แม้เศรษฐกิจไทยในปี 2025 จะเผชิญกับแรงกดดันจากต้นทุนธุรกิจที่สูงขึ้นและกำลังซื้อในประเทศที่ชะลอตัว (GDP growth 1.8%–2.2%) แต่ Pay Solutions ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินครบวงจร ยังคงสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถขับเคลื่อนยอดธุรกรรมรวมตลอดปี 2025 ได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งการรับชำระเงินออนไลน์และออฟไลน์ทุกช่องทาง
ความสำเร็จนี้ตอกย้ำถึงบทบาทของ Pay Solutions ในฐานะ “โครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินของไทย” ที่มีความยืดหยุ่นและพร้อมตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปสู่ยุค Hybrid Payment
แนวโน้มการชำระเงินไทย: ออฟไลน์ยังคงมีมูลค่าสูง
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า การใช้จ่ายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ยังคงขยายตัว โดยตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึง ก.ค. 2025 มูลค่าธุรกรรมผ่านเครื่องรูดบัตร (ออฟไลน์) รวมกว่า 160,700 ล้านบาท ซึ่งยังคงสูงกว่าธุรกรรมออนไลน์อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนว่าผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายในหน้าร้านและการรูดบัตรจริง โดยเฉพาะสินค้า/บริการที่ต้องการประสบการณ์ก่อนซื้อ
ในส่วนของ Pay Solutions พบว่า ธุรกรรมออฟไลน์ในระบบเติบโตสูงถึง +238% YoY หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 760 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลับมาลงทุนในช่องทางหน้าร้านควบคู่กับการขยายตลาดออนไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์การขายแบบครบวงจร
CEO ชี้ทางรอดธุรกิจ: เชื่อมเงินต่างชาติด้วย Payment Infrastructure
ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ CEO Pay Solutions เปิดเผยว่า ในสภาวะที่กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแรง ทางรอดของธุรกิจไทยคือ “การดึงเม็ดเงินจากต่างชาติและการเปิดรับช่องทางการชำระเงินจากทั่วโลก” ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐที่มุ่งผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าข้ามพรมแดน
“Pay Solutions พร้อมเป็นโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่เชื่อมเศรษฐกิจไทยเข้ากับโอกาสระดับสากล เพื่อรองรับทั้งระบบ Hybrid Payment และธุรกรรมจากต่างประเทศ ให้ธุรกิจไทยสามารถแข่งขันและเติบโตได้ในระดับสากล” คุณภาวุธกล่าว
แผนปี 2026: ปั้น “Super EDC” และระบบนิเวศการชำระเงินครบวงจร
เพื่อยกระดับบทบาทสู่การเป็น “Payment Infrastructure” อย่างเต็มรูปแบบ Pay Solutions เตรียมเดินหน้าด้วยกลยุทธ์สำคัญดังนี้:
- เปิดตัว “Super EDC”: เครื่องรูดบัตรอัจฉริยะที่รวมการรับชำระเงินกับระบบจัดการร้านค้า (บริหารยอดขาย สต็อก ลูกค้า ระบบสมาชิก) ไว้ในอุปกรณ์เดียว ตอบโจทย์ธุรกิจในยุค Hybrid Payment
- ขยายเครือข่ายพันธมิตร: ร่วมมือกับธนาคารหลัก ฟินเทค และผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินแบบบูรณาการ ครอบคลุมตั้งแต่ระบบบัญชี, Fulfillment, Logistics, และ e-Commerce Platform
เป้าหมายสูงสุด คือการสร้าง “ระบบนิเวศการชำระเงินแบบบูรณาการ” ที่เชื่อมโยงทุกผู้เล่นในห่วงโซ่ธุรกิจ เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืนทั้งในและต่างประเทศ
“การเติบโตในอนาคตจะเกิดจากความร่วมมือ ไม่ใช่การแข่งขัน แต่เพื่อเอื้อประโยชน์ ต่อยอด และเติบโตไปด้วยกัน” คุณภาวุธ กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คนละครึ่งพลัส ฟู้ดเดลิเวอรี่ ความหวัง SME สะดุดปม ‘นิติบุคคล 1.8 ล้าน
ส่องทิศทาง 3 เหรียญไทย ‘JFIN-KUB-SIX’ มุ่งสู่ RWA และ Green Tokenization
