จากร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ในบ้านไม้สีขาวที่เกือบไปไม่รอด สู่การเป็นอาณาจักรอาหารและเบเกอรี่สไตล์ Grab & Go ที่มีกว่า 140 สาขา และสร้างรายได้ 600 ล้านบาทต่อปี เส้นทางของ White Story คือบทพิสูจน์อันทรงพลังของคำว่า ‘การปรับตัว (Adaptation)’ ที่ขับเคลื่อนด้วยการฟังเสียงของลูกค้าและอ่านเทรนด์ของตลาดอย่างอย่างทะลุปรุโปร่ง
บนเวที Scale Fast วาศิณี สุรชาติชัยฤทธิ์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้เปิดเผยเบื้องหลังความสำเร็จที่ไม่ใช่แค่เรื่องของสูตรขนมปัง แต่เป็นสูตรลับทางธุรกิจที่เธอสรุปไว้ในคำว่า “S.T.O.R.Y.”
เมื่อ Passion ต้องหลีกทางให้ Reality
White Story ถือกำเนิดขึ้นจากความฝันอันสวยงามของคุณวาศิณี ที่ต้องการสร้างสรรค์ร้านอาหารเพื่อสุขภาพในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ ทว่าในโลกของความเป็นจริง โมเดลร้านคาเฟ่ที่เน้นเพียงกาแฟและเค้ก กลับไม่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงธุรกิจให้อยู่รอด แบรนด์จึงเดินทางมาถึงทางแยกสำคัญที่ต้องเลือกระหว่างการยึดมั่นในความฝันเดิม หรือการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด
คุณวาศิณีเลือกอย่างหลัง โดยตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ถ้าเราทำตามความฝันแต่ไม่มีรายได้เกิดขึ้น เราจะแก้ปัญหานี้ยังไง” คำตอบคือการละสายตาจากสิ่งที่ ‘อยากจะขาย’ แล้วหันไปมองสิ่งที่ ‘ลูกค้าต้องการ’ อย่างแท้จริง
เธอเริ่มสังเกตพฤติกรรมของผู้คนในย่านนั้น และค้นพบว่าสิ่งที่พวกเขาค้นหาคืออาหารจานเดียวที่เรียบง่ายสำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็น การปรับตัวครั้งประวัติศาสตร์นี้ ไม่เพียงแต่ช่วยพยุงให้ธุรกิจรอดพ้นจากวิกฤต แต่ยังได้สลัก DNA ของ ‘การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง’ (Customer-Centric) ลงบนจิตวิญญาณของ White Story อย่างถาวรนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จับคลื่น “Grab and Go” และสมการแจ้งเกิด
อีกครั้งที่วิกฤติได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อมหาอุทกภัยบังคับให้ White Story ต้องอำลาบ้านไม้หลังเดิมและก้าวเข้าสู่สมรภูมิใหม่ใน ‘คอมมูนิตี้มอลล์’ ที่นั่นเองที่คุณวาศิณีได้สัมผัสกับชีพจรของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างเต็มตัว และมองเห็นคลื่นการเปลี่ยนแปลงลูกใหญ่อย่างเทรนด์ “Grab and Go” และ “Lazy Economy” ซึ่งผู้คนโหยหาความสะดวกสบายและรวดเร็วในชีวิตประจำวัน
สมการความสำเร็จบทใหม่ของ White Story จึงถือกำเนิดขึ้นจากตรงนี้ คือการนำเทรนด์ที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจ (กระแสความนิยมญี่ปุ่น) มาผสมผสานกับดีมานด์ หรือความต้องการที่หยั่งรากลึก (วัฒนธรรมการทานขนมปัง) แทนที่จะนำเสนอ “ไดฟุกุ” ในรูปแบบดั้งเดิม เธอได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ลูกผสมที่แปลกใหม่แต่กลับคุ้นเคยอย่าง “ขนมปังไดฟุกุ” ขึ้นมา ซึ่งการผสมผสานอย่างลงตัวนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ จนลูกค้าพากันตั้งฉายาให้ว่า “ขนมปังแป้งในแป้ง” และกลายเป็นสินค้าไวรัลที่สร้างชื่อเสียงให้แบรนด์ไปทั่วประเทศ
พิมพ์เขียวความสำเร็จในอักษร “S.T.O.R.Y.”
เบื้องหลังความสำเร็จที่ดูเหมือนเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ คือพิมพ์เขียวทางความคิดที่ชัดเจน ซึ่งคุณวาศิณีได้กลั่นกรองออกมาเป็นปรัชญา 5 ข้อ ที่ซ่อนอยู่ในชื่อแบรนด์อย่าง ’S.T.O.R.Y.’
จุดเริ่มต้นของนวัตกรรมผลิตภัณฑ์มาจาก S – Synergy คือการนำวัฒนธรรมที่แตกต่างมาผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งต้องทำงานควบคู่ไปกับ T – Trend หรือการจับกระแสของตลาดและผู้บริโภคให้อยู่หมัดเสมอ และทั้งหมดนี้จะถูกนำมาสร้างสรรค์ให้เกิดเป็น O – Originality หรือเอกลักษณ์ความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่ไส้ขนมปังลาวาที่ยืดได้ ไปจนถึงสติกเกอร์คำคมน่ารัก ๆ ที่กลายเป็นอีกหนึ่งลายเซ็นของแบรนด์
แต่ผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่จะไร้ความหมายหากขาดซึ่งคุณภาพ ที่นี่คือจุดที่ R – Repeat และ Y – Yummy เข้ามามีความสำคัญ โดยแบรนด์เชื่อว่า Y – Yummy หรือความอร่อยและคุณภาพที่มาจากวัตถุดิบสดใหม่ ไม่ใส่สารกันเสีย คือพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ และคุณภาพที่ยอดเยี่ยมนี้เองที่จะนำไปสู่ R – Repeat หรือการสร้างการซื้อซ้ำอย่างยั่งยืน โดย White Story ยึดมั่นว่า ‘ผลิตภัณฑ์ที่ดีคือระบบ CRM ที่ดีที่สุด’
จากครัวเล็ก ๆ สู่มาตรฐาน 140 สาขา
กุญแจสำคัญที่ทำให้ White Story สามารถขยายอาณาจักรจากหลักสิบสู่ 140 สาขาได้โดยที่คุณภาพไม่เคยตกหล่น คือการตัดสินใจที่มองการณ์ไกลในการสร้าง “ครัวกลาง” ตั้งแต่ตอนที่มีสาขาเพียง 5 แห่ง การลงทุนครั้งนี้เปรียบเสมือนการวางเสาหลักที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ทำให้สามารถควบคุมมาตรฐาน (QA/QC) และรสชาติของสินค้าให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ในทุกสาขา และเป็นฐานที่มั่นคงสำหรับการทะยานสู่เป้าหมาย 800 ล้านบาทต่อไป
ท้ายที่สุดแล้ว เรื่องราวทั้งหมดของ White Story คือบทเรียนที่มีคุณค่าสำหรับผู้ประกอบการ ที่ตอกย้ำว่าความสำเร็จที่ยั่งยืนไม่ได้เกิดจากการยึดมั่นในแผนธุรกิจแรกเริ่ม แต่เกิดจากความกล้าที่จะรับฟัง ปรับเปลี่ยน และพัฒนาอยู่เสมอ โดยมีเสียงของลูกค้าเป็นดั่งเข็มทิศนำทางที่ดีที่สุดในทุกการเดินทาง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
จากแผนที่ ‘ขนมชั้น’ สู่ GeoAI: วิสัยทัศน์ ‘แพร พันธุมวนิช’ พลิกเกมธุรกิจด้วย Location Intelligence
Axons-AWS สร้างแอป ‘Farm One’ เพิ่มคุณภาพเกษตรกรไทยด้วย AgriTech
