ธนาคารกสิกรไทยเผยผลการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 39,287 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ต้องเผชิญกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศที่ชะลอตัว
ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า กำไรสุทธิที่ยังคงเติบโตได้เป็นผลจากการบริหารจัดการอย่างรอบคอบตามยุทธศาสตร์ 3+1 และการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Productivity) อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 13.80% โดยเฉพาะจากค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ รวมถึงรายได้จากการลงทุนในภาวะตลาดที่เอื้ออำนวย
ส่งออกทรุด หนี้ครัวเรือนสูง ฉุดกำลังซื้อ
คุณขัตติยา ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2568 ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนจากแรงกดดันด้านการส่งออกที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ผลจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่อ่อนแรงลง นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และการบริโภคภาคเอกชนชะลอตัวต่อเนื่องจากภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
สำหรับช่วงที่เหลือของปี 2568 และต่อเนื่องไปถึงปี 2569 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยมีปัจจัยท้าทายหลักคือผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อภาคการส่งออก และความเชื่อมั่นการลงทุนที่ซบเซา
ผลประกอบการ 9 เดือน: รายได้อื่นชดเชยดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลง
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ลดลง 6.94% อยู่ที่ 104,239 ล้านบาท เป็นผลจากการลดลงของเงินให้สินเชื่อ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อช่วยเหลือลูกค้า ส่งผลให้ Net Interest Margin (NIM) อยู่ที่ 3.31%
- รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยโต 13.80% อยู่ที่ 42,709 ล้านบาท หลัก ๆ มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ ที่เติบโตจากการตอบโจทย์ลูกค้า และกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงิน
- ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ลดลง 0.22% จากการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost to Income Ratio) อยู่ที่ 42.07%
การบริหารสินเชื่อและเงินกองทุน: ตั้งสำรองอย่างระมัดระวัง
ธนาคารยังคงดำเนินการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างรอบคอบ:
- ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) จำนวน 30,047 ล้านบาท ลดลง 14.17% แต่ยังคงเป็นสำรองที่ตั้งตามหลักความระมัดระวัง เพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจ
- อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Gross) อยู่ที่ 3.19% โดยที่ Coverage Ratio เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 166.43%
- อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Basel III) อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 21.60%
ในไตรมาส 3/2568 เพียงอย่างเดียว ธนาคารมีกำไรสุทธิ 13,007 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.16% จากไตรมาสก่อน โดยเป็นผลจากการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการบริหารกองทุนและรายได้จากการลงทุนต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
‘ดุ๊ก ภาณุเดช’ แนะ 5 ข้อคิดแต่งบ้านเพื่อวัย 40+ อยู่สบายปลอดภัยไร้กังวล
Work Life Festival 2025: เปิดแผนที่รอดคนทำงานยุค AI และความผันผวน
