สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ประกาศยกระดับการจัดการภัยพิบัติในประเทศไทยอย่างก้าวกระโดด โดยผนวกข้อมูลภูมิสารสนเทศจากดาวเทียมเข้ากับ Mobile Data ของ AIS เพื่อสร้างระบบ “การกู้ภัยอัจฉริยะ” ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการค้นหาและช่วยเหลือ “ผู้ประสบภัยตกสำรวจ”
ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญในการพลิกโฉมการทำงานของทีมกู้ภัย เนื่องจากข้อมูลจากดาวเทียมเพียงอย่างเดียวที่แสดงขอบเขตและระดับความลึกของน้ำท่วมไม่สามารถระบุตำแหน่งของประชาชนที่ติดค้างได้อย่างชัดเจน
Overlay ข้อมูล: กุญแจสู่การระบุพิกัดที่แม่นยำ

GISTDA ได้นำข้อมูลระดับความลึกของน้ำที่ได้จากการสกัดและติดตามพื้นที่น้ำท่วมจากดาวเทียม มาทำกระบวนการ “Overlay” (ซ้อนทับ) ร่วมกับ Mobile Data ของ AIS ผ่านการวิเคราะห์เชิงลึกทางด้านภูมิสารสนเทศ (Geoinformatics)
การซ้อนทับข้อมูลนี้ทำให้เจ้าหน้าที่มองเห็นภาพรวมที่ชัดเจน โดยสามารถระบุได้ว่า ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังสูงและเป็นอันตรายนั้น ยังมีกลุ่มสัญญาณโทรศัพท์ (กลุ่มคน) อาศัยอยู่ตรงจุดใดบ้าง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จำเป็นต้องเข้าช่วยเหลือเร่งด่วน
บริหารทรัพยากรและการติดตามแบบ Real-Time
ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการวิเคราะห์นี้ถูกนำมาใช้ในการจัดลำดับความสำคัญและวางแผนจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด:
- วางแผนกู้ภัย: จัดกลุ่มผู้ติดค้างขนาดเล็กหรือใหญ่ เพื่อเลือกใช้ยานพาหนะกู้ภัย (เรือเล็ก/เรือใหญ่) ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และจำนวนคน
- ติดตามสถานการณ์แบบ Real-Time: การใช้ Mobile Data ช่วยให้สามารถติดตามสถานการณ์ได้ในรูปแบบเกือบจะทันที หากจุดสัญญาณเคลื่อนที่ออกจากพื้นที่เสี่ยง หมายความว่าผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลือแล้ว ทำให้ทีมกู้ภัยสามารถบริหารจัดการกำลังพลและมุ่งหน้าไปยังจุดที่ยังมีการติดค้างอยู่ได้ทันที โดยไม่เสียเวลาวนค้นหาในจุดเดิม
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ชี้เป้า-เชื่อมโยง-ช่วยเหลือ: ปฏิบัติการเทคโนโลยีรับมือน้ำท่วมภาคใต้
เทคไทยระดม ‘AI-โดรน-ดาวเทียม’ กู้ภัยน้ำท่วมใต้




