เราต้องใส่ความเป็นมนุษย์เข้าไป ปรับอารมณ์เขาให้ได้ เมื่อเราเข้าไปอยู่ในใจเขาแล้ว เขาจะเปิดรับข้อมูลเชิงลึกที่เราต้องการจะสื่อสาร” คุณทราย กล่าว
เส้นแบ่งความรับผิดชอบ: ข้อมูลข้อเท็จจริงและข้อควรระวังจาก 3 หน่วยงาน
แต่ละหน่วยงานกำกับดูแลได้ให้มุมมองและข้อควรระวังสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไว้อย่างชัดเจน
ดวงพร รอดเพ็งสังคหะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สื่อสารและความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เน้นย้ำว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง” ดังนั้นข้อมูลที่อินฟลูเอนเซอร์ให้ต้อง ครบถ้วน ทันสมัย และมาจากแหล่งข้อมูลทางการ ที่สำคัญคือต้องชี้แจงความเสี่ยงและข้อจำกัดให้ชัดเจน พร้อมฝากให้ช่วยกันสื่อสารเรื่อง “ภัยหลอกลงทุนออนไลน์” ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นอันดับหนึ่ง
เจษฎา วรรณเขจร ผู้อำนวยการกลุ่มงานสื่อสารองค์กร คปภ. ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ “ประกันภัย” อินฟลูเอนเซอร์สามารถรับค่าจ้างเพื่อโฆษณากรมธรรม์ได้ แต่จะไม่สามารถรับเงินที่ผันแปรตามยอดขาย (ค่าคอมมิชชั่น) ได้ หากไม่มีใบอนุญาตเป็นตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัย นอกจากนี้ยังได้ยกตัวอย่าง “ประกัน พ.ร.บ.” ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่คนส่วนใหญ่มองข้าม แต่มีความคุ้มครองสูง ทั้งค่ารักษาพยาบาล 80,000 บาท และกรณีเสียชีวิต 500,000 บาท ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
คุณจิตติกานต์ จาก ก.ล.ต. เตือนว่าอินฟลูเอนเซอร์บางท่านอาจไม่ทราบว่าการให้ข้อมูลบางรูปแบบอาจ “ข้ามเส้น” ไปสู่การเป็นผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุนที่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. เสียก่อน ซึ่งโครงการ Responsible Voice จะเข้ามาให้ความรู้ในจุดนี้ เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้อย่างอิสระและไม่สุ่มเสี่ยง
สู่สังคมการเงินที่ยั่งยืนด้วย “3T”
การผลักดันให้เกิด “เสียงที่รับผิดชอบ” จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมไทยในวงกว้าง ช่วยลดการกระจายข่าวลือ ข่าวปลอม และสร้างสังคมที่มีคุณภาพซึ่งประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและมีความสุขทางการเงิน
หลักการ 3T คือ Truth (ความจริง): สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นข้อเท็จจริง Thoughtful (รอบคอบ): คิดวิเคราะห์ถึงผลดีผลเสียของสารที่จะสื่อออกไป และ Transparent (โปร่งใส): เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่าสิ่งไหนคือโฆษณา สิ่งไหนคือความคิดเห็นส่วนตัว
ท้ายที่สุดแล้ว การสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีให้กับคนไทยไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกภาคส่วน โดยมีเหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์เป็น “กระบอกเสียง” สำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความมั่งคั่งและปลอดภัยอย่างยั่งยืน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
TIA 2025 ‘สุวิตา Tellscore’ ชี้ทางรอดครีเอเตอร์มนุษย์วัดพลัง AI ด้วย ‘ความไว้ใจ’




