ในขณะที่องค์กรทั่วโลกเร่งนำ Agentic AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการเชื่อมต่อที่ซับซ้อนและการขาดมาตรการควบคุมความปลอดภัย พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ (Palo Alto Networks) ผู้นำด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ จึงเปิดตัว Cortex® AgentiX แพลตฟอร์มที่พัฒนาต่อยอดจาก Cortex XSOAR เพื่อเป็นโซลูชันที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ที่สุดในอุตสาหกรรม สำหรับการสร้าง ปรับใช้ และกำกับดูแล “AI Agent Workforce” หรือทีมงานเอเจนต์ AI แห่งอนาคต
AgentiX จะเริ่มต้นที่ ศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัย (SOC) โดยมีเป้าหมายเพื่อพลิกโฉมการทำงานแบบอัตโนมัติให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่รวดเร็วขึ้นถึง 100 เท่าด้วยพลังของ AI โดยบริษัทฯ ระบุว่า AgentiX สามารถลดเวลาเฉลี่ยในการแก้ปัญหา (MTTR – Mean Time To Response) ได้สูงสุดถึง 98% และลดงานที่ต้องทำด้วยคน (Manual Work) ได้มากถึง 75% เพื่อให้นักวิเคราะห์ SOC มีเวลาไปปฏิบัติงานเชิงกลยุทธ์ได้มากขึ้น
ผสานพลัง Agentic AI และการควบคุมระดับ Enterprise
โกเนน ฟิงค์ รองประธานบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ Cortex ของพาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ กล่าวว่า “การปล่อยให้ AI Agents ทำงานอย่างอิสระโดยไม่มีการควบคุมความปลอดภัยที่รัดกุม อาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรง นี่คือเหตุผลที่เราพัฒนา AgentiX บน Cortex Platform ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยและเชื่อถือได้”
AgentiX ได้ผสานพลังของ Agentic AI เข้ากับระบบควบคุม, การตรวจสอบย้อนกลับ (traceability) และการจัดการสิทธิ์การเข้าถึง (permission management) ที่องค์กรระดับเอนเตอร์ไพรซ์ต้องการอย่างครบถ้วน แพลตฟอร์มนี้แตกต่างจากการทำงานแบบเชิงเดี่ยว (Silo) เพราะมอบความสามารถในการทำงานอัตโนมัติครบวงจรแบบ End-to-End และเป็นแพลตฟอร์ม Agentic AI ที่พัฒนาบนพื้นฐานของความเป็นผู้นำด้าน Security Automation มากว่าทศวรรษ พร้อมการเชื่อมต่อสำเร็จรูปมากกว่า 1,000 รายการ
มอบความสามารถหลักเพื่อองค์กร:
1. นำเอเจนต์ด้านความปลอดภัยที่ชำนาญที่สุดในอุตสาหกรรมมาใช้งาน: AgentiX มาพร้อมกับ Prebuilt AI Agents ที่มีความสามารถเฉพาะทางเสมือนผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งรวมถึง:
- Threat Intelligence Agent: รวบรวมและเสริมข้อมูลข่าวกรองด้านภัยคุกคามเพื่อระบุรูปแบบการโจมตีใหม่ ๆ
- Email Investigation Agent: ตอบสนองต่อภัยคุกคามทางอีเมลโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่การค้นหา การวิเคราะห์ ไปจนถึงการกักกัน
- Endpoint Investigation Agent: วิเคราะห์ รวบรวมหลักฐานทางดิจิทัล และควบคุมกลุ่มเป้าหมายบนอุปกรณ์บนทุกแพลตฟอร์ม EDR
- Cloud Security Agent: รักษาความปลอดภัยสภาพแวดล้อมคลาวด์แบบครบวงจร
2. สร้างเอเจนต์ AI ที่ออกแบบเองได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด: องค์กรสามารถสร้างเอเจนต์ AI ประสิทธิภาพสูงได้อย่างรวดเร็วด้วยเครื่องมือ GenAI ที่ใช้งานง่ายและรองรับการเชื่อมต่อกว่า 1,000 รายการ ภายใต้ระบบการบริหารจัดการและควบคุมที่เข้มงวด
3. กำกับการทำงานอัตโนมัติด้วยมาตรการควบคุมระดับองค์กร: AgentiX ช่วยให้การทำงานของเอเจนต์ AI เป็นไปอย่างปลอดภัยด้วยระบบควบคุมการเข้าถึงตามบทบาท (RBAC) และกำหนดให้ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้เชี่ยวชาญสำหรับงานที่มีผลกระทบสูง โดยทุกการกระทำจะถูกบันทึกและตรวจสอบได้ทั้งหมด เพื่อรองรับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและการกำกับดูแลที่เข้มงวด
ฟรานซิส โอดัม ผู้ก่อตั้งธุรกิจวิเคราะห์ด้านซอฟต์แวร์และวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ (SACR) กล่าวว่า “Cortex AgentiX แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น เพราะได้สร้างเครือข่ายแรงงานเอเจนต์อัจฉริยะบนโครงสร้างพื้นฐานด้าน SecOps ของพาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ และผ่านการพิสูจน์ด้านเทคโนโลยี SOAR มาแล้วกว่าทศวรรษ ทำให้เอเจนต์ทุกตัวสามารถทำงานได้ภายในกรอบการทำงานอัตโนมัติที่ได้รับการควบคุมอย่างสมบูรณ์”
Cortex AgentiX พร้อมให้บริการแล้วบน Cortex Cloud™ และ Cortex XSIAM® สำหรับ Cortex XDR และแพลตฟอร์ม AgentiX ที่ทำงานแยกอิสระจะพร้อมให้บริการในช่วงต้นปี 2569
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
NEC ชู 3 โซลูชัน AI พลิกโฉม ‘คุณภาพชีวิต’ บุก Thailand Smart City Expo 2025
SCBX AI Battle: ปลุกพลังคนในองค์กรขับเคลื่อน AI สู่พิมพ์เขียว AI-first Organization




