บริษัท ยิบอินซอย จำกัด รับบทบาทสำคัญในการประสานความร่วมมือระหว่าง บริษัท Quantum Technology Foundation (Thailand) Co., Ltd. (QTFT) สตาร์ตอัพเชิงลึกด้านควอนตัมของไทย และ สถาบันเทคโนโลยีอุตสาหกรรมขั้นสูงแห่งชาติ (AIST) ประเทศญี่ปุ่น โดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี Quantum Computing ให้ก้าวไปสู่การใช้งานในภาคอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม
การลงนามครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่าง ดร.จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง QTFT และ ศาสตราจารย์ มาซุ คาซูยะ ผู้อำนวยการศูนย์ G-QuAT สถาบัน AIST ประเทศญี่ปุ่น โดยมี ยิบอินซอย ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงระหว่างภาคเทคโนโลยี ภาคการเงิน และภาครัฐ
เป้าหมายหลัก: เสริมพลังเทคโนโลยีควอนตัมในภาคอุตสาหกรรมไทย
กรอบความร่วมมือดังกล่าวจะมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี Hybrid Quantum Computing ซึ่งผสานพลังระหว่างควอนตัมและดิจิทัล เพื่อเพิ่มศักยภาพในการคำนวณเชิงซับซ้อนในภาคอุตสาหกรรม:
- QTFT เป็นสตาร์ตอัพไทยผู้พัฒนา “Quantum Whole Chain Intelligent Network” ซึ่งเป็นระบบประมวลผลอัจฉริยะที่ใช้คณิตศาสตร์และควอนตัมในการจัดการข้อมูลและตัดสินใจระดับองค์กร โดยมีการทดสอบใช้งานจริงในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น พลังงาน โลจิสติกส์ และการผลิต
- AIST ประเทศญี่ปุ่น ผ่านศูนย์ G-QuAT (Global R&D Center for Business by Quantum-AI Technology) เป็นสถาบันวิจัยชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีควอนตัม ที่มีฐานวิจัยครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบชิปไปจนถึงแพลตฟอร์มซูเปอร์คอมพิวเตอร์สำหรับธุรกิจ
ความร่วมมือนี้ ครอบคลุมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมในสาขาที่มีศักยภาพทางอุตสาหกรรม การแลกเปลี่ยนนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญระหว่างไทยและญี่ปุ่น และการจัดเวทีวิชาการเพื่อขยายองค์ความรู้สู่ภาคธุรกิจ
บทบาทของยิบอินซอย: ขับเคลื่อน “เศรษฐกิจควอนตัม”
สุภัค ลายเลิศ กรรมการอำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ยิบอินซอย จำกัด กล่าวว่า ยิบอินซอยมีบทบาทสำคัญในการขยายความร่วมมือนี้จากระดับงานวิจัยไปสู่ระดับการใช้งานจริง โดยทำหน้าที่เชื่อมโยงเทคโนโลยีควอนตัมเข้ากับภาคเศรษฐกิจ ผ่านความร่วมมือกับสถาบันการเงิน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อเร่งสร้าง “Quantum Economy” ในประเทศไทย
“เป้าหมายหลักคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานควอนตัมของประเทศ และผลักดันให้เทคโนโลยีนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบอุตสาหกรรมและนโยบายเศรษฐกิจในอนาคต” นายสุภัคกล่าว
MOU ฉบับนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการสร้างรากฐานเศรษฐกิจควอนตัมในภูมิภาค โดยเปลี่ยนแนวคิดจากการ “คำนวณให้เร็วขึ้น” สู่การ “คิดแบบใหม่” ที่จะกำหนดอนาคตของเทคโนโลยีและเศรษฐกิจไทยต่อไป
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Agoda เผย 67% ของนักพัฒนา ไม่ไว้ใจโค้ดที่ AI สร้างให้ 100%
LINE MAN ขึ้นอันดับ 1 ‘คนละครึ่งพลัส’ วันแรก กวาดร้านค้าทะลุ 3 หมื่น




