ท่ามกลางวิกฤติทรัพยากรโลก กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ได้จับมือกับศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) สวทช. โชว์ผลสำเร็จจากโครงการผลักดัน ‘เศรษฐกิจหมุนเวียน’ (Circular Economy) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ของประเทศ โดยโครงการที่ดำเนินมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 นี้ สามารถปั้น 6 บริษัทต้นแบบที่นำแนวคิด ‘การออกแบบเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน’ ไปปรับใช้ได้จริง ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้กว่า 145 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 5,815 ตัน บทความนี้จะเจาะลึกถึงเบื้องหลังความสำเร็จ ตั้งแต่กระบวนการทำงานที่เข้มข้น การสร้างเครือข่ายธุรกิจ ไปจนถึงทิศทางในอนาคตเพื่อขยายผลสู่ระดับประเทศ
จากแนวคิดสู่รูปธรรม: 6 บริษัทต้นแบบพลิกโฉมอุตสาหกรรม
ความสำเร็จของโครงการในปีที่ 4 นี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนสามารถนำมาใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรมไทย โดยผู้ประกอบการต้นแบบ 6 ราย สามารถลดของเสียในกระบวนการได้มากกว่า 80% และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจรวมกว่า 145 ล้านบาทต่อปี โดยมีตัวอย่างผลสำเร็จที่จัดแสดงเป็นนิทรรศการ ดังนี้
- บริษัท วัลคัว อินดัสตรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด – ลดการสูญเสียวัตถุดิบปฐมภูมิในกระบวนการผลิตปะเก็นยาง ลดของเสียได้กว่า 80%
- บริษัท ยูเนี่ยน เจ. พลัส (ไทยแลนด์) จำกัด – ปรับปรุงกระบวนการล้างฟิล์มพลาสติก ลดเจลขนาดใหญ่ได้มากกว่า 30%
- บริษัท อูเบะ เทคนิคอล เซ็นเตอร์ (เอเชีย) จำกัด – พัฒนาโซลูชัน “UBE-ReSource” ตรวจสอบและจัดการไนลอน 6 รีไซเคิล โดยใช้ Machine Learning
- บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) – พัฒนา “หม้อแปลงวัฏจักรใหม่ เพื่อโลกยั่งยืน” ด้วยแนวคิด Remanufacturing ลดขยะอุตสาหกรรมไฟฟ้า
- บริษัท ไร้ท์รีแอคติเวชั่น จำกัด (มหาชน) – สร้างสรรค์โซลูชัน “Right Waste” ฟื้นฟูถ่านกัมมันต์เพื่อ ลดการใช้ทรัพยากรใหม่ลงกว่า 60% และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 30% ต่อปี
- บริษัท ริโก้ (ประเทศไทย) จำกัด – พัฒนาโซลูชันการคัดแยกชิ้นส่วนเครื่องถ่ายเอกสาร ลดของเสียเหลือไม่ถึง 10%และลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 80% ต่อปี
เบื้องหลังความสำเร็จ: เจาะลึกกระบวนการปั้นธุรกิจสู่โมเดล CE
ดร.วิชชุดา เดาด์ ที่ปรึกษาโครงการ ได้สรุปภาพรวมว่า หัวใจสำคัญคือการทำงานอย่างใกล้ชิดและเป็นระบบ จุดเริ่มต้นของกระบวนการออกแบบเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน คือการที่บริษัทต้องเข้าใจตัวเองก่อน ต้องวิเคราะห์ ‘การไหลของทรัพยากร (Resource Flow)’ ของตนเองให้ได้ เพราะเป้าหมายคือการไม่ทำให้ทรัพยากรสูญหายไปจากระบบ ข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
กระบวนการจึงเริ่มต้นจากการปูพื้นฐานความรู้ แล้วจึงเข้าสู่ เวิร์กชอปเชิงปฏิบัติการ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ตกผลึกความคิด จนได้เป็นแผนการปรับปรุง (Improvement Plan) ที่ชัดเจน โดยมีทีมพี่เลี้ยง ซึ่งเป็นนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญจาก MTEC เข้าไปประกบและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด บทเรียนสำคัญที่ได้คือ เศรษฐกิจหมุนเวียนไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยลำพัง แต่ต้องอาศัยเครือข่ายคุณค่า (Value Network) และการเปลี่ยนมุมมองเชิงเส้น (Linear Mindset) ไปสู่ เลนส์เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Lens) เพื่อมองหาโอกาสใหม่ ๆ
หัวใจคือ ‘การออกแบบ’ (Design): เปลี่ยนอนาคตตั้งแต่ต้นน้ำ
ดร.อดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ย้ำถึงประเด็นสำคัญที่เปรียบเสมือนหัวใจของเศรษฐกิจหมุนเวียนว่า “ทุกอย่างเริ่มต้นจากการออกแบบ”
“ในอดีต เราเคยถอดแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือเพื่อนำไปรีไซเคิลได้ง่าย แต่ปัจจุบันด้วยเหตุผลทางการตลาดทำให้ทำไม่ได้แล้ว นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่า หากเราออกแบบผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการผลิตตั้งแต่แรกให้เอื้อต่อการซ่อมแซม การนำกลับมาใช้ใหม่ และการรีไซเคิล ก็จะสามารถลดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างมหาศาล” อธิบดี กพร. กล่าว
ขยายผลสู่ระดับประเทศและสร้าง Ecosystem ที่ยั่งยืน
แม้โครงการจะประสบความสำเร็จ แต่ ดร.อดิทัต ยอมรับว่านี่ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น “ที่ผ่านมา 5 ปี กพร. ได้ส่งเสริมผู้ประกอบการในภาพรวมปีละ 150-200 ราย แต่เมื่อเทียบกับสถานประกอบการทั้งประเทศที่มีกว่า 60,000 ราย และ SME อีกกว่า 3 ล้านราย ถือว่ายังน้อยมาก เราจึงมีแผนที่จะขยายผลให้ได้มากขึ้นเป็น 500 ถึง 1,000 รายต่อปี”
ด้าน รศ.ดร.เติมศักดิ์ ศรีคิรินทร์ ผู้อำนวยการเอ็มเทค สวทช. กล่าวเสริมว่า โครงการนี้เปรียบเสมือน “การพิสูจน์คอนเซ็ปต์ (Proof-of-Concept)” ที่แสดงให้เห็นว่าแนวทางนี้ใช้ได้ผลจริง และแตกต่างจากที่ผ่านมาซึ่งมักเป็นการรับเทคโนโลยี แต่ครั้งนี้ผู้ประกอบการต้องคิดและแก้ปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งเป็นก้าวที่สำคัญ
สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการในอนาคตนั้น อธิบดี กพร. เน้นย้ำว่า “หลักเกณฑ์ที่สำคัญที่สุดคือ ความตั้งใจจริงของผู้บริหาร และการมีทีมงานที่พร้อมจะขับเคลื่อนอย่างจริงจัง” โดยภาครัฐจะสนับสนุนผ่านกลไกที่หลากหลาย ทั้งการให้คำปรึกษา การวิจัยและพัฒนา และการสร้าง Ecosystem ที่เอื้ออำนวย ซึ่งอาจรวมถึงมาตรการจูงใจและข้อบังคับทางกฎหมายที่เหมาะสมในอนาคต เพื่อส่งต่อโลกที่ดีกว่าให้คนรุ่นหลังอย่างยั่งยืน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
อนุทิน ชาญวีรกูล เปิดแผน ‘รีเซ็ตประเทศไทย’ ฟื้นเศรษฐกิจตั้งเป้าทวงผู้นำภูมิภาค
The Central พหลโยธิน: พลิกโฉมกรุงเทพฯ ตอนเหนือ สู่ New CBD แห่งอนาคต




