Share on
×

Share

PACE Framework: สูตรลับปั้นยอดขาย TikTok Shop 2025

PACE Framework: สูตรลับปั้นยอดขาย TikTok Shop 2025

ในยุคที่ใครๆ ก็เป็นครีเอเตอร์ สงครามคอนเทนต์จึงไม่ได้วัดกันที่ว่าใคร ‘ตะโกนดังกว่า’ หรือกวาด ‘ยอดวิว’ ได้มากกว่าอีกต่อไป แต่วัดกันที่ใครสามารถเปลี่ยนสายตาที่จ้องมองจอ ให้กลายเป็นยอดคำสั่งซื้อได้เร็วกว่ากัน

เบื้องหลังปรากฏการณ์ #TikTokMadeMeBuyIt ที่สร้างยอดวิวกระหึ่มโลกกว่า 9,000 ล้านวิว ไม่ใช่เรื่องของความบังเอิญหรือโชคช่วย แต่เกิดจากโครงสร้างทางกลยุทธ์ที่ถูกวางหมากมาเป็นอย่างดี และในงาน iCreator Conference 2025 ความลับเบื้องหลังอัลกอริทึมแห่งความสำเร็จนั้นได้ถูกเปิดเผยออกมาอย่างหมดเปลือก

จิรภัทร บุญคลัง จากทีม Affiliate Marketing ของ TikTok Shop Thailand ได้ขึ้นเวที iCreator Conference 2026 พร้อมกับ ‘PACE Framework’ พิมพ์เขียวฉบับสมบูรณ์ที่ใช้ปั้นแบรนด์ระดับโลก นี่คือเซสชัน ‘Turn Creativity into Conversion’ ที่จะพาเราไปสำรวจกลไกเบื้องลึกของการเปลี่ยน ‘ความคิดสร้างสรรค์’ ให้เป็น ‘ตัวเลขผลประกอบการ’ ผ่านกระบวนการคิดที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า ‘เวิร์กจริง’ ในสมรภูมิการค้ายุคปัจจุบัน

Shoppertainment: เมื่อ ‘ความบันเทิง’ กลายเป็น ‘New Normal’ ที่เขย่าโลกการค้า

Shoppertainment

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเน้นย้ำบนเวที คือการมาถึงของยุค “Shoppertainment” ซึ่งไม่ใช่เพียงเทรนด์ชั่วคราว แต่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ผสาน “ความบันเทิง” (Entertainment) เข้ากับ “พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” (Commerce) ได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นปัจจัยหลักที่เข้ามาดิสรัปต์ (Disrupt) พฤติกรรมการจับจ่ายของผู้คนในยุคปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ

สิ้นสุดยุคสงครามราคา สู่ยุคแห่ง ‘รีวิว’: ตัวเลขสถิติชี้ชัดว่า ผู้บริโภคกว่า 60% ตัดสินใจซื้อสินค้าจากการได้รับชมวิดีโอรีวิวที่มีความจริงใจและน่าเชื่อถือ มากกว่าการตัดสินใจจากปัจจัยด้านราคาหรือโปรโมชั่นเพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีต สะท้อนให้เห็นว่า “คอนเทนต์” มีอิทธิพลเหนือ “ป้ายลดราคา”

มองหาประสบการณ์ที่ ‘ไร้รอยต่อ’ (Seamless Journey): พฤติกรรมความใจร้อนของผู้บริโภคยุคดิจิทัลทำให้พวกเขามองหาความสะดวกสบายสูงสุด โดยกว่า 80% ของผู้บริโภคระบุว่า พวกเขากำลังมองหาแพลตฟอร์มที่สามารถจบทุกขั้นตอนได้ในที่เดียว (One-stop Service) ตั้งแต่การค้นหาคลิปวิดีโอรีวิวเพื่อประกอบการตัดสินใจ ไปจนถึงการกดสั่งซื้อและชำระเงินโดยไม่ต้องสลับแอปพลิเคชัน

ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้จุดประกายให้เกิดปรากฏการณ์ระดับโลกผ่านแฮชแท็ก #TikTokMadeMeBuyIt ซึ่งเป็นการที่ผู้ใช้งานจริงออกมาทำคลิปรีวิวสินค้าที่ตนเองซื้อจนเกิดเป็นไวรัล ส่งผลให้มียอดการรับชมรวมสูงถึง 9,000 ล้านวิว ทั่วโลก

สำหรับประเทศไทยในปี 2025 ปรากฏการณ์นี้ได้ส่งผลให้ระบบนิเวศของ TikTok Shop Affiliate เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยปัจจุบันมีกองทัพครีเอเตอร์เข้ามาร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อสร้างรายได้แล้วกว่า 2 ล้านคน ก่อให้เกิดคอนเทนต์ E-commerce (ทั้งวิดีโอสั้นและไลฟ์สตรีม) หมุนเวียนอยู่ในระบบมากกว่า 100 ล้านคอนเทนต์ และหากนับรวมระยะเวลาการรับชมไลฟ์สตรีมติดตะกร้าสินค้าทั้งหมด จะคิดเป็นเวลาสูงถึง 20 ล้านชั่วโมง ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า Shoppertainment ได้กลายเป็นวิถีชีวิตปกติใหม่ของคนไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

PACE Framework: สูตรสำเร็จ 4 ทิศเปลี่ยนครีเอเตอร์ธรรมดาให้เป็น ‘นักขายมือทอง’

หัวใจสำคัญของการบรรยายในครั้งนี้ คือการเปิดเผย “PACE Framework” ซึ่งเปรียบเสมือนพิมพ์เขียวแห่งความสำเร็จที่ถูกใช้ในการปั้นแบรนด์บน TikTok Shop ทั่วโลกจนติดตลาดมาแล้ว โดยครีเอเตอร์สามารถนำกรอบแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่าน 4 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่:

1. P – Persona: ปั้น ‘ตัวตน’ ให้ชัด มัดใจกลุ่มเป้าหมายให้อยู่หมัด

จุดเริ่มต้นของการทำช่องให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่การรีบขาย แต่คือการสร้าง “Persona” หรือภาพลักษณ์ของครีเอเตอร์ให้ชัดเจน สิ่งสำคัญคือภาพลักษณ์นั้นต้องสอดคล้องกับทิศทาง (Direction) ของช่อง และต้องตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มเป้าหมายหลัก (Main Target Audience)

กลยุทธ์การสร้างตัวตน: ครีเอเตอร์ต้องเริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เราถนัดอะไร” และ “สินค้าที่จะนำมาขายนั้น เข้ากันได้กับสไตล์ของคอนเทนต์หรือไม่” อีกหนึ่งปัจจัยที่ขาดไม่ได้คือการหมั่นสร้างปฏิสัมพันธ์ (Engage) กับผู้ติดตามอย่างสม่ำเสมอ เพราะผู้ติดตามเหล่านี้คือสินทรัพย์ล้ำค่าที่จะเปลี่ยนจากยอดการรับชมให้กลายเป็นยอดขายในที่สุด

กรณีศึกษา: ตัวอย่างความสำเร็จที่ชัดเจนคือ “คุณพริว” ครีเอเตอร์สายบิวตี้ ที่สามารถปรับตัวเข้าสู่การทำ Affiliate ได้อย่างแนบเนียน โดยที่เธอไม่ได้ทิ้งตัวตนเดิม แต่เลือกที่จะนำเทคนิคการขายสินค้ามาผสมผสานเข้ากับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของช่อง ผลลัพธ์คือเธอสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน

2. A – Assortment: ศิลปะการคัดสรร ‘สินค้า’ ที่ใช่ ในเวลาที่เหมาะสม

เมื่อตัวตนชัดเจนแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือ “Assortment” หรือการเลือกสินค้าเข้ามาจำหน่าย หลักการสำคัญคือสินค้าที่เลือกมาจะต้องมีความสอดคล้องกับทั้ง Persona ของครีเอเตอร์ และความสนใจของกลุ่มผู้ชม ทั้งในแง่ของความน่าดึงดูดและความคุ้มค่า หากเลือกสินค้าได้ตรงจุด จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายและยอดการมีส่วนร่วมได้สูงกว่าปกติถึง 2 เท่า

โอกาสทองของครีเอเตอร์: ปัจจุบัน TikTok Shop มีฟีเจอร์ Affiliate Product Marketplace ซึ่งเป็นคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่มีสินค้าคุณภาพให้เลือกสรรกว่า 2 ล้านรายการ จากแบรนด์และร้านค้าชั้นนำกว่า 200,000 ราย ซึ่งครีเอเตอร์สามารถเลือกสินค้าที่เหมาะกับช่องของตนเอง และยังสามารถกดขอสินค้าตัวอย่างเพื่อนำมาผลิตคอนเทนต์จริงได้อีกด้วย

3. C – Content: ชนะใจด้วย ‘คุณภาพ’ ยืนระยะด้วย ‘ความสม่ำเสมอ’

ท่ามกลางสงครามคอนเทนต์ที่ดุเดือด สิ่งที่จะทำให้ครีเอเตอร์โดดเด่นออกมาจากคนอื่นได้คือ “Content Quality” หรือคุณภาพของเนื้อหา

กลยุทธ์การผลิต: คอนเทนต์ที่ดีต้องไม่ได้ทำหน้าที่แค่โชว์สินค้า แต่ต้องตอบโจทย์ความชื่นชอบและสามารถแก้ปัญหา (Pain Point) ให้กับผู้ชมได้ เมื่อผู้ชมรู้สึกว่าปัญหานั้นได้รับการแก้ไข ความต้องการซื้อก็จะเกิดขึ้นตามมา

ความสม่ำเสมอคือกุญแจ: เพื่อให้ระบบอัลกอริทึมของ TikTok นำส่งคอนเทนต์ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ครีเอเตอร์ควรรักษาความถี่ในการโพสต์ไว้อย่างต่อเนื่องที่ประมาณ 5-7 คอนเทนต์ต่อสัปดาห์

ผลลัพธ์ที่วัดได้: ข้อมูลยืนยันชัดเจนว่า ครีเอเตอร์ที่ให้ความสำคัญกับการทำ Live Stream อย่างมีคุณภาพ จะสามารถสร้างยอดเข้าชม (Traffic), ยอดขาย และอัตราการเติบโตของผู้ติดตามได้สูงกว่าครีเอเตอร์ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด

4. E – Empowerment: อย่าโตคนเดียว ให้ใช้ ‘ตัวช่วย’ ขับเคลื่อนความสำเร็จ

องค์ประกอบสุดท้ายคือ “Empowerment” หรือการใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศ (Ecosystem) ของแพลตฟอร์มเพื่อเร่งการเติบโต แทนที่จะพยายามเติบโตด้วยตัวคนเดียว ครีเอเตอร์ควรแสวงหาความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกับ Agency Partner จะช่วยสนับสนุนทั้งด้านการผลิตคอนเทนต์และการเชื่อมต่อกับแบรนด์

หรือการสนับสนุนจากแบรนด์ ครีเอเตอร์สามารถเจรจากับร้านค้าหรือแบรนด์โดยตรงผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อขอรับการสนับสนุนพิเศษ เช่น งบประมาณในการยิงโฆษณา (Ads Credit) หรือโปรโมชั่นราคาพิเศษเฉพาะช่อง และ พลังของแคมเปญ การเข้าร่วมแคมเปญใหญ่ของแพลตฟอร์ม เช่น Mega Campaign หรือแคมเปญเลขเบิ้ล (Double Digit) เป็นโอกาสสำคัญในการเพิ่มการมองเห็นและกวาดรายได้มหาศาลในช่วงเวลาสั้น ๆ

รู้ทัน ‘กฎเหล็ก’ Affiliate: เกราะป้องกันที่ไม่ควรละเลย

นอกเหนือจากการเรียนรู้เทคนิคเชิงรุกเพื่อสร้างยอดขายแล้ว อีกหนึ่งมิติที่ทาง TikTok Shop ให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือ “ความปลอดภัยของบัญชี” โดยคุณจิรภัทรได้เน้นย้ำถึง Basic Do & Don’t หรือข้อควรระวังพื้นฐานที่ครีเอเตอร์มักทำพลาด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสถานะของช่องได้ โดยมี 3 กฎเหล็กสำคัญที่ต้องท่องให้ขึ้นใจ ดังนี้:

  • ห้ามทำคอนเทนต์ ‘สินค้าทิพย์’ การทำคอนเทนต์รีวิวที่ดีจะต้องมีสินค้าจริงปรากฏอยู่ในวิดีโอ (Physical Product) หรือมีการสาธิตวิธีการใช้งานให้ผู้ชมเห็นอย่างชัดเจน การทำคอนเทนต์ที่พูดลอยๆ โดยไม่มีสินค้า ไม่เพียงแต่จะผิดกฎชุมชน แต่ยังลดทอนความน่าเชื่อถือที่ผู้ชมมีต่อครีเอเตอร์อีกด้วย
  • ระวังการเคลมเกินจริง (Overclaim) ปัญหานี้มักพบได้บ่อยในกลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม ทางออกที่ปลอดภัยที่สุดคือการยึดข้อมูลสรรพคุณตามที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์หรือฉลากสินค้าเป็นหลัก หลีกเลี่ยงการให้สัญญาเกินจริงเรื่องผลลัพธ์หรือระยะเวลาที่เห็นผล เพราะอาจเข้าข่ายการให้ข้อมูลเท็จ
  • รักษาความเป็นส่วนตัว (Privacy First) ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในคอนเทนต์สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ หรือที่อยู่ อย่างไรก็ตาม ครีเอเตอร์ยังสามารถแนะนำให้ลูกค้าทักแชทส่วนตัวเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามปกติ

เมื่อได้รับใบเหลืองแจ้งเตือนละเมิดต้องรับมืออย่างไร?

เป็นเรื่องปกติที่ครีเอเตอร์อาจได้รับการแจ้งเตือนการละเมิดกฎ (Violation Warning) แต่สิ่งที่คุณจิรภัทรเน้นย้ำว่าเป็นข้อผิดพลาดร้ายแรงที่สุดคือ “การตกใจแล้วรีบลบคลิป” เพราะเมื่อคลิปถูกลบ ระบบจะไม่สามารถดึงข้อมูลกลับมาตรวจสอบความบริสุทธิ์ใจของเราได้อีกต่อไป

ขั้นตอนที่ถูกต้องในการกู้คืนสถานะคือ

  • ตั้งสติและตรวจสอบ: เข้าไปอ่านรายละเอียดในข้อความแจ้งเตือน (Notification) ให้ชัดเจนว่าระบบแจ้งว่าเราผิดในประเด็นใด
  • ยื่นอุทธรณ์ (Appeal): หากเรามั่นใจว่าคอนเทนต์ของเราถูกต้องตามกฎ ให้กดปุ่ม “ยื่นอุทธรณ์” ทันที

กุญแจสู่ความสำเร็จ (Key Success): ลำพังแค่การกดปุ่มยื่นอุทธรณ์อาจไม่เพียงพอ สิ่งสำคัญคือการพิมพ์คำอธิบายชี้แจงอย่างละเอียด และที่ขาดไม่ได้คือ “หลักฐาน” เช่น ภาพถ่ายฉลากสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์ เพื่อยืนยันกับระบบตรวจสอบว่า สิ่งที่เราพูดในคลิปตรงกับข้อมูลจริงของสินค้าทุกประการ

จากครีเอเตอร์สู่นักธุรกิจคอนเทนต์มืออาชีพ

การเติบโตบนสมรภูมิ TikTok Shop ในปี 2025 คือ เรื่องของการวาง “กลยุทธ์” (Strategy) ที่แม่นยำ ผสานกับ “คุณภาพ” (Quality) ของคอนเทนต์ที่สม่ำเสมอ

การนำ PACE Framework (Persona, Assortment, Content, Empowerment) มาปรับใช้เป็นเข็มทิศในการทำงาน ควบคู่ไปกับความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎระเบียบชุมชนอย่างเคร่งครัด จะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพ ให้ครีเอเตอร์สามารถยกระดับจาก “คนทำคอนเทนต์ทั่วไป” ให้กลายเป็น “นักขายมือทอง” ที่สามารถเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ให้กลายเป็นยอดขาย (Conversion) ได้อย่างยั่งยืนในที่สุด

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เดิมพันอนาคตครีเอเตอร์ : เมื่อ ‘ยอดวิว’ ไม่ใช่คำตอบ ทางรอดเดียวคือต้อง ‘รวมตัว’

เศรษฐกิจไทยในทศวรรษหน้า: เมื่อ ‘ข้อมูล’ คือลมหายใจใหม่ ที่จะพลิกชีวิต ‘คนตัวเล็ก’

×

Share

ผู้เขียน