การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้สร้างแรงกระเพื่อมต่อโลกการลงทุนอย่างมหาศาล จนทำให้ทิศทางตลาดทุนเต็มไปด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอน ล่าสุดบนเวทีสัมมนา “Follow the Future: Win the AI Era, Seize the Alpha, Survive the Bubbles” ที่จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investor – VI) ระดับตำนานของไทย ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษเพื่อเปิดมุมมองต่อโลกการลงทุนที่กำลังถูกท้าทายด้วยเทคโนโลยี พร้อมชี้ช่องทางให้นักลงทุนสามารถ “ชนะ” และ “รอด” ในสถานการณ์ปัจจุบัน
บทบาทของ AI: ดาบสองคมในโลกธุรกิจ
ดร.นิเวศน์ เริ่มต้นด้วยการยอมรับถึงศักยภาพของเทคโนโลยี โดยเปิดเผยประสบการณ์ส่วนตัวในการทดลองใช้งาน AI อย่าง ChatGPT เพื่อช่วยเตรียมข้อมูลสำหรับการบรรยาย ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่า AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity) และลดต้นทุนได้อย่างมหาศาล
อย่างไรก็ตาม ในฐานะนักวิเคราะห์ธุรกิจที่มองเกมอย่างลึกซึ้ง ดร.นิเวศน์ ระบุว่า เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ทุกบริษัทสามารถเข้าถึงได้ (Commodity) ความได้เปรียบในการแข่งขันจะลดน้อยถอยลง
“เมื่อทุกบริษัทใช้ AI เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพได้เหมือนกันหมด สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด สุดท้ายแล้วกำไรส่วนเกินที่บริษัทคาดหวังอาจไม่เกิดขึ้นจริง ผู้ชนะที่แท้จริงในเกมนี้คือ ‘ผู้บริโภค’ ที่ได้สินค้าและบริการที่ดีขึ้นในราคาที่ถูกลง ในขณะที่ภาคธุรกิจอาจต้องเผชิญกับสภาวะ Red Ocean ที่เหนื่อยยากกว่าเดิม”
สัญญาณเตือนภัย: จาก “Dot-com” สู่ “AI Bubble”
ภายใต้หัวข้อ “Survive the Bubbles” หรือการเอาตัวรอดจากฟองสบู่ ดร.นิเวศน์ ได้เชื่อมโยงสถานการณ์ปัจจุบันกับบทเรียนในอดีต โดยเฉพาะเหตุการณ์ฟองสบู่ดอทคอม (Dot-com Bubble) ในปี ค.ศ. 2000
ดร.นิเวศน์ ยกตัวอย่างความร้อนแรงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิป AI ในปัจจุบัน ที่มีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) สูงถึงระดับ 50-100 เท่า เทียบเคียงกับบริษัท Cisco Systems ในอดีต ซึ่งเคยเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่ราคาทะยานขึ้นไปสูงลิ่วด้วยความคาดหวัง แต่เมื่อความต้องการชะลอตัวลง ราคาหุ้นก็ปรับตัวลงอย่างรุนแรงและไม่สามารถกลับไปสู่จุดเดิมได้อีก
“นักลงทุนต้องระมัดระวังการไล่ราคาหุ้นตามกระแส (FOMO) โดยไม่ได้ดูมูลค่าที่แท้จริง เพราะประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอยเสมอ หากความคาดหวังล่วงหน้าวิ่งไปไกลกว่าความเป็นจริงที่ธุรกิจจะทำได้”
ตามหา “Alpha” ในสมรภูมิเวียดนาม
สำหรับโจทย์ “Seize the Alpha” หรือการช่วงชิงผลตอบแทนส่วนเกินที่ชนะตลาด ดร.นิเวศน์ ให้มุมมองว่า ตลาดหุ้นไทยและตลาดที่พัฒนาแล้วในปัจจุบัน ถูกขับเคลื่อนด้วยระบบ AI และ Robot Trading เป็นสัดส่วนหลัก ทำให้ตลาดมีประสิทธิภาพสูงจนยากที่นักลงทุน VI จะหาหุ้นราคาถูกผิดปกติ (Mispricing) ได้พบ
ดร.นิเวศน์ จึงฟันธงว่า “เวียดนาม” คือคำตอบสุดท้ายสำหรับนักลงทุน VI ในเวลานี้ ด้วยเหตุผลสำคัญที่สอดคล้องกับหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
สนามรบของมนุษย์ (Human-Dominated Market): ตลาดหุ้นเวียดนามยังมีสัดส่วนนักลงทุนรายย่อยสูง การซื้อขายยังขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และการตัดสินใจของมนุษย์ ซึ่งมักจะสร้างความผันผวนและโอกาสให้นักลงทุนที่ใช้เหตุผลสามารถทำกำไรได้
ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง: เศรษฐกิจเวียดนามยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น มีการเติบโตของ GDP และภาคการผลิตที่ชัดเจน
มูลค่าที่ยังไม่แพง: ค่า P/E ของตลาดหุ้นเวียดนามยังอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับศักยภาพการเติบโต ซึ่งถือเป็น “ส่วนเผื่อความปลอดภัย” (Margin of Safety) ที่สำคัญสำหรับนักลงทุน
ยืนหยัดในหลักการแม้โลกจะเปลี่ยนไป
ดร.นิเวศน์ ทิ้งท้ายบนเวที Follow the Future ว่า แม้โลกจะหมุนเร็วขึ้นด้วยเทคโนโลยี แต่หัวใจของความสำเร็จในการลงทุนยังคงเป็นเรื่องของ “ความอดทน” และ “การเลือกสนามเล่นที่ถูกต้อง”
“เราไม่จำเป็นต้องชนะในเกมที่ AI เป็นคนกำหนดกติกา แต่เราสามารถเลือกไปเล่นในเกมที่เรามีความได้เปรียบ เกมที่มูลค่าพื้นฐานยังเป็นสิ่งสำคัญที่สุด นั่นคือวิถีทางที่จะทำให้เราชนะในโลก AI และรอดพ้นจากฟองสบู่ได้อย่างยั่งยืน”
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
BAM แก้หนี้ – Easy Money เติมทุน: ทางออกใหม่คนไทย
17 ปี ‘คิดไม่เหมือนใคร’: แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พลิกสูตรโรงแรม 5 ดาว สู่เป้า 10,000 ล้านบาท




