เคทีซีตอกย้ำความแข็งแกร่งทางการเงิน ประกาศกำไรสุทธิ 9 เดือนทะลุ 5,707 ล้านบาท เติบโตท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ชูจุดแข็งการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ขั้นสูง กด NPL รวมเหลือเพียง 1.85% พร้อมเดินหน้าทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันได้เปิดไพ่ใบสำคัญ ลุยธุรกิจนายหน้าประกันเต็มตัว หลังได้รับใบอนุญาตจาก คปภ. หวังสร้างแหล่งรายได้ใหม่และต่อยอดฐานลูกค้ากว่า 3.6 ล้านบัญชี
ท่ามกลางความท้าทายจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ที่อาจชะลอตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 และต่อเนื่องถึงปี 2569 เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ยังคงสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่น่าประทับใจ สะท้อนผ่านกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 ที่ 1,951 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1.7%) และกำไรสุทธิงวด 9 เดือนที่ 5,707 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2.8%) ความสำเร็จดังกล่าวไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่เป็นผลลัพธ์โดยตรงจากกลยุทธ์การบริหารจัดการที่เฉียบคมและการควบคุมต้นทุนอย่างมีวินัย
พิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคทีซี กล่าวว่า ภายใต้ความท้าทายและปัจจัยกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในประเทศ เคทีซียังคงสร้างผลการดำเนินงานได้ดี จากการบริหารคุณภาพสินทรัพย์และการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล
หัวใจสำคัญที่ทำให้เคทีซีเติบโตสวนกระแส คือ การบริหารคุณภาพสินทรัพย์อย่างเข้มข้น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืน ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 เคทีซีสามารถควบคุมอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL) ให้อยู่ในระดับต่ำเพียง 1.85% โดย NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.15% และ NPL สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 2.40% ตัวเลขเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยง แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทลดลงถึง 4.0% ในไตรมาสล่าสุด
–เคทีซี ครึ่งปีแรกกำไร 3,755 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาดโตทุกผลิตภัณฑ์
เคทีซียังสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในทุกผลิตภัณฑ์หลักได้สำเร็จในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นส่วนแบ่งตลาดลูกหนี้บัตรเครดิตที่เพิ่มเป็น 14.5% ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มเป็น 13.4% และลูกหนี้สินเชื่อบุคคลที่ขยับขึ้นเป็น 4.2% ตอกย้ำความสามารถในการแข่งขันและครองใจผู้บริโภค
เปิดเกมรุกธุรกิจใหม่ ต่อยอดสู่ นายหน้าประกัน
นอกเหนือจากการรักษาความแข็งแกร่งในธุรกิจหลักแล้ว ประเด็นที่น่าจับตามองที่สุดคือการขยายสู่ธุรกิจใหม่ นั่นคือ การประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัย ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยล่าสุดบริษัทได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิตจากสำนักงาน คปภ. เรียบร้อยแล้ว
คุณพิทยากล่าวถึงความคืบหน้านี้ว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมงานในส่วนต่าง ๆ รวมถึงการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทประกัน เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายผ่านช่องทางของเคทีซี โดยจะเน้นการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกให้ตรงจุด
กลยุทธ์นี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ โดยจะเริ่มต้นจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยและสิทธิประโยชน์แก่ฐานสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลของเคทีซีที่มีอยู่กว่า 3.6 ล้านบัญชี เพื่อสร้างรายได้ในรูปแบบค่าธรรมเนียม ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาว โดยเคทีซีจะดำเนินธุรกิจนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไปและรอบคอบ ควบคู่ไปกับการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อหลัก
–ถอดรหัส CRM จาก 3 แบรนด์: เจาะลึกกลยุทธ์ เคทีซี- บาร์บีคิวพลาซ่า – โลตัส
สถานะการเงินสุดแกร่ง-สภาพคล่องล้นเหลือ
ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้เคทีซีสามารถขยายธุรกิจและรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจได้อย่างมั่นคง คือ โครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 กลุ่มบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงมาอยู่ที่ 1.51 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพัน (Debt Covenants) ที่กำหนดไว้ที่ 10 เท่าอย่างมหาศาล สะท้อนถึงความยืดหยุ่นทางการเงินที่สูงในการขยายธุรกิจในอนาคต
ด้านสภาพคล่อง บริษัทมีวงเงินสินเชื่อคงเหลือที่ยังไม่ได้เบิกใช้สูงถึง 25,990 ล้านบาท ขณะที่มีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในไตรมาส 4 เพียง 4,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงสถานะสภาพคล่องที่แข็งแกร่งและความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ในระยะสั้นที่อยู่ในระดับต่ำมาก
แม้เคทีซีจะประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัว แต่ด้วยรากฐานที่มั่นคงจากการบริหารคุณภาพสินทรัพย์อย่างดีเยี่ยม โครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง และการเดินหน้าทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ประกอบกับการเปิดเกมรุกในธุรกิจนายหน้าประกันภัย ทำให้เคทีซียังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตาและพร้อมที่จะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในทุกมิติ
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Robinhood เปิดตัว “Robinhood Coin” พลิกกลยุทธ์ฟู้ดเดลิเวอรี่
‘Engagement Gap’ ช่องว่างทางการตลาดที่ชี้ชะตาแบรนด์ในยุค AI
