Share on
×

Share

จากบัญชีออมทรัพย์สู่ลงทุนคริปโทฯ เมื่อ Gen Z มองความผันผวนเป็นโอกาส

จากบัญชีออมทรัพย์สู่ลงทุนคริปโทฯ เมื่อ Gen Z มองความผันผวนเป็นโอกาส

เมื่อมีการสนทนากันเรื่องการเงินที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีมักจะเกิดความชะงักงันในประเด็นคลาสิกที่ว่าด้วยเรื่อง “ความเสี่ยง” สำหรับคนที่เติบโตมากับแบ่งสัดส่วนพอร์ตการลงทุนตามแนวคิด 60/40 พร้อมๆ กับการวางแผนเกษียณ ก็ทำให้แนวคิดการลงทุนใน Bitcoin เป็นเรื่องของความผันผวนและความเสี่ยง แต่อย่างไรก็ตาม การปฏิวัติทางการเงินกำลังดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ ไม่ได้ถูกกำหนดโดยกลุ่มผู้คนจากรุ่นเดิม ๆ แต่เป็นคนรุ่น Gen Z มีแนวคิดป้องกันความเสี่ยงอย่างมีเหตุผลและปฏิเสธระบบการเงินที่พวกเขาไม่เชื่อถือ

ความแตกต่างของสองยุคการเงิน

ข้อมูลจากรายงาน “Gemini 2025 Global State of Crypto Report” ระบุว่า ผู้ใหญ่ Gen Z ที่มีอายุระหว่าง 18-27 ปี มากกว่า 51% เคยเป็นเจ้าของหรือกำลังถือครองสกุลเงินดิจิทัล มากกว่าคนที่มีบัญชีออมเพื่อเกษียณถึง 4 เท่า ตัวเลขนี้ไม่ใช่แค่มาตรฐานใหม่ของการนำไปใช้เท่านั้น แต่ยังสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเงินที่ลึกซึ้ง คนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นเจ้าของคริปโตมากกว่ากองทุนเกษียณอายุแบบดั้งเดิม

ในขณะที่คนรุ่นเก่า (Gen X, Baby Boomers) ยังคงถือคริปโทเคอร์เรนซีเป็นส่วนเล็ก ๆ เน้นการเก็งกำไรในพอร์ตโฟลิโอ แต่กลุ่มคนหนุ่มสาวที่มีความมั่งคั่งกลุ่มเล็ก ๆ รายงานว่าได้จัดสรรประมาณ 15% ของพอร์ตโฟลิโอทั้งหมดไปที่คริปโทฯ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากเพียง 2% ที่พบในหมู่นักลงทุนรุ่นเก่า จุดของความแตกต่างนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความชื่นชอบโทเคนดิจิทัลแต่เป็นเรื่องของการประเมินเสถียรภาพทางการเงินรูปแบบใหม่ในรูปแบบการหาความมั่นคงและป้องกันความเสี่ยงได้

การพบกันของการเงินเก่าและใหม่ สู่ทางรอดและเสถียรภาพ

สำหรับ Gen Z รูปแบบการเกษียณอายุแบบดั้งเดิมที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน สำหรับในสหรัฐมี 401k ในไทยมีกองทุนประกันสังคม กองทุนประกันสังคมและกองทุนการออมแห่งชาติ ที่ผู้คนจำนวนมากพึงพากองทุนเหล่านี้สำหรับช่วงเกษียณ แต่อย่างไรก็ตาม แนวคิดของการพึ่งพากองทุนเหล่านั้นได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นเนื่องจากคนใน Gen Z เติบโตมาโดยได้เห็นวิกฤตการณ์การเมืองภายในประเทศ วิกฤตการเงินในปี 2000 และ 2008 สืบทอดวิกฤตหนี้สินครัวเรือน และเผชิญกับราคาที่อยู่อาศัยที่สูงและไม่สามารถเข้าถึงได้ เหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นความท้าทายอย่างต่อเนื่องของหน่วยงานรัฐบาล

เมื่อสำรวจเพิ่มเติมจากงานวิจัย 2025 Global State of Crypto Report แสดงให้เห็นว่า มี Gen Z ทั่วโลกเพียง 32% เท่านั้นที่เชื่อมั่นในธนาคารแบบดั้งเดิม พวกเขามองว่าระบบการเงินที่จัดตั้งขึ้นนั้นเชื่องช้า และไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับคนทั่วไป ดังนั้นเมื่อพวกเขาหันมาใช้คริปโทฯ มันไม่ใช่เพราะอยากรวยไว แต่เพราะพวกเขา ไม่อยากถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เพราะ DeFi และ Wallet ส่วนตัวมอบทั้งความโปร่งใสและการควบคุมทางการเงินด้วยตนเองที่สูงกว่า

การแสวงหาความเป็นอิสระทางการเงิน

รูปแบบของ Gen Z ได้เปลี่ยนมุมมองคริปโทฯ ให้เป็นกลไกของการอยู่รอด โดยให้ความสำคัญกับความเป็นอิสระทางการเงินเหนือกว่าเสถียรภาพของสถาบัน

  • รายงานของ Gemini เน้นย้ำว่า Gen Z ใช้คริปโทเคอร์เรนซีเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ซึ่งนักลงทุน Bitcoin (และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ) ไม่ใช่ทองคำ เพื่อต่อสู้กับค่าครองชีพที่สูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นค่าอาหารและอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้น
  • นักลงทุนรุ่นใหม่จำนวนมากมองว่าคริปโทเคอร์เรนซีทำให้พวกเขาสามารถ “กำหนดชะตากรรมของการเงินของตนเองได้มากขึ้น” นักลงทุนใหม่ๆมองเรื่องการแยกประเภทสินทรัพย์แบบกระจายอำนาจกับสินทรัพย์แบบดั้งเดิม ซึ่งมองว่าพวกเขาสามารถเป็น actively HODLing (ถือครองระยะยาว) ไม่ใช่แค่เพื่อทำกำไร แต่เพื่อหลีกหนีสิ่งที่ตามมาจากภาวะเงินเฟ้อในเงินเฟียต
  • มี 31% ของ Gen Z เท่านั้นที่เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าคริปโทฯ ควรถูกกำกับโดยรัฐมากขึ้น (เทียบกับ 46% ของประชากรทั่วไป) คนเหล่านี้เชื่อในระบบการกระจายอำนาจมากกว่าการตัดสินใจของหน่วยงานรัฐบาล

การค้นพบว่า “ความผันผวน” กลายเป็นแนวทาง “ป้องกัน”

ข้อสรุปที่สำคัญของ “Gen Z ต่อความเปลี่ยนแปลงด้านการเงินดั้งเดิมและโลกคริปโทเคอร์เรนซี ที่มีข้อถกเถียงที่น่าสนในคือ คนรุ่นเก่ามองว่า Bitcoin มีความผันผวนมีโอกาสที่ผลตอบแทนลดลงได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาหนึ่งปี นี้คือ คำจำกัดความที่ชัดเจนของความเสี่ยงสูง แต่สำหรับ Gen Z การสูญเสียกำลังซื้อของเงินออมอย่างช้า ๆ ที่ต่อเนื่อง ความไม่ยั่งยืนของประกันสังคมที่กำลังจะมาถึง และเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยหนี้สินและเงินเฟ้อ คือความเสี่ยงระยะยาวที่ใหญ่กว่าและประเมินค่าไม่ได้

แก่นสำคัญของทั้งบทความนี้และรายงานจาก Gemini 2025 Global State of Crypto Report มองว่า บัญชีออมทรัพย์แบบดั้งเดิมและสินทรัพย์ “ปลอดภัย” ไม่สามารถตามทันต้นทุนการอยู่รอดในโลกความเป็นจริงได้ สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงซึ่งให้โอกาสในการได้รับผลกำไรมหาศาลที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ จึงกลายเป็น การเดิมพันและเป็นการป้องกันตัวเพื่อความอยู่รอดทางการเงิน

นอกจากนี้คน Gen Z ที่มองว่าคริปโทฯ ไม่ได้เป็นเรื่องเงินแต่เรื่องของ “วัฒนธรรมแห่งการเป็นเจ้าของ” คนรุ่นใหม่สามารถสร้างรายได้จาก TikTok ขายผลงาน NFT และรับเงินเดือนเป็น stablecoin พร้อมแนวคิด เสรีภาพด้านการเงิน สอดคล้องกับวิถีชีวิต แบบ Creator Economy และ Web3 Ownership อย่างลงตัว จึงทำให้คริปโทฯ กลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกดิจิทัลที่พวกเขาสร้างได้เอง

บทสรุป

“สงครามคริปโทฯ ของคนต่างวัย” เป็นเรื่องของความมั่งคั่งและความปลอดภัยของระบบการเงินแบบดั้งเดิมตั้งมั่นอยู่บนคำว่าเสถียรภาพ แต่ Gen Z กำลังใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อทวงคืนความเป็นเจ้าของอนาคตทางการเงินของตน ท้าทายสถาปัตยกรรมของโลกการเงินในศตวรรษที่ 20 โดยตรง

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งนี้ ทำให้ระบบการเงินดั้งเดิมถูกตั้งคำถามที่สำคัญว่า ระบบดั้งเดิมสามารถปรับตัวและพร้อมความกับความเปลี่ยนที่รวดเร็วหรือไม่ พร้อมกับแนวคิดการเงินสมัยใหม่อย่างระบบการเงินแบบกระจายอำนาจอย่าง Bitcoin ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางการเงิน ที่ไม่ได้แค่กำลังพัฒนา แต่โลกการเงินใหม่ ๆ กำลังแตกแขนงกำลังเปลี่ยนแปลงอนาคตของการสะสมความมั่งคั่ง

คำเตือน คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน

Uptober 2025 ทำไมเดือนตุลาคมอาจเป็นช่วงเวลาสำคัญของ Bitcoin

ยุคใหม่ของตลาดคริปโทฯ สถาบันการเงินผงาดขึ้นเป็นผู้เล่นหลัก ท่ามกลางความผันผวน

‘ปฏิกิริยาต่อ Crypto Week’ การผ่านกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งสำคัญของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี

×

Share

ผู้เขียน