Share on
×

Share

‘First Jobber’ เริ่มต้นอย่างไร? สร้างภูมิคุ้มกันการเงิน ก่อนติดกับดักหนี้

‘First Jobber’ เริ่มต้นอย่างไร? สร้างภูมิคุ้มกันการเงินก่อนติดกับดักหนี้

ภูมิคุ้มกันที่ FIRST JOBBER ต้องสร้าง ชีวิตการทำงานในวัยเริ่มแรก ต้องไม่เปราะบางเรื่องเงิน

การเริ่มต้นทำงานเป็นก้าวสำคัญที่เต็มไปด้วยทั้งความตื่นเต้นและความท้าทาย สำหรับ First Jobber หรือผู้ที่เพิ่งเข้าสู่โลกการทำงาน นอกจากความสามารถในงานแล้ว ทักษะการปรับตัวก็ถือเป็นสิ่งจำเป็น แต่ในยุคที่ปัจจัยรอบตัวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ผันผวน การเมืองที่ไม่แน่นอน การเลิกจ้างก่อนวัยเกษียณ ไปจนถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่อาจเข้ามาแทนแรงงานมนุษย์ รวมทั้งมนุษย์เงินเดือนจำนวนมากที่แม้มีรายได้แน่นอน ยังต้องเผชิญความท้าทายทางการเงินอย่างต่อเนื่อง

ทหารไทยธนชาติ เปิดเผยข้อมูลจากการทำโปรแกรมตรวจสุขภาพทางการเงินออนไลน์ของมนุษย์เงินเดือน (TTB Financial Health Check) กว่า 96,000 คน ระหว่างเดือนสิงหาคม 2566-กุมภาพันธ์ 2568 พบว่า 82% ของมนุษย์เงินเดือนมีภาระหนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นหนี้ส่วนบุคคลและบัตรเครดิตคิดเป็นสัดส่วนถึง 53% (รองลงมาคือหนี้รถคิดเป็น 17% และหนี้บ้าน 15%)

ที่สำคัญคือ 49% ของมนุษย์เงินเดือนมีหนี้สะสมจากพฤติกรรมจ่ายขั้นต่ำ หรือผิดนัดชำระ และยิ่งไปกว่านั้น 65% ของคนที่จ่ายไหว ยังเป็นการชำระเงินขั้นต่ำ ทำให้เกิดความเสี่ยงสะสมจากดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นและอยู่ในวงจรหนี้ไม่สิ้นสุด

ข้อมูลยังสะท้อนว่า พฤติกรรมทางการเงินของมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ยังขาดภูมิคุ้มกันทางการเงินที่เพียงพอ โดยพบว่า 77% มีเงินออมน้อยกว่า 10% ของรายได้ และ 70% ไม่มีเงินสำรองฉุกเฉินเพียงพอ (มีเงินสำรองฉุกเฉินไว้ใช้น้อยกว่า 6 เดือน) ยิ่งไปกว่านั้น มากถึง 80% ไม่มีความคุ้มครองที่เพียงพอหากเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายไม่คาดฝัน

ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ปานกลางหรือต่ำเท่านั้น เพราะจากข้อมูลพบว่า 32% ของผู้ที่มีรายได้เกิน 100,000 บาทต่อเดือนยังคงใช้ชีวิตเดือนชนเดือน และอีก 16% มีรายจ่ายมากกว่ารายได้ สะท้อนว่าความไม่มั่นคงทางการเงินเกิดขึ้นกับทุกระดับรายได้

ปัญหามาจากอะไร เราพบว่าคนส่วนใหญ่มีหนี้มากกว่ารายได้ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่และเป็นปัญหาที่แก้ยากที่สุด เป็นปัญหาที่ใช้เวลายาวนานมากที่จะหลุดพ้น เพราะในช่วงระยะเวลาอันยาวนานนั้น มนุษย์เรามักจะไม่อดทนพอที่จะผ่านปัญหาไปได้ ในระหว่างทางจะมีอุปสรรคที่จะขวางไม่ให้เราลุล่วง

ถ้าหากไปถามคนรุ่นเก่า ๆ สักหน่อย จะให้ข้อคิดที่สำคัญมาก ๆ เลย ท่านมักจะบอกว่า การเป็นหนี้เป็นอุปสรรคสำคัญที่ฉุดไม่ให้เราก้าวหน้า แม้ว่าบางคนอาจจะแย้งว่าการมีหนี้ทำให้เราขยัน ถ้าหากเป็นหนี้ที่ดี

ซึ่งการเป็นหนี้ที่ดี ก็คือหนี้ที่ทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น หรือเป็นการสร้างทรัพย์สินเช่นบ้านหรือพาหนะ แบบนั้นแม้จะใช้เวลาที่ยาวนาน แต่กำลังใจทำให้เรามีมานะที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้

คนรุ่นใหม่ที่กำลังจะก้าวสู่การทำงาน เป็น First Jobber ควรจะเริ่มต้นด้วยการสะสมทรัพย์สินมากกว่าสร้างหนี้สิน ข้อคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ คงจะช่วยคนที่ก้าวสู่การทำงานได้บ้าง

สูตรสำเร็จการจะวางแผนการเงินส่วนบุคคล

คุณควรเริ่มจาก 1) มีทักษะการทำงานที่ดี มีความรู้ความสามารถในสิ่งที่ทำ เพราะนอกจากจะทำให้ชีวิตการทำงานเป็นสุขแล้ว รายได้ที่ตามมา จะช่วยสร้างความแข็งแรงของชีวิต ซึ่งมันอาจจะไม่ได้ทำงานเพียงชิ้นเดียว อันเดียว อาจจะมีหลายทางมากกว่าหนึ่งช่องทาง แต่หากคุณจะทำ คุณต้องจัดลำดับความสำคัญ อันไหนเป็นงานหลัก อันไหนเป็นงานรอง

หากคุณหาได้ (ซึ่งอาจจะหาได้เยอะ) แต่ไม่รู้จักการจัดแบ่งรายได้ของคุณ 2) คุณจะไม่สามารถสร้างอนาคตของคุณได้ วิธีการจัดแบ่งรายได้ ใช้สูตร 50:30:20 โดยครึ่งหนึ่งของรายได้ อาจจะกำหนดเป็นค่าใช้จ่ายประจำ อีก 30% เป็นค่าความสุขใจของคุณ โดยมี 20% เป็นการออมสำหรับอนาคต ซึ่งคนที่มีความมุ่งมั่น อาจจะสลับกันระหว่างค่าความสุขใจกับการออม เพื่อช่วยให้อนาคตของคุณสดใสและรวดเร็ว

3) การออม เป็นสิ่งที่ตกหล่นไปในการดำรงชีวิตของคนปัจจุบัน เพราะมักจะคิดว่ายังอยู่ในวัยทำงาน การมีรายได้ประจำสม่ำเสมอ คำถามจึงถูกตั้งขึ้นมาว่า “ทำไมต้องออม” แต่หากคุณเชื่อเรื่องความไม่แน่นอน การออมจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรองรับความไม่แน่นอน การออมทำให้เราสร้างเงินสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉินไว้ได้ และหากเงินออมมีจำนวนมากพอ จะทำให้เราทำข้อที่สี่ได้นั่นคือ

4) การลงทุน เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ที่ช่วยให้เรามีสิ่งที่วางเป้าหมายใกล้ความจริง แต่สิ่งที่ต้องเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องการลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่มากมาย หลายวิธี และเต็มไปด้วยการล่อหลอก คุณต้องเข้าใจว่าทำไมต้องอยู่เป็นอันดับสุดท้าย เพราะการลงทุนไม่ว่าจะเป็นวิธีใด คุณต้องใช้ “เงินเย็น” ไม่ใช่เงินยืม และการเรียนรู้ในเรื่องการลงทุน คือสิ่งที่ไม่ให้ถูกหลอก และเสียค่าโง่กับการเรียนรู้แบบซ้ำ ๆ ใช้เวลา 3 ปีแรกของการทำงาน สร้างเงินออม เรียนรู้การลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป เวลาสำหรับการลงทุนมีอีกหลายสิบปี อย่ารีบสร้างหนี้ก่อนเวลาเสียล่ะ

จำไว้ !! มีน้อย..ใช้น้อย มีมาก….ใช้น้อย เหลือเก็บ..ไว้ใช้หนี้ หมดหนี้…ค่อยลงทุน

บทความอ่น ๆ ของผู้เขียน

ความจริงของ Passive Income: ทำไมถึงเป็นเรื่องยากในยุคหนี้ครัวเรือนท่วม

บทเรียนจากคนรุ่นใหญ่ถึงคนรุ่นใหม่: วิกฤติ Early Retire 45 ปี

‘หาได้เพิ่มเท่าไร ใช้เท่าเดิม’ สูตรลับสู่ความมั่งคั่งที่ยั่งยืนของมนุษย์เงินเดือน

×

Share

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ผู้เขียน