พัฒนาการของ AI ก้าวกระโดดอย่างไม่หยุดยั้ง จาก 3 ปีก่อนยังมีฐานะเพียงผู้ช่วย แต่ปัจจุบันยกระดับสู่เพื่อนร่วมงาน ด้วยความสามารถที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และถูกต้องแม่นยำขึ้น องค์กรต่างๆ จึงต้องการนำไปใช้ และต้องการแรงงานที่มีทักษะ AI มากขึ้น
จากเวทีเสวนาหัวข้อ “การเปลี่ยนผ่านจากผู้ใช้งานสู่ผู้สร้างนวัตกรรม และการเตรียมความพร้อมของแรงงานไทยในยุค Workforce 5.0” จัดโดยไมโครซอฟท์ ร่วมกับกระทรวงแรงงาน มีข้อมูลน่าสนใจ ซึ่งถ่ายทอดโดยวิทยากรเฉพาะสาขาดังนี้
มนต์ทิพย์ สัมพันธวงศ์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสังคม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช. หรือสภาพัฒน์) ถวัลย์ น้อยอุทัย ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคคลากรดิจิทัล กระทรวงแรงงาน ผศ.ดร.ภูริพัฒน์ ชาญกิจ รักษาการแทนผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ดร.เทพชัย ทรัพย์นิธิ นายกสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย ดำเนินรายการโดย สุภารัตน์ จูระมงคล ผู้อำนวยการด้านทักษะเอไอ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด
แผน 13 มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจนวัตกรรม
คุณมนต์ทิพย์ เล่าถึงกลยุทธ์ระดับชาติในการยกระดับแรงงานไทยสู่ผู้สร้างนวัตกรรมในยุค 5.0 ว่า ต้องอาศัยการบูรณาการในหลายภาคส่วน โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนบทบาทของแรงงานไทยจากการเป็น user สู่การเป็นcreator ควบคู่กับ AI ในยุค Workforce 5.0
การจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 มุ่งเน้นการขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจนวัตกรรม และต้องการเห็นการพัฒนาคนโดยใช้เทคโนโลยี มุ่งพัฒนากำลังคนโดยเน้นทักษะด้าน STEM ส่งเสริมมาตรการ Upskill และ Reskill อย่างจริงจัง
ตั้ง AI Sandbox เพื่อแรงงาน
ส่วนคุณถวัลย์ บอกว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้ปรับนโยบายเพื่อเปลี่ยนกระบวนการฝึกฝนจาก “ใช้เป็น” ไปสู่การเป็น ผู้สร้าง และ Productivity โดยปรับปรุงหลักสูตรอบรมให้เน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลิตผลแก่แรงงานและองค์กร ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่รวดเร็วและทันสมัย ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อสร้างพื้นที่ให้กำลังแรงงานมีโอกาสทดลองระบบ และใช้เครื่องมือดิจิทัล
ทั้งนี้ กรมฯ มีแผนจะจัดตั้ง AI Sandbox ให้แรงงาน รวมถึงแรงงานนอกระบบได้ทดลองใช้เทคโนโลยีแบบไม่จำกัด รวมทั้งการขยายการเข้าถึงให้แรงงานเรียนรู้เทคโนโลยีด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ DSD Online Training ให้แรงงานเรียนรู้เทคโนโลยีได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น iPad ผลักดันทักษะที่จำเป็นต่ออนาคต
มสธ. สอนให้ทำงานร่วม AI
ในฐานะของมหาวิทยาลัยที่เน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผศ.ดร.ภูริพัฒน์บอกว่า มสธ. มีบทบาทในการเตรียมแรงงานให้เป็นผู้สร้างผ่านการปรับหลักสูตร โดยนำ AI เข้าไปใช้ในทุกหลักสูตร ทุกชุดวิชา โดยไม่ถือเป็นเพียงวิชาเลือก สอนให้นักศึกษามอง AI เป็น co-creator เน้นการเรียนรู้แบบ Project-Based Learning ให้นักศึกษาได้ลงมือทำโครงการจริงและทำงานเป็นกลุ่ม
กระบวนการเรียนรู้ของ มสธ. มุ่งเน้นการพัฒนากระบวนการคิดและทักษะด้านมนุษย์ เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอนให้นักศึกษาใช้วิจารณญาณและวิเคราะห์คำตอบที่ได้จาก AI ว่า ถูก หรือผิดตามหลักที่ได้เรียนในชั้นมาแล้ว เพราะสุดท้ายมนุษย์ต้องเป็นผู้ตัดสิน เน้นย้ำความสามารถและความปรารถนาที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดชีวิต และเนื่องจากผู้เรียนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแรงงาน มสธ. จึงปรับรูปแบบการเรียนรู้ เปลี่ยนจากการใช้สื่อแบบเดิมสู่ Digital Transformation และ AI Transformation รวมถึงการสร้างพันธมิตรกับหน่วยงานภายนอกเพื่อให้หลักสูตรมีความเฉพาะเจาะจงและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานแต่ละกลุ่ม
คลื่นลูกใหญ่ สร้างโอกาส
ด้าน ดร.เทพชัย แนะนำให้มอง AI ในฐานะคลื่นลูกใหญ่และเป็นโอกาส ดังนั้นการปรับตัวจึงทำโดยลำพังไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การมาถึงของ AI ถือเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับกลุ่มแรงงาน
อย่างไรก็ตาม องค์กรต้องปรับตัวโดยอบรม Soft Skill แก่แรงงาน เช่น AI Engineer มักเป็นกลุ่ม Introvert อาจขาดทักษะในการคุยกับคนอื่น องค์กรต้องสร้างเสริมทักษะด้าน People Skill และ Social Skill ให้ออกไปทำงานร่วมกับโลกภายนอกได้ และปรับทักษะที่หลากหลายตามอาชีพ
ทะลุเป้าอบรม AI กว่า 1.6 ล้านคน
ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย และตลาดใหม่ เล่าว่า เดือนสิงหาคม 2568 มียอดอบรมทักษะ AI แก่คนไทยจำนวน 1.6 ล้านคน จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 1 ล้านคน และมีแผนจะปรับเป้าหมายใหม่ในอนาคต
ล่าสุด ได้ร่วมมือกับกระทรวงแรงงานในโครงการ AI for Workforce โดยมีเป้าหมายพัฒนาทักษะ AI ให้แก่แรงงานไทยทั่วประเทศจำนวน 1.5 แสนคน ผ่านช่องทางที่หลากหลาย รวมถึงการสนับสนุนการขับเคลื่อน AI Transformation ภายในกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน สนับสนุนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของประเทศไทย และขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของประเทศสู่ Workforce 5.0
–ไมโครซอฟท์ ประกาศแผน ‘สร้างอนาคตประเทศไทยด้วย AI’ เร่งขับเคลื่อนไทยเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล
ประกอบด้วย การจัดอบรมทักษะ AI พื้นฐานผ่านแพลตฟอร์ม DSD Online Training ที่มีหลักสูตร AI ภาษาไทยกว่า 280 หลักสูตร ซึ่งผู้เรียนจะได้รับประกาศนียบัตรรับรองร่วมกันจากทั้งสองหน่วยงาน การฝึกอบรมเชิงลึกด้าน Data Analytics สำหรับผู้ต้องการพัฒนาเป็นนักพัฒนา (Developer) การพัฒนาขีดความสามารถสำหรับผู้กำหนดนโยบายและผู้บริหารของกรมฯ
การฝึกอบรมสำหรับแรงงานที่กำลังว่างงานหรือเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้าง การถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่วิทยากรผู้ฝึกทั่วประเทศให้สามารถจัดการอบรมทักษะ AI เพิ่มขีดความสามารถของแรงงานในทุกจังหวัด รวมถึงการจัดอบรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของกรมฯ เพื่อให้พร้อมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้าน AI ภายในองค์กร
นายจ้างต้องการพนักงานรู้ AI
ทั้งนี้ สอดคล้องกับผลสำรวจของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานพบว่า
ภายใน 5 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะต้องการบุคลากรทักษะสูงอีกกว่า 1,087,548 คน ผู้ประกอบการ 41% ต้องการพนักงานที่มีทักษะด้าน Generative AI และ 69% ของผู้ประกอบการไทยจะจ้างงานในตำแหน่งด้านดิจิทัลเพิ่มขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายความร่วมมือฝึกอบรม AI กับหน่วยงานอื่นๆ อีกหลายแห่ง เพื่อขยายความรับรู้ทักษะ AI แก่คนไทยในวงกว้างยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบันความสามารถของ AI สูงขึ้นเทียบเท่าผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก แต่ทั้งนี้ การจะนำไปใช้งานต้องกระทำอย่างเหมาะสม คนทำงานต้องเปิดใจไม่ต้องกลัว AI จะมาแทนที่ เพราะโอกาสเป็นของคนที่เข้าถึง AI มากกว่า และ AI ยังเข้าถึงได้ง่ายกว่าเทคโนโลยีในอดีตมหาศาล ไม่จำเป็นต้องเข้าใจเทคโนโลยีก็ใช้งาน AI ได้ เพียงใช้ภาษามนุษย์ธรรมดาเท่านั้น
“AI วันนี้ เที่ยงตรงมากขึ้น เมื่อสั่งงานไป หากไม่เข้าใจจะถามกลับ เพื่อทำตามคำสั่ง เป็นวิวัฒนาการจากผู้ช่วย สู่ลูกน้อง หรือเพื่อนร่วมงาน การสร้างแอปทำได้ด้วยภาษามนุษย์”
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Active Earner : ทางรอดคนทำงาน ยุค ‘ยิ่งขยัน ยิ่งไม่มั่นคง’
ทรู – จุฬาฯ – MIT และเอกชน เปิดหลักสูตร ‘Chula LGO’ ปั้นผู้นำวิศวะ x บริหาร
